'สี จิ้นผิง' ตั้ง รมว. กลาโหมใหม่ขณะ จัดการ ‘นายพลฉ้อฉล’ ครั้งใหญ่

รัฐบาลจีนสับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีสำคัญๆ หลายคนในช่วงหลัง

ล้วนแล้วแต่มีเรื่องอื้อฉาวว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่ปกติ และข้อสงสัยเรื่องประพฤติมิชอบ

รัฐมนตรีฉิน กัง ถูกแทนที่โดยหวัง อี้ ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ

จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรยืนยันว่าเขาถูกปลดด้วยเหตุผลอันใด นอกจากเสียงซุบซิบนินทาว่ามีความสัมพันธ์กับพิธีกรทีวีสาว ที่อาจจะเอาความลับราชการไปเปิดเผย

ต่อมารัฐมนตรีกลาโหม หลี่ ซ่างฝู ก็ถูกโยกออก ไม่มีข้อหาอย่างเป็นทางการ แต่แว่วข่าวไม่เป็นทางการเรื่องลูกหลานไปมีกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยงกับเรื่องทุจริตในต่างประเทศ

ล่าสุด จีนได้แต่งตั้งอดีตผู้บัญชาการกองทัพเรือเป็นรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ สี่เดือนหลังจากที่รัฐมนตรีกลาโหมคนก่อนหายตัวไปจากสายตาของสาธารณชนอย่างไร้ร่องรอย

ต่ง จวิน วัย 62 ปี เข้ามาแทนที่หลี่ ซ่างฝู ที่ถูกถอดออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมและสมาชิกคณะรัฐมนตรีของจีนอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม

วงการนักวิเคราะห์กิจการจีนบอกว่า การแต่งตั้งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมคนใหม่อาจช่วยให้การประสานงานระหว่างปักกิ่งและวอชิงตันเรื่องกลาโหมราบรื่นขึ้น

จังหวะนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กำลังขันนอตมาตรการควบคุมกองทัพจีนอย่างเข้มงวด ด้วยมาตรการเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ

ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากข่าวการแต่งตั้งรัฐมนตรีคนใหม่ สื่อของรัฐก็ออกข่าวการปลดเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง 9 นายออกจากสภานิติบัญญัติของจีน

เจ้าหน้าที่ 4 นายที่ถูกขับไล่นั้นมาจาก “หน่วยกำลังจรวด” ซึ่งเป็นหน่วยงานของกองทัพจีนที่ควบคุมคลังแสงนิวเคลียร์และขีปนาวุธทั่วไปของจีน  

นายพลระดับสูงสองคนของหน่วยนี้หายตัวไปจากสาธารณชนเมื่อต้นปีนี้ และมีการแต่งตั้งคนมาแทนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ก่อนหน้านั้นไม่นาน ทางการจีนออกข่าวถอดถอนผู้นำอาวุโส 3 คนขององค์กรทหารของรัฐวิสาหกิจออกจากองค์กรที่ปรึกษาทางการเมืองระดับสูง

ถือเป็นส่วนหนึ่งของผู้ปฏิบัติงานอาวุโสหลายสิบคน ที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ากำลังถูกสอบสวนเรื่องอื้อฉาวในแวดวงเจ้าหน้าที่รัฐ

สี จิ้นผิง ขึงขังเอาจริงเอาจังกับการกวาดล้างเจ้าหน้าที่ชั้นสูง เพราะต้องการจะบอกกล่าวกับประชาชนว่า เขาไม่ได้จับแต่ปลาซิวปลาสร้อย แต่กำลังจัดการ “ปลาตัวใหญ่” ให้เห็นเป็นประจักษ์ต่อสาธารณชน

บางคนมองว่านี่คือการพิสูจน์ว่า “หัวไม่ส่าย หางไม่กระดิก”

และบางสำนักก็ตีความว่า นี่คือแผนการขจัดคู่แข่งทางการเมืองของสี จิ้นผิง ออกจากตำแหน่งที่มีอิทธิพล

รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่มาจากกองทัพเรือ นี่ไม่ใช่เรื่องปกตินัก

ก่อนหน้าจะได้รับตำแหน่งนี้ ต่ง จวิน บัญชาการอยู่ที่กองทัพภาคตะวันออกและทางใต้ รวมถึงพื้นที่ไต้หวันและทะเลจีนใต้

เป็นสองศูนย์บัญชาการทางทหารที่กลายเป็นพื้นที่ที่มีความตึงเครียดกับสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น

อีกทั้งยังเป็นหน่วยทหารที่ได้รับคำสั่งให้เพิ่มปฏิบัติการที่แข็งกร้าวมากขึ้นรอบๆ ไต้หวัน และในดินแดนพิพาทในทะเลจีนใต้

ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า การมากำกับดูแลกระทรวงกลาโหมของต่ง จวิน ในฐานะนายทหารเรือเก่า อาจจะส่งสัญญาณว่าปักกิ่งต้องการเพิ่มความสำคัญให้กับการลาดตระเวนทะเลจีนใต้

อันเป็นเป็นพื้นที่ที่มีลำดับความสำคัญเพิ่มขึ้น ของการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา

ขณะที่หลี่ ซ่างฝู คนก่อนถูกสหรัฐฯ ใส่ชื่อในบัญชีดำ แต่ต่ง จวิน ไม่ได้อยู่ในฐานะนั้น

หลี่ถูกฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์  ทรัมป์ ใส่ชื่อในบัญชีคว่ำบาตรเมื่อปี 2018 เพราะโยงกับการซื้ออาวุธรัสเซียของจีน

จากนั้นปักกิ่งก็ปฏิเสธที่จะจัดการประชุมใดๆ ระหว่างหลี่กับลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

บรรยากาศในปักกิ่งกำลังตึงเครียด เพราะมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในการควบคุมพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ชั้นสูง

สี จิ้นผิง เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมกฎระเบียบทางการเงินของพรรคคอมมิวนิสต์ตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยได้เพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎระเบียบต่อหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินทั้งหมด

รวมถึงธนาคารกลาง ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานกำกับดูแลที่นำโดยพรรค ซึ่งก็คือ Central Financial Commission

ข่าวบางกระแสแจ้งว่า หน่วยงานต่อต้านการรับสินบนของคณะกรรมาธิการการทหารกลาง (CMC) คณะกรรมการตรวจสอบวินัย พร้อมด้วยสำนักงานตรวจสอบ กำลังสอบสวนผู้บังคับบัญชาคนปัจจุบันของกองกำลัง Li Yuchao

รวมถึง Zhang Zhenzhong และ Liu Guangbin ซึ่งเป็นเบอร์รองลงมาในอดีตและปัจจุบันของเขา

หลี่ ซึ่งเป็นนายพลอาวุโสที่สุดที่ถูกเรียกตัวมาสอบสวนครั้งล่าสุด

โดยเขามีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการคนที่ 3 ของกองกำลังจรวด ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่างการยกเครื่องกองทัพครั้งใหญ่ในปี 2015

หลี่ ซึ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นคณะกรรมการกลางพรรค 205 คนในเดือนตุลาคม เป็นหนึ่งใน “ผู้นำโดดเด่น” ในกองทัพ

มีบทบาทสำคัญในขบวนพาเหรดวันชาติปี 2009 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชน และขบวนพาเหรดในปี 2015 เพื่อรำลึกถึงวันครบรอบ 70 ปีแห่งชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่สอง

สี จิ้นผิง ก้าวออกจากตำแหน่งผู้นำพรรคสมัยที่ 3 พร้อมคำมั่นว่าปักกิ่งจะสร้าง “ระบบการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์ที่แข็งแกร่ง”

หลายคนมองว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนในการเพิ่มคลังอาวุธนิวเคลียร์ของจีน

หลังจากการพัฒนามาเกือบหกทศวรรษ ขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ของจีนได้ขยายออกไปอย่างชัดเจน

โดยระบบจัดส่งทางอากาศ ทางภาคพื้นดิน และทางทะเลทั้งหมดได้รับการถูกยกระดับอย่างต่อเนื่อง

ในวันนี้กองทัพเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตที่กว้างขวางของสี จิ้นผิง

และยังพุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่หลายแสนคนในทุกระดับ

สี จิ้นผิง แถลงอย่างภาคภูมิใจว่า การปราบปรามคอร์รัปชันในระดับสูงของกองทัพนั้นได้บรรลุเป้าหมายอย่างน่าพอใจ 

คำแถลงล่าสุดทางการแจ้งว่า ตั้งแต่เริ่มการรณรงค์ปราบ “นายพลฉ้อฉล” นั้น ได้จัดการระดับนายพลไปแล้วกว่า 100 นาย

ไม่รวมอีกกว่า 2 ล้านคนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐในระดับต่างๆ

เป็นการตอกย้ำว่า การปราบปรามการฉ้อราษฎร์บังหลวงภายใต้การนำของสี จิ้นผิงนั้น ไม่มีการละเว้นใครไม่ว่าจะในระดับใดทั้งสิ้น

และระหว่างทางก็ได้จัดการศัตรูทางการเมืองไปด้วย...ก็น่าจะถือว่าเป็นผลพลอยได้ที่ในหลายกรณีอาจไม่ใช่เหตุบังเอิญ!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ