เมื่อจีนกดดันรัฐบาลทหารพม่า และฝ่ายต่อต้านทางเหนือต้อง ‘พักรบ’

เจรจากันมาสามรอบระหว่างฝ่ายรัฐบาลทหารของมิน อ่องหลายกับแกนนำของ “พันธมิตรฝ่ายเหนือ” 3 พี่น้องจึงตกลงที่จะ “หยุดยิง” ชั่วคราวได้

ข่าวบอกว่าข้อตกลงมีผลตั้งแต่ 4 ทุ่มของคืนวันพฤหัสฯที่ผ่านมา

แต่ผ่านไปไม่กี่วัน ก็มีการกล่าวหา “ละเมิดข้อตกลง” จาก 2 กลุ่มชาติพันธุ์เกือบจะทันที

ต้องรอพิสูจน์ว่าจีนจะต้องจัดให้มีการเจรจากันรอบใหม่หรือไม่

สำหรับ 3 รอบแรก จีนทำหน้าที่เป็น “คนกลาง” เพื่อให้มีการเจรจาเพราะการสู้รบดุเดือดที่เริ่มมาตั้งแต่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมานั้นมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ, ความมั่นคงและเสถียรภาพชายแดนของจีนมากขึ้นทุกวัน

ข่าวหลายกระแสรายงานตรงกันว่าพันธมิตรติดอาวุธชาติพันธุ์ต่อต้านรัฐบาลที่ทำสงครามกับรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าทางตอนเหนือของรัฐฉานมายาวนานได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง 3 ข้อกับรัฐบาลในระหว่างการเจรจาสันติภาพที่จีนสนับสนุน

“พันธมิตรภราดรภาพ 3 พี่น้อง” ประกอบด้วยตัวแทนของกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (TNLA), กองทัพอาระกัน (AA) และกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาร์ (MNDAA)

กองกำลังของทั้งสามกลุ่มนี้ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในการผนึกกำลังทำสงครามเชิงรุกต่อรัฐบาลทหารพม่าตั้งแต่ปลายเดือน เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว

เป็นการประชุมกันที่เมืองคุนหมิงในรัฐยูนนานของจีนเมื่อวันพุธและพฤหัสบดีที่ผ่านมา

แหล่งข่าวบอกกับสำนักข่าว “อิรวดี” ของพม่าว่าทั้งสองฝ่ายตกลงหยุดยิงโดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าหน่วยติดอาวุธของทั้งสองฝ่ายจะรักษาที่ตั้งเดิม ไม่มีการรุกคืบเพิ่มเติมต่อกันและกัน

แปลว่าทั้งสองฝ่ายจะละเว้นปฏิบัติการสู้รบต่อกันเพื่อเปิดทางให้มีการต่อรองกันในรายละเอียดในทางปฏิบัติ

เพราะเอาเข้าจริง ๆ แม้แกนนำของทั้งสองฝ่ายจะตกลงในหลักการกว้าง ๆ ได้ว่าจะต้องหยุดพักการสู้รบ แต่เงื่อนไขในรายละเอียดคือเรื่องที่ละเอียดอ่อนและตกลงกันค่อนข้างจะยาก

โดยข้อตกลงระบุว่าฝ่ายต่อต้านตกลงที่จะไม่ยึดค่ายรัฐบาลหรือเมืองทางตอนเหนือของรัฐฉานเพิ่มอีก

ในขณะที่รัฐบาลทหารยอมรับที่จะไม่ทำการโจมตีทางอากาศและการยิงปืนใหญ่ในพื้นที่ของฝ่ายต่อต้าน

ที่สำคัญคือ ทั้งสองฝ่ายยังตกลงที่จะเปิดเส้นทางการค้าที่สำคัญระหว่างเมียนมาร์-จีน ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่กองทัพร่วมชาติพันธุ์ได้เข้าควบคุมได้สำเร็จ

การกลับมาเปิดเส้นทางการค้าชายแดนระหว่างพม่ากับจีนเป็นหัวข้อสำคัญเพราะเป็นเส้นเลือดของรายได้สำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสำหรับรัฐบาลทหารและฝ่ายจีน

แต่การจะกลับไปสู่ภาวะปกของการค้าชายแดนมีความสลับซับซ้อนพอสมควร

เงื่อนไขข้อนี้จะเกิดขึ้นได้จริงก็ต่อเมื่อมีการหารือโดยละเอียดเพิ่มเติมระหว่างกองทัพชาติพันธุ์ รัฐบาลทหาร และจีน หลังจากการสู้รบภาคพื้นดินทั้งหมดยุติลงแล้วอย่างจริงจัง

การเจรจาเน้นไปที่การหยุดยิงเป็นหลัก ปัญหาต่างๆ เช่น การย้ายฐานทัพ การปักหมุดที่ตั้งทั้งทหารของทั้งสองฝ่ายและอาณาเขตของแต่ละฝ่ายยังต้องมีการเจรจาต่อรองกันอย่างละเอียด

และข้อตกลงหยุดยิงอาจจะชะงักก็ด้วยความขัดแย้งในรายละเอียดเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อใดข้อหนึ่งก็อาจทำให้ทุกอย่างสะดุดได้

พล.ต.ซอ มิน ตุน โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยืนยันการหยุดยิงต่อสื่อของทางการในระดับท้องถิ่น โดยชี้แจงว่ายังต้องมีการหารือประเด็นเพิ่มเติมบางประการเพื่อทำให้ข้อตกลงสามารถดำเนินไปได้อย่างจริงจัง

โฆษกทหารพม่าขอบคุณจีนที่อำนวยความสะดวกในการเจรจาครั้งนี้จนได้ผลที่จับต้องได้

ปฏิบัติการของพันธมิตรฝ่ายต่อต้านมีชื่อว่า “ยุทธการ 1027ประกาศเป้าหมายที่จะ “ถอนรากถอนโคนเผด็จการทหาร” และกำจัดปฏิบัติการหลอกลวงทางออนไลน์บริเวณชายแดนเมียนมาร์-จีน

ความสำเร็จเกิดจากการที่กองทัพชาติพันธุ์สามารถเข้าควบคุมพื้นที่ขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของรัฐฉาน  ตั้งแต่ชายแดนจีนทางตะวันออกไปจนถึงพื้นที่ใกล้กับเขตมัณฑะเลย์ทางตะวันตก  เสริมด้วยการขยายแวดวงความร่วมมือไปยังพันธมิตรที่เป็นชาติพันธ์กลุ่มอื่น ๆ ได้เจริญรอยตามยุทธการ 1027 จนสามารถเปิดฉากรุกคืบในเขตสะกาย และรัฐยะไข่ ชิน และกะเรนนี (คะยาห์) ในเวลาต่อมา

การเจรจาที่คุนหมิงที่จีนมีบทบาทเป็น “ผู้อำนวยความสะดวก” มีทูตจีน เติ้ง ซีจุนเป็นผู้ประสานหลัก การพบปะรอบล่าสุดนี้ถือเป็นการเจรจารอบที่สามระหว่างพันธมิตรและรัฐบาลทหาร  จีนมีอิทธิพลและบารมีเหนือกองทัพชาติพันธุ์บางส่วนและมีสายตรงถึงรัฐบาลทหารพม่า

จึงสวมบทเป็นตัวกลางการเจรจาโดยจัดให้มีการประชุมนัดแรกในเดือนธันวาคมตามคำร้องขอของรัฐบาลทหารที่เพลี่ยงพล้ำในหลาย ๆ สนามรบจนต้องขออาศัยบารมีปักกิ่งในการระงับความเสียหายที่อาจจะลามไปกว้างขวางขึ้น

ในการพบกันครั้งแรก ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหยุดยิง 20 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 ถึง 31 ธันวาคม  แต่ก็ข้อตกลงนี้มีอันแท้งตั้งแต่ต้นเพราะต่างฝ่ายต่างละเมิดสัญญาสงบศึกตั้งแต่ต้น และเกิดการปะทะกันอย่างเข้มข้นที่ปะทุทั่วภาคเหนือของรัฐฉาน

การเจรจารอบที่สองระหว่างวันที่ 22 ถึง 24 ธันวาคมล้มเหลวอีกเช่นกัน เพราะไม่อาจจะในการบรรลุข้อตกลงใดๆ ได้ อันเกิดความระแวงคลางแคลงกันตลอด

หลังการนั้นต่างฝ่ายต่างก็ซัดกันอย่างต่อเนื่อง ไม่มีวันหยุดปีใหม่แต่อย่างใด

มาถึงวันนี้ ฝ่ายต่อต้านได้ยึดแล้ว 16 เมืองกับเขตการค้าจีน-เมียนมาร์ 5 แห่ง ขณะที่รัฐบาลเผด็จการทหารได้สูญเสียฐานทัพอย่างน้อย 250 แห่ง

รวมทั้งกองบัญชาการปฏิบัติการระดับภูมิภาคและฐานยุทธวิธี ในรัฐฉานทางตอนเหนือเพียงแห่งเดียว

การเจรจาสันติภาพรอบที่ 3 เกิดขึ้นหลังจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ซุน เหว่ยตง พบกับนายมิน ออง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเที่กรุงเนปิดอว์ เพื่อหารือเกี่ยวกับเสถียรภาพชายแดน รวมถึงประเด็นอื่นๆ

เหตุที่การเจรจารอบที่สามต้องแสวงหาข้อตกลงให้ได้นั้นย่อมมาจากแรงกดดันจากจีนที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพตามแนวชายแดนติดกับเมียนมาร์ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับตนมากไปกว่านี้

แต่ต้องไม่ลืมว่าข้อตกลงนี้มีผลเฉพาะกับรัฐฉานตอนเหนือเท่านั้น ในพื้นที่อื่นๆ การต่อสู้จะดำเนินต่อไป

ไม่ว่าจะเป็นรัฐยะไข่ ชิน กะเรนนี สะกาย และพื้นที่อื่นๆ

นั่นแปลว่าสงครามกลางเมืองในพม่ายังไม่ได้แผ่วลงในภาพรวมเพราะเนื้อหาสาระแห่งความขัดแย้งยังไม่ได้รับการเยียวยาและตอบสนองแต่อย่างใด

นั่นคือการก่อตั้ง “สหพันธรัฐเมียนมา” ที่กลุ่มชาติพันธุ์ต้องจะมีสิทธิในการปกครองตนเองโดยจะต้องระบุไว้อย่างชัดเจนในรัฐธรรมนูญใหม่ที่จะต้องร่างร่วมกัน

ถึงวันนี้ เป้าหมายนั้นยังอยู่ห่างไกลนัก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ