รักยาวให้บั่น...รักสั้นให้ต่อ

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการผสมกันแล้ว ยังมีทั้งฝ่ายเหลืองและฝ่ายแดงที่ไม่พอใจ ฝ่ายเหลืองยังคงโกรธเคืองพฤติกรรมของพรรคเพื่อไทยในอดีต ฝ่ายแดงก็บ่นว่าเลือกพรรคเพื่อไทยให้มาไล่ลุง ไม่ใช่ให้มารวมกับลุง ไม่ว่าฝ่ายใดจะรู้สึกอย่างไร เราต้องยอมรับว่าคณิตศาสตร์ทางการเมืองจากผลของการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 มันทำให้ฉากทัศน์ทางการเมืองที่ต้องเป็นเช่นนี้ ดังนั้น ทุกๆ ฝ่ายคงต้องทำใจและทำตามสุภาษิต “รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ” เพราะเวลานี้สิ่งที่น่ากลัว น่ากังวลมากกว่ารัฐบาลผสมที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำก็คือ กระแสความนิยมของพรรคก้าวไกลที่มีเรื่องราวข่าวฉาวมากมาย แต่กระแสความนิยมก็ยังไม่แผ่ว ทั้งตัวบุคคลและพรรค ถ้าหากเหลืองและแดงยังคงมีความแค้นต่อกัน แล้วทำให้พรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล โดยไม่ต้องง้อพรรคร่วม อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย เรื่องนี้ทุกฝ่ายที่มองเห็นอนาคตของประเทศไทยที่มีพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลว่าจะเป็นเช่นไร ต้องกำหนดจุดยืนทางการเมืองให้ดี

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากจะให้ฝ่ายอนุรักษ์ทำใจปฏิบัติตามสุภาษิตดังกล่าวนี้ พรรคเพื่อไทยเองก็ต้องยึดถือสุภาษิตนี้เช่นกัน ถ้าหากรักที่จะเป็นรัฐบาลไปให้ครบวาระ 4 ปี ก็ต้องบั่นพฤติกรรมที่ไม่ดีอย่างที่เคยทำในอดีต อย่าทำต่อ ต้องยึดมั่นในการบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อย่าคิดคดโกงชาติ อย่ามีการคอร์รัปชันเชิงนโยบายเหมือนอย่างที่เคยทำมา เมื่อบั่นพฤติกรรมเหล่านี้แล้ว ก็จะทำให้อยู่ได้นานขึ้น แต่หากยังคงมีพฤติกรรมแบบเดิมๆ ก็อาจจะทำให้รัฐบาลอายุสั้น เพราะสมัยนี้นักสืบไซเบอร์เขาหาข้อมูลเก่ง การทำอะไรที่ไม่ดีงาม ไม่ใช่ว่าจะหลบจะซ่อนง่ายๆ เหมือนอย่างในอดีต และรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับปราบโกง ดังนั้นหากมีการโกงเกิดขึ้น โทษทัณฑ์ที่จะได้รับนั้นรุนแรงกว่าที่ผ่านมา นอกจากนั้นแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลที่มาจากฝ่ายอนุรักษ์ก็เคยเอ่ยปากว่าเข้ามาร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เพื่อตรวจสอบและป้องกันไม่ให้มีการปฏิบัติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือผิดหลักธรรมาภิบาล ดังนั้นพรรคเพื่อไทยควรจะให้ความสำคัญกับหลักการที่ว่า “รักยาวให้บั่น” การกระทำใดๆ ที่จะทำให้อายุรัฐบาลสั้น ก็บั่นมันทิ้งไป จะได้อยู่กันยาวๆ เวลานี้ไม่มีใครอยากให้มีการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่หรอกนะ เพราะกระแสความนิยมของพรรคก้าวไกลยังไม่แผ่ว และอาจจะเพิ่มขึ้นจากการดำเนินยุทธศาสตร์การสื่อสารสร้างกระแสของพวกเขาที่ทำได้ดีมีประสิทธิผลสูง

สิ่งที่พรรคเพื่อไทยควรจะบั่นก็คือเรืองการแจกเงิน  "ดิจิทัลวอลเล็ต" 10,000 บาท แก่คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปที่เป็นนโยบาย "หาเสียง" ของ "พรรคเพื่อไทย" ที่ถกเถียงกันมาตั้งแต่ต้น และหลายฝ่ายมีคำถามมากมายที่พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ได้ตอบ หรือตอบไม่ได้ ดังต่อไปนี้

1.ทำไมต้องแจกตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป เป็นการตกเขียวใช่หรือไม่

2.เมื่อไม่มีเงินที่จะแจก ทำไมต้องกู้เอามาแจก ภาระการใช้หนี้เงินกู้ ประชาชนต้องร่วมกันแบกรับใช่หรือไม่ จะต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะใช้หนี้หมด เป็นการเอาเงินอนาคตของประเทศมาสร้างคะแนนนิยมอย่างไร้ความรับผิดชอบและไร้เหตุผลใช่หรือไม่

3.เหตุผลที่จะต้องแจกโดยอ้างว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น เศรษฐกิจของประเทศไทยเวลานี้มีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นจริงหรือ ในเมื่อหลายฝ่ายที่กำกับการเงินการคลังของประเทศต่างก็บอกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว โดยไม่มีความจำเป็นต้องกระตุ้น

4.ถ้าหากมีความจำเป็นจะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆ เรามีแค่วิธีการกู้มาแจกเพียงวิธีเดียวเท่านั้นหรือ เราไม่มีวิธีอื่นที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจได้แล้วหรือ

5.ถ้าหากกู้มาแจกแล้วจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือ ที่อ้างว่าผลทวีคูณจะเป็น 3-4 รอบนั้น หลายฝ่ายเชื่อว่าไม่น่าจะถึง 1 รอบด้วยซ้ำไป ดังนั้น การกู้มาแจก อาจจะเป็นการได้ไม่คุ้มเสียหรือไม่ พรรคเพื่อไทยพร้อมจะฟังการท้วงติงตามหลักวิชาการหรือไม่

6.ทำไมต้องแจกเป็นเงินดิจิทัล ทำไมไม่แจกเป็นเงินสด ทำไมต้องทำ Block Chain ทำไมไม่ใช้ App เป๋าตัง ที่มีอยู่แล้ว ในการแปลงเงินสดเป็นเงินดิจิทัล และแปลงเงินดิจิทัลเป็นเงินสดเมื่อจบโครงการ ใครจะเป็นผู้ดำเนินการ และมีค่าใช้จ่ายมากน้อยแค่ไหน เงินจำนวนดังกล่าวนั้นเป็นเงินที่ควรจะเสียหรือไม่

7.เศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่ในภาวะวิกฤตจนจำเป็นต้องกู้เงินมาแจกเพื่อกระตุ้นจริงหรือไม่ หลายฝ่ายเขามองว่าไม่ถึงขั้นวิกฤต จะฟังเขาหรือไม่

8.มีข้อความที่เป็น “ร่าง” จาก ป.ป.ช.หลุดออกมา พรรคเพื่อไทยจะนำเอามาพิจารณาเพื่อที่จะคิดทบทวนเรื่องการแจกเงินดิจิทัลหรือไม่

ถ้าหากรักยาว เรื่องนี้เลิกได้ก็ควรจะเลิกนะ อันที่จริงหลายฝ่ายที่เขาท้วงติงด้วยตัวเลขตามหลักวิชาการนั้น ดูเหมือนว่าเขาเอาบันไดมาพาดให้เพื่อไทยสามารถที่จะลงมาได้ “รักยาวให้บั่น” คืออยากอยู่เป็นรัฐบาลยาวๆ เรื่องเงินดิจิทัลนี้ บั่นเถอะนะ และอีกเรื่องหนึ่งที่ควรจะบั่นเช่นกัน ก็คือการให้อภิสิทธิ์แก่นักโทษเด็ดขาดชายที่ห้อง VVIP ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ประชาชนเขาสงสัยว่าที่พูดที่แถลงกันแต่ละเรื่องนั้น มันเป็นความจริงหรือความเท็จ เมื่อประชาชนอยากรู้ ก็เอาความจริงออกมาเถอะ จง “บั่น” เอาความเท็จทั้งปวงออกไป ให้ประชาชนเขาหายสงสัยเถอะ ถ้าหากยังคงพูดจาที่ไม่น่าเชื่อถือต่อไป มันจะเป็นการ “รักสั้นให้ต่อ” นะ หมายความว่า ถ้าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อายุของรัฐบาลจะสั้นนะ นักการเมือง และข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รับผิดชอบการดำเนินการเรื่องนี้ ต้อง “บั่น” การอุ้มนักโทษเด็ดขาดให้เป็นอภิสิทธิ์ชนแบบไม่เห็นหัวประชาชน เราไม่อยากเลือกตั้งใหม่ เพราะฉะนั้นขอให้พรรคเพื่อไทยจงทำตามหลักการของ “รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ” เถอะนะ.