หากทุกอย่างไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตามฤกษ์งามยามดี วันอังคารที่ 16 ม.ค. ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี นายกฯ นิด-เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง นั่งหัวโต๊ะประธาน น่าจะมีการตีตราประทับรับโอน บิ๊กรอย-พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ไปนั่งเก้าอี้ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เลขาฯ สมช.) ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ซึ่งนั้นก็เท่ากับว่าจะทำให้เก้าอี้ "รอง ผบ.ตร." ว่าง 1 ตัว เมื่อรวมเก้าอี้ "ผู้ช่วยผบ.ตร." ของ บิ๊กหลวง-พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ที่โอนย้ายไปเป็น เลขาฯ ป.ป.ส. จะทำให้มีเก้าอี้ "นายพล" ตำแหน่งหลักๆ ว่าง 2 ตัว ตอนนี้ "กรมปทุมวัน" ก็เลยมีการถกเถียงกันในการแต่งตั้งตำรวจระดับ "นายพล" วาระเดือนเมษายน ว่าจะมีการแต่งตั้ง "รอง ผบ.ตร." และ "ผู้ช่วย ผบ.ตร." แทนตำแหน่งที่ว่างหรือไม่ เพราะตามปกติวาระเดือนเมษายนจะเป็นการแต่งตั้งตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. และผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อเป็นการตอบแทน "นายตำรวจ" ที่เหลืออายุราชการอีกเพียง 6 เดือน ก่อนจะเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย.เท่านั้น
การจะแต่งตั้ง "นายพล" แทนตำแหน่งว่างระดับ รองผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร.ในเดือนเมษายนหรือไม่นั้น คงต้องลุ้น คงต้องติดตาม คงต้องวัดใจ ผบ.ต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล แม่ทัพใหญ่สีกากี จะขออนุมัติ ก.ตร.แต่งตั้งทั้ง 2 ตำแหน่งหรือไม่ เพราะ บิ๊กเอก-พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ยกข้อกฎหมายมาอธิบายว่าแม้จะมี พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 แต่ในการแต่งตั้งตำรวจระดับ "นายพล" ก็ต้องมีกฎหมายลำดับรองคือ "กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. ..." มารองรับ ซึ่งขณะนี้กฎดังกล่าว ก.ตร.มีกำหนดจะต้องพิจารณาให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมกราคมนี้ โดยจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มาตรา 88) จึงคาดว่าจะเริ่มใช้ในการแต่งตั้งวาระประจำปี 2567 ประมาณเดือนสิงหาคม ก็เหมือนปิดประตูแต่งตั้งทั้ง 2 เก้าอี้ที่ว่างลง อย่างไรก็ดี แวดวงสีกากีต่างก็ยังเชื่อว่าหากไม่มีช่องทาง หากไม่มีกลวิธีในการแต่งตั้ง ก็คงไม่น่าจะมีการโอนย้ายทั้ง "บิ๊กรอย" และ "บิ๊กหลวง" จนทำให้เก้าอี้ รอง ผบ.ตร.และผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่างลง เพราะ "ผู้มีอำนาจ" ไม่เคยทำอะไรฟรี หากไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง
สำหรับการแต่งตั้ง "นายพล" วาระเดือนเมษายน ข้อมูลที่ "บิ๊กเอก" ในฐานะ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิเปิดเผยเอาไว้ น่าจะมีแนวทางหลักๆ ประกอบด้วย ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ ตร. (ยศ พล.ต.อ. เทียบ รอง ผบ.ตร.) มีจำนวน 10 ตำแหน่ง พิจารณาจากผู้ดำรงตำแหน่งระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร., รอง จตช. ไม่น้อยกว่า 1 ปี (พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส) ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. (ยศ พล.ต.ท. เทียบ ผบช.) มีจำนวน 20 ตำแหน่ง พิจารณาจากผู้ดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบช., รอง จตร. ไม่น้อยกว่า 2 ปี (พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส) ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ ตร. (ยศ พล.ต.ต. เทียบ ผบก.) มีจำนวน 30 ตำแหน่ง พิจารณาจากผู้ดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบก. ไม่น้อยกว่า 4 ปี (พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส) ใครเข้าเกณฑ์ ใครมีชื่อได้ขยับ ได้ติดยศก่อนเกษียณอายุราชการ ไว้ใกล้ๆ ค่อยมาว่ากันอีกที เพราะโฟกัสตอนนี้อยู่ที่เก้าอี้รอง ผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่ว่างลงมากกว่า ว่าจะมีการทำในเดือนเมษาฯ หรือไม่...ต้องติดตาม
เดินหน้าไปอีกหนึ่งก้าวสำคัญ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. ตอนนี้ "นายกฯ เศรษฐา" เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง นายสมรรถชัย วิศาลาภรณ์ เป็นประธาน ก.พ.ค.ตร. มีกรรมการ 6 ราย ประกอบด้วย นายธวัชชัย ไทยเขียว, พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี, นายวันชาติ สันติกุญชร, พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์, พล.ต.อ.อำนาจ อันอาตม์งาม และ พล.ต.ท.ปัญญา เอ่งฉ้วน เป็นกรรมการและเลขานุการ สถานที่ทำงาน ก.พ.ค.ตร. ตั้งอยู่ชั้น 19 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 พล.ต.อ.วิเชียร บอกว่า กรณีส่งหนังสือติดต่อราชการทั่วไปทางไปรษณีย์ หรือส่งหนังสืออุทธรณ์ ร้องทุกข์ทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ให้ส่งไปยัง ก.พ.ค.ตร.ตามที่อยู่ข้างต้น กรณียื่นหนังสืออุทธรณ์หรือร้องทุกข์ด้วยตนเองให้ยื่นต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ณ ที่ทำการ กองอุทธรณ์ หรือกองร้องทุกข์ ชั้น 18 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
วันเด็กปีนี้ “เหล่าทัพ” ยังคึกคักเหมือนเดิม โดยเฉพาะเด็กๆ ผู้ชายส่วนใหญ่ยังสนใจถ่ายรูปคู่รถถัง-เครื่องบิน แต่ปีนี้กองทัพบกกลับมาจัดที่กองทัพบก ราชดำเนิน "ลุงต่อ" พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เปิดพื้นที่พิพิธภัณฑ์ให้เด็กๆ เข้าชมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ด้านการทหาร ส่วนยุทโธปกรณ์ยังมีรถเกราะล้อยางทั้งจากยูเครน และสหรัฐฯ มาตั้งแสดงโชว์เหมือนเดิม ส่วนกองทัพอากาศ ดอนเมือง พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) งดการสาธิตบินโชว์แบบเต็มรูปแบบ ลงมาเหลือการบินผ่านแบบ “ฟลาย-บาย” ส่วนกองบินต่างๆ ยังตั้งเครื่องบินรบให้เด็กๆ ได้เข้าเยี่ยมชมและนั่งในที่นั่งนักบิน หลังจากมีประชาชนร้องเรียนในปีที่ผ่านมา เรื่องการปิดน่านฟ้าเพื่อฝึกและสาธิต ทำให้สายการบินพาณิชย์ที่ขึ้นลงดอนเมืองต้องเปลี่ยนแปลงตารางเวลา
สัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปพักค้างคืนในพื้นที่ตามกำหนดการเดิม ไม่เกี่ยวกับที่ นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน มีกำหนดการลงไปในพื้นที่เร็วๆ นี้ โดยเป็นแผนตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ มอบเสื้อคอมแบตเชิ้ตแบบมาตรฐานเป็นของขวัญอวยพรปีใหม่ ให้กำลังพลได้สวมใส่ และประชุมติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ พร้อมพบปะเยี่ยมเยียนกำลังพล ไล่ตั้งแต่ ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ไปเยี่ยมพบปะกำลังพลหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 และกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 151 มอบถุงยังชีพให้กำลังพลและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย, ลงพื้นที่วัดปิเหล็ง ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เยี่ยมเยียนให้กำลังใจและส่งมอบปัจจัยขั้นพื้นฐานในการดำรงชีพ จากนั้นคณะเดินทางกลับมายังพื้นที่ จ.ปัตตานี เพื่อตรวจเยี่ยมติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี พร้อมมอบของขวัญอวยพรปีใหม่และให้กำลังใจกำลังพล เป็นต้น ก่อนพักค้างคืนที่ปัตตานี
ครบรอบ 114 ปีกองทัพภาคที่ 1 พล.ท.ชิษณุพงษ์ รอดศิริ แม่ทัพภาคที่ 1 ร่อนหนังสือเชิญอดีตแม่ทัพเข้าร่วมงานเช่นทุกปี ปีนี้ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีและอดีตนายกฯ กลายเป็นไฮไลต์ของงาน เพราะหลังจากพ้นตำแหน่งยังไม่ได้ไปงานไหน นอกจากในภาระหน้าที่ขององคมนตรี ครั้งนี้ถูกเชิญให้ไปเป็นประธานในพิธีสงฆ์ ท่ามกลางอดีตแม่ทัพภาคที่ 1 ที่มาร่วมงานอย่างคึกคัก ได้แก่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ, พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา , พล.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา, พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์, พล.อ.วลิต โรจนภักดี , พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร, พล.อ.บัณฑิตย์ มลายอริศูนย์, พล.อ.นิพนธ์ ภารัญนิตย์, พล.อ.ไพศาล กตัญญู และ พล.อ.พรชัย กรานเลิศ เป็นต้น แต่ไม่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้าร่วมงานเช่นหลายปีที่ผ่านมา
อภิปรายกันในสภาฯ วันพิจาณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณวาระแรกไปพอหอมปากหอมคอ “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม แจงเป็นข้อๆ ไปแล้ว จากนั้นกระทรวงกลาโหม ก็ซ้ำด้วยการเปิดแผนที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ในการปรับลดจำนวนนายพลทุกเหล่าทัพโดยเฉพาะ “นายพลตบยุง” ทั้งในตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตั้งเป้าลดให้เหลือน้อยกว่า 300 คนจาก 700 คน ในปี 2570 ซึ่งที่ผ่านมามีชั้นนายพลประมาณ 2,000 นาย โดยเป็นกำลังหลักประมาณ 1,300 นาย ซึ่งกำลังหลักจำเป็นต้องพิจารณาถึงสถานการณ์ความมั่นคงของโลก และในภูมิภาค รวมทั้งรูปแบบในยุทธวิธีต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีสงครามไซเบอร์หรือ Cyber warfare และเรื่องอวกาศเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ส่วนการลดจำนวนชั้นยศ "พันเอก (พิเศษ)" ที่จะขึ้นไปเป็น “นายพล” ให้ลดลงอีกกว่า 570 อัตรา เพื่อให้สอดรับกับตำแหน่งนายพลที่จะลดลงไปด้วย โดยจะมีการจัดทำนโยบายสร้างแรงจูงใจให้นายทหารเกษียณก่อนกำหนด Early Retire เช่น การจ่ายเงินชดเชย หรือ "เงินก้อน" ประมาณ 7 แสนบาท ก่อนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะนำเข้าที่ประชุมสภากลาโหม จากนั้นจะนำเข้า ครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติแผนและกรอบงบประมาณ เพื่อให้มีผลบังคับทันปีนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้
เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ
เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม
จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!
ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก
ช่วงเค้าลางคดีสำคัญของนายกรัฐมนตรีก่อตัวในดวงเมือง
ขอพักการทำนายเค้าโครงชีวิตคนปี 2568 ไว้ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวที่รออยู่คือท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุล
ไม่สนใจใครจะต่อว่า เสียงนกเสียงกา...ข้าไม่สนใจ
ถ้าหากเราจะบอกว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงตำหนิ มีการนำเอาการพูดและการกระทำที่ไม่ถูกไม่ต้อง ไม่เหมาะไม่ควร
จาก 'น้ำตา' ถึง 'รอยยิ้ม' พระราชินี
ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา...ได้อ่านข่าวพระราชาและพระราชินีสเปน เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเยียนผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองปอร์ตา แคว้นบาเลนเซีย