วานนี้ (๒๖ ธันวาคม) ครบรอบ ๑๗ ปี เหตุการณ์สึนามิถล่มชายฝั่งอันดามัน
ทั้งไทย-เทศ เสียชีวิตไปกว่า ๕ พันคน
ผู้คนจำนวนหนึ่งยังมีความทรงจำที่เลวร้ายจากธรรมชาติ
แต่ส่วนใหญ่ลืมไปหมดแล้ว
ไม่ได้ลืมสึนามิ
แต่ลืมวิธีเอาตัวรอดจากสึนามิ
อาจเป็นเพราะสึนามิไม่ได้เกิดกันบ่อยๆ การระวังภัยจากสิ่งที่นานๆ เกิดครั้งจึงหย่อนยาน ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์
ก็น่าแปลกใจ ภัยบางอย่างเกิดซ้ำซาก กลับไม่ค่อยจำ โดยเฉพาะภัยการเมือง
ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา เขาโหวตตั้งฉายาของรัฐสภา เพื่อเป็นการสะท้อนการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนใหญ่ก็ตรงปก
สภาอับปาง เพราะล่มบ่อยครั้ง
ถึบจะล่มบ่อย ก็ยังกลับเข้าฝั่งได้เกือบทุกราย ถือเป็นคุณลักษณะวิเศษของนักการเมืองไทย ทำสภาล่ม ไม่มีใครต้องรับผิดชอบ
รัฐบาลโทษฝ่ายค้าน
ฝ่ายค้านก็โทษรัฐบาล
ประชาชนได้แต่นั่งงงในดงบาทา ไม่รู้สภาผู้แทนราษฎรมีหน้าที่ทำอะไรกันแน่ ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ กับฝ่ายเล่นเกมการเมือง
ก็เพราะเกมการเมืองนี่แหละพาประเทศเข้าสู่ความฉิบหายมาแล้วหลายรอบ
ในสภาแทนที่จะใช้เหตุผลพูดคุยกัน อย่างน้อยก็เป็นแบบอย่าง เป็นเบ้าหลอมให้กับสังคมไทย ลดความขัดแย้งทางการเมือง
แต่กลับใช้เกม ช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง
เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายตนเป็นหลัก
ถามว่านักการเมืองใช้เหตุผลในการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัตินั้น เป็นแนวคิดเชิงอุดมคติ ไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้ จริงหรือเปล่า?
เป็นไปได้หรือที่ฝ่ายค้านจะสนับสนุนรัฐบาล
หรือรัฐบาลเห็นดีเห็นงามกับฝ่ายค้าน
การเมืองจะเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้เป็นระยะๆ
ล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วุฒิสมาชิกสหรัฐลงมติด้วยคะแนนเสียง ๕๖ ต่อ ๔๔ เสียง ตัดสินให้การไต่สวนถอดถอนต่ออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ครั้งที่ ๒ เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ
และให้เดินหน้าการไต่สวนต่อไป
มี ส.ว.จากพรรครีพับลิกันถึง ๖ คน เปลี่ยนฝั่งมาโหวตสนับสนุนให้พรรคเดโมแครตด้วย
การเมืองเคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะใกล้เคียงกันนี้มาบ้างเหมือนกัน
ย้อนกลับไปปี ๒๕๓๘ รัฐบาลชวน ๑ สิ้นสุดลง เมื่อสมาชิกคณะรัฐมนตรีบางคนไปมีส่วนในเอกสารโครงการปฏิรูปที่ดิน สปก.๔-๐๑ ที่ภูเก็ต
เกิดกระแสการวิจารณ์โจมตีรัฐบาลจากสาธารณะและสื่ออย่างหนัก
ฝ่ายค้านนำโดย บรรหาร ศิลปอาชา ผู้นำฝ่ายค้าน หยิบเป็นประเด็นหลักในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
เมื่อถึงกำหนดวันลงมติ พรรคพลังธรรมซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เห็นว่ารัฐบาลตอบคำถามในการอภิปรายไม่ไว้วางใจคลุมเครือ
ไม่ชัดเจน
จึงได้มีมติงดออกเสียง
นายกฯ ชวนจึงต้องประกาศยุบสภา เลือกตั้งกันใหม่
แต่การเมืองยุคหลังจากนั้น หาสปิริตแบบนี้ไม่ได้ ต่อเนื่องยาวนานมาถึงปัจจุบัน
มันเหลือเชื่อว่า ยังมีพรรคการเมืองที่ยอมอยู่ใต้อิทธิพลของคนโกงอย่างเปิดเผย
และคนโกงยังคงมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งมาร่วม ๑๕ ปี พร้อมๆ กับสร้างความขัดแย้งในบ้านเมืองมาอย่างต่อเนื่อง
ครับ...นักข่าวสภาตั้งฉายาให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็น "ดาวเด่นแห่งปี"
พร้อมเหตุผลประกอบ
...นพ.ชลน่านมีบทบาทในวิปฝ่ายค้านมานาน แต่กลับพลาดตำแหน่งสำคัญๆ ทว่า คนเป็นดาวเด่นย่อมมีแสงในตัวเอง
เขาโด่ดเด่นในสภาตลอดมา การอภิปรายสภาแต่ละครั้งมีหลักการและเหตุผล สามารถโน้มน้าวใจให้ ส.ส.เห็นด้วยกับสิ่งที่อภิปราย
โดยไม่มีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย
สุดท้ายผลงานเข้าตาผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย จนได้รับการผลักดันให้เป็นหัวหน้าพรรค และขึ้นเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภา...
การให้เหตุผลอาจผิดพลาดในแง่ปรากฏการณ์ทางการเมืองอยู่บ้าง
"หมอชลน่าน" เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แทนที่ "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" คือปรากฏการณ์เดียวกับการเปลี่ยนผ่านหัวหน้าพรรคจาก "สุชาติ ธาดาธำรงเวช" เป็น "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ"
"ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" มาตามใบสั่งนายใหญ่ เพื่อส่งให้ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เป็นนายกรัฐมนตรี
และทำสำเร็จ
ก่อนที่คนหนึ่งติดคุก อีกคนหนีไปต่างประเทศ
"ชลน่าน ศรีแก้ว" ก็เข้ามาทำภารกิจพิเศษ ผลักดันให้ "แพทองธาร ชินวัตร" เป็นนายกฯ
จะสำเร็จอีกครั้งหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้
แต่ที่เสร็จไปแล้วคือ คนโกงยังมีบทบาทเหนือพรรคการเมือง
ยังคงมีใบสั่งจากดูไบเช่นเคย
เมื่อนักข่าวสภายกเลิกฉายา "คนดีศรีสภา" แบบถาวร มันก็ควรจะเป็นเช่นนั้น
ไปดูเหตุผลประกอบกันก่อน
...เป็นเวลาหลายปีแล้วที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภาไม่ได้มอบตำแหน่งคนดีศรีสภาให้กับสมาชิกรัฐสภา เนื่องจากท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจ
ไม่ปรากฏว่ามีสมาชิกรัฐสภาคนใดที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีในการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ
ดังนั้นสื่อมวลชนประจำรัฐสภาจึงมีความเห็นร่วมกันว่าสมควรยกเลิกตำแหน่งนี้เป็นการถาวร
จนกว่าในอนาคตจะมีสมาชิกรัฐสภาที่มีความประพฤติที่เหมาะสมกับตำแหน่งดังกล่าวต่อไป...
แต่มีคำถามตัวโตๆ ว่า รัฐสภาไทยไม่มีคนดีอยู่เลยหรือ
ถ้าดี ต้องดีขนาดไหน
ถึงจะเรียกว่า "คนดีศรีสภา"
ตำแหน่งนี้ถูกแทงบัญชีสูญมาหลายปี
และมีแนวโน้มสูงว่า...
อาจไม่มีตลอดกาล
ซึ่งมันคือหายนะของการเมืองไทยชัดๆ
แต่สะท้อนให้เห็นว่านักข่าวสภามีมาตรฐานสูงมากในการกำหนดตัวบุคคล
เพราะถ้าไม่ดีจริง ถูกสวดยับ!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทลายทุนผูกขาด
ชื่นใจ... ชื่นใจในความรวยของเศรษฐีไทยครับ วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยติดต่อกันปีนี้เป็นปีที่ ๓๑ แล้วครับ
นายกฯ ฝึกงาน
ขยี้ตาสิบที... แถลงผลงานในรอบ ๓ เดือนแน่นะ "อิ๊งค์" ไปดูอีกทีกับการแถลงข่าววานนี้ (๑๒ ธันวาคม)
ชะตากรรม 'นายกฯ ชินวัตร'
วันนี้ (๑๒ ธันวาคม) นายกฯ อิ๊งค์ แถลงผลงาน อยากรู้ว่าผลงานมีอะไรบ้าง เชิญเฝ้าหน้าจอสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที หรือช่อง ๑๑ นั่นแหละครับ
ในวันที่ 'ส้ม' โหยหาเพื่อน
ไอ้เสือถอย! ไปไม่ถึงสุดซอยครับ "หัวเขียง" ยอมเลี้ยวกลับเสียก่อน
ง่ายๆ แค่เลิกโกง
อาจถึงขั้นเปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาลกันเลยทีเดียวครับ... หากพรรคเพื่อไทย จะเอาให้ได้ กับร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ด้วยการจับยัดเข้าสภาฯ ก็สามารถยึดอำนาจกองทัพได้สำเร็จครับ
'อุ๊งอิ๊ง' แถลงผลงาน
ล้างตารอไว้นะครับ นายกฯ แพทองธาร นัดไว้แล้ววันที่ ๑๒ ธันวาคม มีข่าวใหญ่