บันทึกหน้า 4

"ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด" สว. 250 คน ชุด คสช.แต่งตั้ง จะหมดวาระในวันที่ 11 พ.ค.นี้ แม้ที่ผ่านมาเมื่อดูประวัติแต่ละคนล้วนมีที่มาที่ไปต่อต้านระบอบทักษิณ ที่ผ่านมาอาจมีข้อมูลใหม่ เป็นเหตุต้องกัดฟันเลือก เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ หวาดหวั่นกระแสพรรคก้าวไกล เพราะมองว่าเป็นภัยความมั่นคง

แต่ผ่านมา 4 เดือนของการทำงานของ รัฐบาล "เศรษฐา" ก็ทำให้ สว.ทนไม่ไหว ไม่ว่าจะเป็นประเด็นนักโทษเทวดาชั้น 14 เรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแจก 1 หมื่นบาท ฯลฯ และหลายคนก็อยากฝากผลงานส่งท้ายให้โลกจำ ผ่านการซักฟอกโดยไม่ลงมติผ่านกลไกรัฐธรรมนูญมาตรา 153 แม้รัฐบาลจะปากแข็งว่าพร้อมให้ตรวจสอบ แต่ในทางลับมีความพยายามใช้อำนาจมืดกดดันไม่ให้เกิดกระบวนการนี้ 

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.ตัวตึง และประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่เป็นแกนนำของ สว.ในการรวบรวมรายชื่อ สว. เพื่อยื่นขอเปิดอภิปรายรัฐบาลทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 เปิดเผยความคืบหน้าในการรวบรวมรายชื่อ สว.ที่ต้องให้ได้อย่างน้อยหนึ่งในสามของจำนวน สว.ที่ปฏิบัติหน้าที่ คือ ไม่น้อยกว่า 84 คน ว่า ตอนนี้มี สว.มาร่วมลงชื่อแล้วประมาณ 80 คน ซึ่งก็ยังขาดอยู่อีกประมาณ 4 คน

 “ก็ยังเชื่อว่าจะได้รายชื่อครบ แต่ก็มีข่าวออกมาว่ามีการสกัดกั้นอยู่ มีการขอร้องไม่ให้มีการมาร่วมลงชื่อกันก็มี ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้น เพราะการหา สว.มาร่วมลงชื่อ 84 คน จริงๆ น่าจะใช้เวลาไม่นาน แต่ปรากฏว่าก็ต้องใช้เวลาหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะ สว.แต่ละคนคงอยากจะขอพิจารณารายละเอียดในญัตติที่จะมีการอภิปรายก่อน เราก็มองในแง่ดีไว้ก่อน”

อีกประเด็นต้องดูว่าจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่ที่ทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม กรณีความไม่โปร่งใสเรื่องนักโทษเทวดา ที่ผ่านการรักษาตัวเกิน 120 วันแต่ยังไม่กลับเข้าเรือนจำ 

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง “ขอเป็นกำลังใจให้ คปท.” ที่เตรียมชุมนุมต่อในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนผู้รับความเป็นธรรม ได้เข้าร่วมการชุมนุมและสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ คปท.ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าให้บริวาร ลูกสมุน และสาวกของคุณทักษิณ สบประมาทพลังประชาชนฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณว่าอ่อนแอ จุดกระแสไม่ติดได้

แม้ว่าสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไป ผู้ที่เคยต่อต้านระบอบทักษิณจำนวนมาก อาจจะเกิดการอ่อนล้า และสับสนทางการเมือง แต่ก็เชื่อว่าจิตใจที่รักชาติ รักความเป็นธรรม ก็ยังคงอยู่ในหัวใจไม่เสื่อมคลาย เมื่อสถานการณ์สุกงอม ก็เชื่อว่ามวลชนคนเหล่านี้ จะไม่นิ่งดูดาย จะต้องออกมาแสดงพลัง เพื่อปกป้องกระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่ง"

ข่าวว่าวันที่ 16 ม.ค.นี้ ครม.จะพิจารณาแต่งตั้ง พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.เพื่อแต่งตั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) คนใหม่ หลังมีการทำหนังสือขอรับการโอนย้าย พล.ต.อ.รอย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวไม่อยากมาเพราะหวังเป็น ผบ.ตร. แต่สุดท้ายก็ยอมกำขี้ดีกว่ากำตด  

สำหรับหน่วยงานที่ชื่อว่า สมช. มีผู้นำองค์กรสูงสุดคือตำแหน่งเลขาธิการ เป็นข้าราชการพลเรือนระดับสูง ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี โดยมีวิสัยทัศน์ขององค์กรระบุว่า “องค์กรนำด้านความมั่นคงแบบองค์รวม บนพื้นฐานการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ และบริหารจัดการความมั่นคงทุกมิติอย่างสมดุลและยั่งยืน”

สมช.ก่อตั้งมา 112 ปี มีผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการมาแล้ว 23 คน ส่วนใหญ่มาจากทหาร-ตำรวจ มี “พลเรือน” เพียง 5 คนที่ได้นั่งเก้าอี้ผู้นำองค์กร ทั้งที่มีจุดมุ่งหมายให้เป็นหน่วยงานความมั่นคงที่ช่วยคานอำนาจกับ ‘เหล่าทัพ’

 “สมช.” จึงถูกใช้เป็นศาลาพักใจ รองรับคนอกหักจาก ‘ทหาร-ตำรวจ’ ส่งผลให้ 'ลูกหม้อ’ คนในองค์กรไม่เติบโตในตำแหน่งหน้าที่ ถือเป็นเรื่องที่น่าน้อยใจสำหรับคนใน สมช.ยิ่งนัก นับวันยิ่งยากจะเติบโต เพราะตำแหน่ง ‘หัวหน้าองค์กร’ มักจะถูกนำไปใช้ตอบสนองด้านการเมืองใช่หรือไม่.

 

ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

บันทึกจันทร์สุดท้ายของปี 2568 อีกไม่กี่เพลาก็จะขึ้นศักราชใหม่ 2569 ...ประเทศไทยจะก้าวไปทางไหน?!?.. ก็ขอบันทึกสะกิดเตือน @ บรรทัดนี้เลยว่า ใจเย็นๆ ค่อยๆ พินิจพิจารณา ประมวลข้อมูล ทบทวน ไตร่ตรองให้ละเอียดรอบคอบแล้วจึงค่อยตัดสินใจว่า เลือกตั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ เราอยากได้ใครมาเป็น "ผู้นำ" พาชาติบ้านเมืองไปสู่ทิศทางที่เหมาะที่ควร!!

บันทึกหน้า 4

จาก "หนู" หนึ่งเดียว กลายเป็นสอง ก่อนหน้านี้ถามกันทุกวันถึง 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของภูมิใจไทย ในงานแถลงนโยบาย "พูดแล้วทำพลัส" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชัดเจนว่า "อนุทิน ชาญวีรกูล" ฉายเดี่ยว โฆษกพรรคย้ำแล้วย้ำอีก

เข้าใจคนชายแดน

ถ้าเอ่ยชื่อ กวาง–ไตรศุลี ไตรสรณกุล นาทีนี้ หลายคนคงนึกถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหญิงของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ทำงานเงียบ สุขุม แต่เดินเกมเร็ว ไม่หวือหวา ทว่าจับงานอยู่หมัด

บันทึกหน้า 4

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงคุกรุ่นอยู่ต่อเนื่องอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ แม้วันที่ 24 ธ.ค.2568 จะเป็นวันแรกในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ในวาระพิเศษ

บันทึกหน้า 4

การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ไทยยังเหนือกว่าทุกด้าน สมรภูมิตามแนวชายแดน ทหารกล้าของเราบุกยึดพื้นที่คืนกลับมาเกือบเบ็ดเสร็จ ในเวทีสากล นานาชาติก็เข้าใจสถานการณ์ดี

บันทึกหน้า 4

บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”