ปีใหม่ชี้ชะตาไทย

มันก็น่าหนักใจอยู่นะ

วานนี้ (๒๔ ธันวาคม) คุณหมอเบิร์ท อภิสมัย ศรีรังสรรค์ แถลงข่าวบอกว่า

...มีคลัสเตอร์ที่น่าสนใจคือคลัสเตอร์พิธีกรรมทางศาสนา ที่ผู้ร่วมงานมีการสวมหน้ากากอนามัยระหว่างร่วมพิธี

แต่มีจุดอ่อนหลังจบงาน จะมีการรับประทานอาหารร่วมกัน ทำให้เกิดการแพร่เชื้อ

รวมถึงมีรายงาน มีการตั้งวงไพ่ วงพนัน

บางจังหวัดมีรายงานการลักลอบเปิดสถานบันเทิง เช่น ที่จังหวัดสงขลา ฉะเชิงเทรา มหาสารคาม จึงขอให้ทางจังหวัดเข้มข้น ควบคุมเรื่องเหล่านี้ด้วย..

มันคือการฉายหนังซ้ำ

เล่นพนันในงานศพ!

ก่อน "เดลตา" ระบาดหนัก ก็แบบนี้แหละ

"โอมิครอน" มาจ่อประตูหน้าบ้าน แต่ยังใช้พฤติกรรมเดิม แล้วจะโทษใคร

อย่างที่รู้สถานการณ์เริ่มไม่สู้ดี โดยเฉพาะคลัสเตอร์กาฬสินธุ์

ณ ตอนนี้แพร่เชื้อไปแล้ว ๒๒ ราย

ทั้งคนในครอบครัว พนักงานร้านอาหาร และลูกค้าในร้าน

มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกร่วมร้อยราย

เมื่อรวมกับกลุ่มผู้ติดเชื้อซึ่งเดินทางจากต่างประเทศ และอยู่ในสถานกักตัว ยอดผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน สะสมแล้ว ๒๐๕ ราย

แต่เคสที่น่าสนใจจริงๆ คือ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ๓ ราย ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อ "โอมิครอน"

อีก ๑ ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน

นักท่องเที่ยว แยกเป็น ๒ กลุ่ม

กลุ่มแรก โดยสารเครื่องบินเดินทางมาจากประเทศอังกฤษลงที่สนามบินภูเก็ต ผ่านระบบแซนด์บ็อกซ์ เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน

กลุ่มที่สอง เข้ามาเมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต

จากนั้นกลุ่มที่ ๑ เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิแล้วนั่งแท็กซี่ไปพักที่ อ.ชะอำ เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม

ส่วนกลุ่มที่ ๒ เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิแล้วไปหาเพื่อนที่ อ.ชะอำ และเข้าพักที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เวลา ๒๐.๐๐ น. วันที่ ๑๑ ธันวาคม

ทั้งสองกลุ่มอยู่ที่หัวหิน ตั้งแต่วันที่ ๑๒-๑๕ ธันวาคม เข้าพักในโรงแรมที่มีมาตรฐาน SHA รับประทานอาหารในร้าน ๕ แห่ง เดินทางไปเที่ยวในพื้นที่โดยใช้บริการรถโดยสารสาธารณะที่มีการลงทะเบียน

รูปการณ์แบบนี้ ดูจากระยะฟักเชื้อ ทั้งหมดน่าจะติดในประเทศไทย

ติดจากใคร ที่ไหน? คือคำถามตัวโตๆ

ฉะนั้นการ์ดอย่าตกเด็ดขาด แม้จะมีข้อมูลจากฝั่งยุโรปว่าฤทธิ์ของ "โอมิครอน" น้อยกว่า "เดลตา" ไม่ก่ออันตรายต่อปอดเท่า "เดลตา" ก็ตาม แต่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ใช่เรื่องดี ป้องกันได้ควรทำตั้งแต่เนิ่นๆ

ไม่ใช่เล่นๆ ครับ...

คุณศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ บอกว่า เชื้อโควิด-๑๙ สายพันธุ์โอมิครอน สามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์เดลตาถึง ๗๐ เท่า

พิสูจน์ได้จากการติดเชื้อในหลายประเทศเริ่มทุบสถิติรายวันกันอีกครั้ง

อเมริกา ๒๖๗,๒๖๙  ราย 

สหราชอาณาจักร ๑๑๙,๗๘๙ ราย

ฝรั่งเศส ๙๑,๖๐๘ ราย

สเปน ๗๒,๙๑๒ ราย

อิตาลี ๔๔,๕๙๕ ราย

โดยเฉพาะอเมริกา การแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนได้เพิ่มจาก ๑๒% เป็น ๗๓% ในเวลาแค่เพียง ๑ สัปดาห์ เท่านั้น

โอมิครอนแทบจะกลืนเป็นสายพันธุ์หลักของอเมริกาไปแล้ว

แต่ไทยน่าจะดูดีกว่าอเมริกาหน่อยตรงที่ พวกต่อต้านฉีดวัคซีนน้อยกว่า รวมทั้งคนไทยมีวินัยกว่า สวมหน้ากากอนามัยในอัตราส่วนที่สูงกว่ามาก

ติดตามดูนะครับ ตัวเลขที่ หมอเบิร์ท นำมาแถลงข่าว จะบ่งบอกว่า โอมิครอน ในประเทศไทยจะเป็นเช่นไรในไม่ช้านี้

ภาพรวมของประเทศไทยในวันที่ ๒๐-๒๓ ธันวาคม ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีการสำรวจ ๘๗๔ ตัวอย่าง จากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ การแพร่ระบาดยังเป็นเดลตาเป็นส่วนใหญ่ คิดเป็นสัดส่วน ๘๓.๘%

ขณะที่ ๑๖.๒% เป็นโอมิครอน

ถ้าแยกเป็นพื้นที่กรุงเทพมหานครจากการสำรวจ ๒๐๗ ตัวอย่าง ส่วนใหญ่หรือ ๕๖.๕% ยังเป็นสายพันธุ์เดลตา และเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ๔๓.๕%

ส่วนในจังหวัดอื่นๆ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นสายพันธุ์เดลตา ๙๒.๒% เป็นโอมิครอน ๗.๘%

แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวกลุ่มที่เดินทางเข้ามาในไทยครึ่งหนึ่ง เป็นการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน

ถ้าเทียบกับวันที่ ๒๒ ธันวาคม ที่ ศบค.รายงานการระบาดของโอมิครอนยังเป็น ๑ ส่วน ๔ ของรายงานทั้งหมด

ตอนนี้พบเพิ่มขึ้นเป็นกว่า ๕๐% ของผู้เดินทางเข้าประเทศแล้ว!

ในกลุ่มนี้ พบว่าอัตราการนอนโรงพยาบาลของโอมิครอน อยู่ที่ ๒.๕ % ถือว่าน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น

แต่กลับพบว่ากรณีผู้ป่วยอาการหนักมีถึง ๒๑%

หมายความว่ามาถึงไทยแล้วความรุนแรงไม่ต่างกันกับสายพันธุ์อื่น

ดังนั้น แม้ผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลจากสายพันธุ์โอมิครอน น้อยกว่าสายพันธุ์อื่น แต่ถ้าจะสรุปว่าสายพันธุ์โอมิครอนมีความรุนแรงน้อยกว่าแล้วเราจะสบายใจ ถือเป็นการด่วนสรุป

และประมาทเกินไป

ถ้าไปดูการเฝ้าระวังทั้งประเทศ ตัวเลขของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะพบว่า ทุกๆ เขตสุขภาพ ๑๒ แห่ง สายพันธุ์ที่ติดเชื้อในประเทศไทยยังเป็นสายพันธุ์เดลตาอยู่

ครับ...ก็เตรียมรับสถานการณ์กันไว้

ขณะนี้การระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในทวีปยุโรปที่ว่าหนักนั้น มันหนักจริงๆ ล่าสุดหลายประเทศทยอยล็อกดาวน์ในวันคริสต์มาส ยาวไปถึงช่วงเทศกาลปีใหม่

แคว้นกาตาลุญญาของสเปน ใช้มาตรการเคอร์ฟิวในเวลากลางคืนอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่วันคริสต์มาสอีฟ (๒๔ ธันวาคม) เป็นต้นไป

รัฐบาลสกอตแลนด์ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จะปิดไนต์คลับตั้งแต่สัปดาห์หน้าเพื่อต่อสู้กับการแพร่กระจายของ โอมิครอน

เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ได้กำหนดมาตรการ ควบคุมการระบาดอย่างเข้มงวดเช่นกัน

ที่กรีซ ตั้งแต่วันที่ ๒๓  ธันวาคม มาตรการบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยจะนำกลับมาใช้อีกครั้ง ทั้งการสวมใส่ในบ้านและในพื้นที่สาธารณะ

สำหรับไทย เทศกาลปีใหม่ จะเป็นดัชนีชี้วัดว่า เราจะเจอ โอมิครอน ช้าหรือเร็ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทลายทุนผูกขาด

ชื่นใจ... ชื่นใจในความรวยของเศรษฐีไทยครับ วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยติดต่อกันปีนี้เป็นปีที่ ๓๑ แล้วครับ

นายกฯ ฝึกงาน

ขยี้ตาสิบที... แถลงผลงานในรอบ ๓ เดือนแน่นะ "อิ๊งค์" ไปดูอีกทีกับการแถลงข่าววานนี้ (๑๒ ธันวาคม)

ชะตากรรม 'นายกฯ ชินวัตร'

วันนี้ (๑๒ ธันวาคม) นายกฯ อิ๊งค์ แถลงผลงาน อยากรู้ว่าผลงานมีอะไรบ้าง เชิญเฝ้าหน้าจอสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที หรือช่อง ๑๑ นั่นแหละครับ

ง่ายๆ แค่เลิกโกง

อาจถึงขั้นเปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาลกันเลยทีเดียวครับ... หากพรรคเพื่อไทย จะเอาให้ได้ กับร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ด้วยการจับยัดเข้าสภาฯ ก็สามารถยึดอำนาจกองทัพได้สำเร็จครับ