วิพากษ์นักวิจารณ์หนัง

“ถึงพี่น้อง เลือดเก่าเลือดใหม่ของหนังไทยทุกท่าน

อ่านงานของนักวิจารณ์รุ่นเก่าท่านหนึ่งเขียนถึงหนังเด็กใหม่สาดเสียเทเสีย รู้สึกว่าเขาใจร้ายจัง พอเปิดไปดูหนังไทยอื่นๆ ที่เขาเขียนถึงก็ดูถ่มถุยพอกัน ไม่เว้นว่าหนังกูโดนด่าว่าเชย

แล้วหลังๆ เพจหนังที่เปิดใหม่หลายเจ้าก็เน้นวิจารณ์หนังไทยอย่างเผ็ดร้อนเป็นหลัก ยิ่งด่าแรงยิ่งได้ Engagement เข้าไปฟังทุกๆ อันนะ เก่ง ฉลาด รอบรู้กันทั้งนั้น

ถ้าคนพวกนี้เข้ามาทำหนังไทย วงการเราต้องรุ่งเรือง วัฒนา สถาพร ทัดเทียมกับอารยประเทศแน่ๆ เลย

แล้วทำไมเขาถึงไม่ลองคิดพล็อต ทำ Pitchdeck ขึ้นมาสักฉบับ แล้วร่อนไปหานายทุนที่มีอยู่ดาษดื่นในประเทศนี้หรือต่างประเทศดูเล่า

คำตอบมันก็อยู่ในตัวของมันเอง ถ้ามันง่าย ใครๆ ก็ทำไปแล้ว

ตะก่อนกูก็เป็นคนปากแจ๋วคนหนึ่งนะ ไม่ชอบงานใครก็เผาเสียเผ็ดร้อนจนเสียเพื่อนพี่น้อง ผ่านมาก็รู้ว่ามันไม่ได้อะไรนอกจากคะนองปากเรา 

เอาเป็นว่าคนทำหนังไทยทุกคนรู้ดีแหละว่าหนังตัวเองก็ไม่ได้ Perfect ทุกครั้งที่หนังออกไป เชื่อว่าทุกคนก็ไม่ได้มั่นอกมั่นใจอย่างในเทปสัมภาษณ์หรอก นั่นมันงาน PR

จะให้พวกกูอ้ำๆ อึ้งๆ ออกสื่อแล้วใครจะเชื่อว่าหนังมันดีถ้า ผกก. ยังพูดไม่เต็มปาก แล้วทำไมถึงไม่มั่นใจล่ะ ไม่ตั้งใจทำงานเหรอ

คือหนังเนี่ย มันเป็น Mass Media ออกไปแล้วคนร้อยพ่อพันแม่นับล้านเขาได้ดูกันไง ไม่ใช่ Social Media ที่ตัวงานจะวิ่งไปหาแฟนคลับ

หรือ Follower ที่พร้อมยินดีจะเปิดรับงานจากคนที่เขาติดตาม แถมหนังยังเสียตังค์ดูด้วย ผลลัพธ์จะเป็นยังไงไม่มีทางรู้เลย

บางทีอาจจะมีคนที่ไม่ได้เป็น Target ของหนังเข้ามาดูแล้วไม่ชอบ หรือหนังอาจจะไม่ไปถึงกลุ่มที่เราอยากให้ดูก็มี ดังนั้นจะเอาอะไรมามั่นใจ

ก็อยากให้กำลังใจคนทำหนังไทยทุกคนนะ ทำจบเรื่องแล้วเอาเข้าโรงได้ก็เก่งมากแล้ว บางทีเราก็รู้ตั้งแต่ในค่ายแล้วว่าหนังมันน่าจะเจ๊ง แต่ก็ยังหวังแหละวะว่าจะมีคนชอบมันอยู่บ้าง

เออโดนด่าก็ฟังบ้างก็ได้ ไม่ต้องไปดูบ้างก็ได้ บางทีไอ้ที่ว่าติเพื่อก่อ กูดูบางคลิปเมนต์หนังแล้วมึงเอาอะไรมาติมาก่อ ศัพท์แสงทางภาพยนตร์ยังเข้าใจผิดๆ ถูกๆ ก็ยังกล้าพ่นออกมา

และจริงๆ เราก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกฟังแต่สิ่งดีๆ เพื่อฮีลใจเรานะ ไม่ผิดเลย ไม่ต้องกลัวใครจะว่าไม่รับฟังความเห็นต่าง จิตใจมึงไม่มีใครดูแลได้ดีเท่าตัวเอง

คนเราเดี๋ยวนี้ความเห็นอกเห็นใจน้อยลงทุกวัน เราไม่จำเป็นต้องไปฟังความเห็นใครที่ไม่ได้แคร์ใจเรานี่ จริงไหม

ผกก.หนังและซีรีส์รุ่นใหม่ๆ หายากนะ เวลามีน้องๆๆ ทำหนังเข้าโรงได้หรือมีซีรีส์ออกฉาย ก็เอาใจช่วยแหละ ถ้าเค้ามาถามเราก็พูดถึงข้อดีของงานเขา

ส่วนที่มีตำหนิก็ชี้ให้เห็นอย่างเป็นมิตรและแนะนำได้ว่าถ้าคราวหน้าอยากให้มันได้ผลควรทำไง (ถ้าเขาต้องการ)

ปี 2024 แล้วหนังไทยกำลังเริ่มลุกขึ้นยืนได้ คนรุ่นใหม่ๆ กำลังจะมา ชอบอะไรก็บอกกันไปดังๆ ไม่ชอบอะไรคิดก่อนด่า บางทีมันไม่ใช่หนังสำหรับเราหรือเปล่า

ถ้าเป็นความเห็นส่วนตัว ก็เห็นอกเห็นใจกันบ้าง อย่าไปเหยียบย่ำใครเพื่อสร้างบันไดให้ตัวเองเลย มันไม่ดี”

ครับ..วันนี้ยกเนื้อที่ให้คุณมะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับหนังชื่อดัง ละเลงความในใจให้เต็มคราบ และผมไม่ทราบหรอกนะ “นักวิจารณ์หนังรุ่นเก่า” หมายถึงใคร และด่าหนังเรื่องใด..

แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร หากจะเปิดใจรับฟังความรู้สึกของผู้กำกับเขาบ้างก็ดี!.

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อหังการ-ขี้โม้เป็นนิสัย

เกิดอะไรขึ้น? เพื่อนคนหนึ่งถามผมหลังเห็นข้อความที่ “เสก โลโซ” โพสต์.. “ประกาศจากพี่เสก โลโซ เรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่นักดนตรีประจำสามารถนำเพลงไปร้องได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์

เก็บเชือกไว้ใช้เองเถอะ

“เส้นกูใหญ่.. ใครก็ทำกูไม่ได้ ใครก็เอากูไม่ลง เพราะกูใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่านายพล ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ใหญ่กว่า... ใหญ่กว่าทั้งหมด กูแบ็กดี

คิดถึงนักรบลุง

กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่.. มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?

เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก

เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน

นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?

ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..

ประชาชนควรพึ่งประชาชน

วันนี้-1 มกราคม.. เริ่มต้นปฏิทินหน้าแรกของปีใหม่ พ.ศ.2568 ก็ขออนุญาตกล่าวคำอำนวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านจงมีแต่ความสุข ความสมหวัง ไม่เจ็บ ไม่จนกันนะครับ!