อีกไม่นาน หลังจากนี้ ม.ธรรมศาสตร์จะมีอธิการบดีคนใหม่ เชื่อว่าผู้เสนอตัวที่กำลังทยอยเปิดตัว คุณสมบัติคงไม่แตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งสำคัญคือ ภาพลักษณ์ของอธิการบดีคนใหม่กับภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ เนื่องจากรากเหง้าเคยชื่อว่าม.วิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ในปี พ.ศ.2477 จึงจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการเมือง และเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ความทุกข์ร้อน นำทางและรับใช้ให้ประชาชน
ล่าสุด ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์เปิดตัวชิงตำแหน่งอธิการบดีคนใหม่และเป็นคนที่25
อ.ปริญญา ระบุว่า ผมจึงขอใช้ช่วงเวลานี้จนถึงวันเสนอชื่ออธิการบดีในวันที่ 22 ก.พ. 2567 ในการเชิญชวนประชาคมธรรมศาสตร์ร่วมกันสร้างนโยบายสาธารณะของมหาวิทยาลัย และเห็นว่าทิศทางหลักของ ม.ธรรมศาสตร์ที่ควรต้องเดินหน้าไป คือทิศทางที่เราเริ่มต้นตั้งแต่ก่อตั้งม.วิชาธรรมศาสตร์และการเมือง
โดยมีกรอบนโยบาย 4 ข้อ1. มหาวิทยาลัยเพื่อประชาชน : ธรรมศาสตร์ควรต้องกลับไปเป็นธรรมศาสตร์อย่างที่เคยเป็น คือมหาวิทยาลัยที่เป็นบ่อน้ำบำบัดความกระหายของราษฎร ม.ที่สอนนักศึกษาให้รักประชาชน ม.ที่ทำเพื่อประชาชน เอาโจทย์ปัญหาของประชาชน ปัญหาของประเทศ ปัญหาของสังคม ดังเช่นปัญหาความเหลื่อมล้ำ เป็นโจทย์ในการวิจัยและในการเรียนการสอน และกลับไปเป็นผู้นำทางสังคมในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขปัญหา
2.ยุทธศาสตร์ทำดักหน้า : การทำตามหลังไม่อาจทำให้ธรรมศาสตร์ตามไปทันมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกได้ เพราะเราไม่ได้วิ่งเร็วกว่าเขา และต่อให้ไปถึงได้ เขาก็ไปที่อื่นต่อแล้ว การจะทำให้ธรรมศาสตร์ตามทันและแซงได้ ต้องใช้วิธีวิ่งไปดักข้างหน้า คือรู้ทิศทางว่าเขาจะไปไหน เราก็วิ่งลัดไปดักหน้า ซึ่งทิศทางของโลกในขณะนี้มี 3 เรื่องคือ AI สังคมสูงวัย และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
3.พัฒนาศักยภาพทุกคนให้ไปไกลที่สุด : ธรรมศาสตร์คือที่ที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา เจ้าหน้าที่ และอาจารย์ จะได้รับการสนับสนุนให้พัฒนาตนเองให้ไปไกลที่สุดเท่าที่จะไปได้ โดยมีความสมดุลทั้งความเป็นเลิศ ความทั่วถึงเท่าเทียม คุณภาพชีวิต และความสุขในการทำงานและการเรียนรู้
4.ผู้บริหารแนวราบ และสร้างประชาธิปไตยในที่ทำงาน : ผู้บริหารธรรมศาสตร์ต้องเป็นผู้นำที่เป็นเพื่อนร่วมงาน ไม่ใช่เจ้านาย สร้างประชาธิปไตยในที่ทำงานซึ่งธรรมศาสตร์จะต้องเป็นผู้นำ
“ม.ธรรมศาสตร์”จะไปทางไหน ใครจะเป็นอธิการบดีคนต่อไป อีกไม่นานคงได้ทราบกัน
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กระทบไหล่แชมป์โลก
หนึ่งปีมาหน โอกาสทองของคนไทยคอรักบี้จะได้กระทบไหล่แชมป์โลก!!!
'ผมกำลังลื่น'
วันจันทร์ที่ผ่านมา ในการประชุมวุฒิสภามีวาระร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง โดยช่วงหนึ่งของการประชุมจะเห็นได้ว่ามี สว.เอาอวนดักปลาขึ้นมาประกอบการอภิปราย พร้อมปลากะตักแห้งที่เอามาเป็นตัวอย่างประกอบ
แจกสิทธิ์ 10 คนแรก
ต้องฝ่ากระแสร้อนแรงมาตั้งแต่ปลายปี 2567 สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทั้งกระแสพรรคแตก สส.ทยอยย้ายซบพรรคอื่น กระแสข่าวหัวหน้าพรรคถูกเขี่ยพ้นเก้าอี้รัฐมนตรี
ออร่าจับมาก
ในบรรดาเสนาบดีหน้าใหม่ หรือทายาททางการเมืองที่โดดเด่น นาทีนี้หลายคนยกให้ รมต.ดีดา-ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกสาวในไส้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย
“ไม่ต้องรอมติพรรค”
“ คนท้องถิ่น...คนศรีสะเกษ... “คนบ้านเดียวกัน” ถือสโลแกนหาเสียงของ “นายกฯส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามกลุ่ม “คนท้องถิ่น” และยังเป็นคุณพ่อของ “เลขาฯกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ทันเกมทักษิณ
โบราณว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” จริงที่สุด ดูการเมืองเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน