“ขุนแผน”แห่งวงการ?

วานซืน..ตอนค่ำตั้งใจจะไปดูหนัง “เหมรฺย..บน บาป สาป แช่ง” รอบสื่อ

และช่วงเช้า มีงานใหญ่ของค่ายโคลีเซียม กรุ๊ป ของ “หญิงแกร่ง” คุณพรพิมล มั่นฤทัย ที่ได้จัดพิธีบวงสรวงละครถึง 3 เรื่อง 3 รส ขึ้น ณ บ้านในซอยพัฒนาการ 28

ซึ่ง 3 เรื่องที่ว่านี้ ก็มี “ปล้นเหนือเมฆ” ผลงานกำกับละครเรื่องแรกของคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ อดีตลูกศิษย์-ลูกรัก “คมน์ อรรฆเดช” (ผู้ล่วงลับ) อดีตยอดสามีคุณพรพิมล

กับเรื่อง “รักร้ายสายลับ” กํากับการแสดงโดยคุณพุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร และเรื่อง “คนกล้าท้าชน” โดยผู้กํากับคุณชัชวาลย์ คล้องช้าง

ในพิธีนอกจากจะมีสื่อ-นักข่าวสายบันเทิงจากทุกสำนักแล้ว ยังจะคลาคล่ำไปด้วยดารานักแสดงหญิงชาย ทั้งวัยรุ่น หนุ่มสาว ยันไปถึงวัยเก่า-วัยเฒ่าอีกมากหน้าหลายตา

และนี่ ก็ทำให้รู้..ตัวเราน่ะอายุมากขึ้นแล้วนะ เพราะไม่เฉพาะกับน้องๆ นักข่าวรุ่นใหม่ที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตา และแทบไม่รู้จักใครแล้ว..

ดารา-นักแสดง แม้แต่ระดับพระเอก-นางเอก ก็แทบจะไม่รู้จักชื่อเลยสักคน!

กระนั้นผมก็ไม่ได้เคอะเขินหรอกนะ เพราะถามคุณพรพิมลเจ้าของบริษัทก็ตอบผมไม่ได้เหมือนกันว่าเขา-เธอชื่อไร พูดแต่เพียงว่า.. “มันเยอะจนฉันเองก็จำไม่ได้”!

เสร็จพิธีบวงสรวงตอนบ่ายแก่ๆ กะจะขอตัวเจ้าของบ้านเพื่อรีบบึ่งไปเดอะมอลล์ บางกะปิต่อ เพื่อดูหนังเหมรฺยตามที่ตั้งใจ..

คุณพรพิมลกลับจูงมือเข้าไปในครัวพลางบอก.. “กินข้าวแกงเขียวหวาน-ขนมจีนเสียก่อนยังมีเวลา” พลางชี้นิ้ว.. “โน่น ไปนั่งรอในห้องคุยกับท็อปไปพลางๆ เดี๋ยวเด็กยกสำรับไปให้”

ผมเดินตามที่เจ้าของบ้านว่า เข้าไปในห้องเห็นคุณท็อป ซึ่งก็คือคุณบิณฑ์นั่งหล่ออยู่กับทีมงาน 2-3 คน ก็เลยได้โอกาสสนทนาปราศรัยกันทั้งเรื่องการบ้านการเมืองและเรื่องละคร-หนัง

ในส่วนของหนัง..คุณบิณฑ์บอกยังมีความมุ่งมั่นที่จะทำหนังต่อไป แต่ไม่ได้รีบร้อน ได้พล็อตเรื่องที่ถูกใจเมื่อไหร่ค่อยลงมือ โดยทุนสร้างก็ยังคงควักกระเป๋าตัวเองเหมือนเดิม!

ด้านการเมือง ก็คุยกันพอหอมปากหอมคอตามประสาคนคอเดียวกัน ที่เน้นหน่อยก็ละครปล้นเหนือเมฆ คุณบิณฑ์ดูจะคุยเป็นต่อยหอยจนสมองผมเมมโมรีไม่ทัน

เอาที่พอจะจำได้ประมาณว่า เป็นละครเรื่องแรกในฐานะผู้กำกับ และเป็นการกำกับให้กับบริษัทโคลีเซียมที่สร้างตัวเขาให้เป็นพระเอกขึ้นมา..

ฉะนั้นจึงได้ทุ่มเทแบบถวายหัวเพื่อสนองบุญคุณข้าวแดงแกงร้อน สิ่งใดในกองถ่ายขาดตกบกพร่องไม่พร้อม จะไม่ยอมปล่อยผ่านโดยเด็ดขาด

เรียกว่างานต้องเนี้ยบตามที่ใจตัวเองอยากได้-ต้องการ เลตไปบ้าง ช้าไปบ้าง คุณท็อปบอกยอมควักกระเป๋าตัวเองจ่าย แต่จะไม่ยอมให้เสียชื่อ ทำงานแบบสุกเอาเผากิน..ว่างั้น!

ถามว่ากดดันไหม? คุณท็อปยิ้มตอบ.. “แน่นอน กดดันอยู่แล้ว เพราะนอกจากเป็นงานที่ทำให้กับผู้มีพระคุณแล้ว ยังต้องพิสูจน์ฝีมือตัวเองให้แฟนละครได้เห็นและชื่นชอบ

ที่สำคัญ ยังจะเป็นละครเรื่องแรกที่ช่อง 7 เลือกมาฉายในช่วง 19.00 น. ซึ่งถือเป็นช่วงไพรม์ไทม์ใหม่ แถมออนแอร์ 5 วันรวด จันทร์ถึงศุกร์ เริ่มตอนแรกพรุ่งนี้แล้ว (อังคารที่ผ่านมา)”

ระหว่างคุย กับข้าวกับปลาถูกยกมาวางตรงหน้า กลิ่นแกงเขียวหวานโชยเข้าจมูกจนต้องบอกคุณบิณฑ์ พักกินข้าวก่อนเถอะ ก่อนที่คุณพรพิมลจะหย่อนก้นร่วมโต๊ะ!

กินไป-คุยกันไป คราวนี้ดูจะออกไปทาง “ส่วนตัว” ของพระเอกเก็บศพเสียมากกว่า ทั้งเรื่องการกลับเข้าไปทำงานกับมูลนิธิร่วมกตัญญู เรื่องความรักที่ก็เพิ่งได้รู้ ทั้งลึก และลับ

และขอยืนยันเสียตรงนี้ ปัจจุบันคุณบิณฑ์ยังครองโสด 100% ไม่มีแม่บ้าน-แม่เรือน หรือกิ๊กเล็ก-กิ๊กใหญ่ เขาว่า..ชีวิตเขาถูกกำหนดไว้แล้วให้ต้องเป็นอย่างนี้

“ทำไม” ..ผมสงสัย.. “ก็ไม่รู้นะ เพราะที่ผ่านมา กำลังเตรียมงาน-วางแผน กำหนดวันจะแต่งงานกับนางเอกอยู่แล้วแต่ก็ต้องมีอันเป็นไปให้ต้องเลิกรากัน

แม้ต่อมาจะมีรักใหม่ที่หวานชื่นกับนางเอกอีกคน ชนิดที่พูดได้ว่า “ไม่แคล้วกันแน่” แต่ที่สุดก็ไม่อาจฝ่าฟันอุปสรรคไปได้

ครับ..พอคุยกันเรื่องพรรค์อย่างนี้ ผมเลยบอก หนัง-หนงไม่ไปดูแล้ว ขอฟังคุณท็อปเล่าอดีต-ความหลังสนุกกว่า ดรามากว่า แล้วตอนจบก็สรุปว่า..

เขาคือ “ขุนแผน” แห่งวงการนี่หว่า!.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อหังการ-ขี้โม้เป็นนิสัย

เกิดอะไรขึ้น? เพื่อนคนหนึ่งถามผมหลังเห็นข้อความที่ “เสก โลโซ” โพสต์.. “ประกาศจากพี่เสก โลโซ เรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่นักดนตรีประจำสามารถนำเพลงไปร้องได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์

เก็บเชือกไว้ใช้เองเถอะ

“เส้นกูใหญ่.. ใครก็ทำกูไม่ได้ ใครก็เอากูไม่ลง เพราะกูใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่านายพล ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ใหญ่กว่า... ใหญ่กว่าทั้งหมด กูแบ็กดี

คิดถึงนักรบลุง

กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่.. มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?

เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก

เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน

นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?

ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..

ประชาชนควรพึ่งประชาชน

วันนี้-1 มกราคม.. เริ่มต้นปฏิทินหน้าแรกของปีใหม่ พ.ศ.2568 ก็ขออนุญาตกล่าวคำอำนวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านจงมีแต่ความสุข ความสมหวัง ไม่เจ็บ ไม่จนกันนะครับ!