“พวกเรายังรักและนับถือพี่แอ๊ดเสมอเสมอและตลอดไป ไม่เกี่ยวกับลูกพี่ ขอบคุณค่ะ”
นี่..เป็นข้อความทิ้งท้ายของคุณกานต์ วิภากร ภรรยาคุณเสก โลโซ ที่ได้โพสต์เมื่อวันวาน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพี่แอ๊ดที่หมายถึง “คุณแอ๊ด คาราบาว” ศิลปินแห่งชาติจะรู้สึกอย่างไร?
แต่..เป็นผมก็คงจะต้องบอกกับคุณกานต์ล่ะว่า..ขอบใจที่ยังรักและนับถือ แต่ถ้าน้องใส่ลูกสาวพี่ซะขนาดนี้ จะไม่ให้พี่ยุ่งแบบปล่อยวางไปเสีย..
แม้จะพอข่มใจได้อยู่ก็จริง แต่ด้วยสามัญสำนึกของคนเป็นพ่อ จะให้นิ่งปาก สงบอารมณ์เสมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวตัวเองก็คงจะลำบากใจไม่น้อย
อีกอย่าง ถ้าน้องไม่พอใจหรือไม่สบายใจกับพฤติกรรมของลูกสาวพี่ น้องก็ควรจะได้ยกหูคุยกันในที่ลับ ไม่ใช่เอาลูกสาวพี่มาประจานทางสื่อ-ทางโซเชียล
อย่างน้อยก็ด้วย “รักและนับถือ” ที่น้องบอกยังมีต่อพี่นั่นแหละ เพราะคนที่รักและนับถือกันจริงๆ นั้น เขาจะไม่คิดทำร้าย-ทำลายจิตใจกันและกัน
มีอะไรหนักนิด-เบาหน่อยก็คุยกัน ยกหูเคลียร์กัน จะด่าจะโขกสับอย่างไรก็ว่ากันไป แต่การที่น้องเอาลูกสาวพี่มาด่าประจานผ่านสื่อเช่นนี้ พี่ก็ให้รู้สึกเสียใจอยู่
แต่ไม่โกรธน้องหรอกนะ เข้าใจว่าน้องเป็นภรรยาของศิลปินใหญ่ จะด่าจะตำหนิใครได้อยู่แล้ว!
ครับ..ข้อความเต็มๆ ของคุณกานต์โพสต์ว่าอย่างไรน่ะหรือ อ่านที่ผมลอกจาก “แนวหน้าออนไลน์” ดูเอาเถอะ..
"ถึงลูกสาว พี่แอ๊ด คาราบาวคนโตค่ะ
คุณมีสามีและมีลูกแล้ว อะไรควรไม่ควรก็น่าจะสำเหนียกได้! ปรึกษางานห่าอะไร ข้ามหัวข้ามหางผู้จัดการส่วนตัวคือกู
โดยความเหมาะสมและถูกต้อง คนที่จัดตัดสินใจว่าให้รับงานไหน ไม่ให้รับงานไหน รวมถึงตัวเลขทั้งหมด!
งานไหนเหมาะงานไหนไม่เหมาะคือกู ตรงกับศิลปินเองทำไมก็น่าจะรู้อยู่ ทำงานในวงการบันเทิงเหมือนกันทำไมข้ามหัวข้ามหาง แก่ๆ กันหมดและยังคิดไม่ได้??
แต่คุยไปคุยมา กูไม่เห็นเรื่องงานเลยนะ เห็นคุยเรื่องส่วนตัวตลอดครึ่งชั่วโมง-1ชม. กูไม่ได้หึงนะ แต่กูเกลียดคนที่ไม่รู้จัก อะไรควรอะไรไม่ควร
ถ้าจะโง่ขนาดนั้น กูก็ไม่รู้จะว่ายังไง ผัวก็มีลูกก็มี เรื่องงานแม่งไม่ได้คุย แม่ง! คุยเรื่องส่วนตัวล้วนๆ เป็นชั่วโมง?
ทำไมไม่ทักมาถ้าจะคุยงาน แล้วว่าจะจบไหมถ้าคุยงานกับศิลปิน
เรื่องนี้ หวังว่าพี่แอ๊ด คาราบาว คงจะไม่เข้ามายุ่งนะ เพราะพวกเรา นับถือพี่แอ๊ดเหมือนเดิม แต่ลูกของพี่แอ๊ดคนละคนไม่เกี่ยวกันค่ะ
ถ้าลูกพี่ยังเป็นเยาวชนโอเคพี่ดูแลจัดการได้ แต่นี่ ลูกพี่ แก่ๆ กันละ ปล่อยให้เค้าแก้ปัญหากันเองอย่ามายุ่งกับสามีชาวบ้านมันไม่ควร
พวกเรายังรักและนับถือพี่แอ๊ดเสมอเสมอและตลอดไป ไม่เกี่ยวกับลูกพี่ ขอบคุณค่ะ!”
เป็นไง เผ็ดร้อน สะใจชาวโซเชียลนักแล ส่วนคุณแอ๊ดจะรู้สึกอย่างผม หรือว่าจะปล่อยวางได้ด้วยความเยือกเย็น สุขุมก็ตามดูกันไป!
แต่ที่เห็นจะปล่อยเลยตามเลยไม่ได้ก็เรื่องของนักโทษเด็ดขาดชายนายทักษิณ ชินวัตร ที่ตอนนี้ยังคงนอนกระดิกเท้าอยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ หรือย้ายไปนอน “จันทร์ส่องหล้า” ไม่มีใครรู้ (จริง)
และที่คุณวัชระ เพ็ชรทอง กับคุณจตุพร พรหมพันธุ์ ใช้มหาวิทยาลัยรามคำแหง จับมือ-ประสานใจประกาศจะเกาะติดนักโทษทักษิณแบบไม่ลดละนั้น..
ก็ต้องขอบคุณและขอเป็นกำลังใจ ผมเองก็ทนนิ่งเฉยไม่ได้หากจะมีนักโทษเด็ดขาดไม่ต้องติดคุก-นอนคุกสักวันเดียว..
จะวางปากกาลงถนนก็เอา!
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อหังการ-ขี้โม้เป็นนิสัย
เกิดอะไรขึ้น? เพื่อนคนหนึ่งถามผมหลังเห็นข้อความที่ “เสก โลโซ” โพสต์.. “ประกาศจากพี่เสก โลโซ เรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่นักดนตรีประจำสามารถนำเพลงไปร้องได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์
เก็บเชือกไว้ใช้เองเถอะ
“เส้นกูใหญ่.. ใครก็ทำกูไม่ได้ ใครก็เอากูไม่ลง เพราะกูใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่านายพล ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ใหญ่กว่า... ใหญ่กว่าทั้งหมด กูแบ็กดี
คิดถึงนักรบลุง
กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่.. มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?
เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก
เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน
นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?
ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..
ประชาชนควรพึ่งประชาชน
วันนี้-1 มกราคม.. เริ่มต้นปฏิทินหน้าแรกของปีใหม่ พ.ศ.2568 ก็ขออนุญาตกล่าวคำอำนวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านจงมีแต่ความสุข ความสมหวัง ไม่เจ็บ ไม่จนกันนะครับ!