ตัวแทนของสองพรรคใหญ่ที่ไต้หวันหาเสียงกันด้วยวาทะดุดัน เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจเลือกระหว่าง “สงครามกับสันติภาพ” หรือ “ประชาธิปไตยกับเผด็จการ”
พรรครัฐบาลปัจจุบันคือ “หมินจิ้นตั่ง” DPP กับพรรคฝ่ายค้าน “ก๊กมินตั๋ง” KMT คือคู่ต่อสู้หลักที่จะตัดสินอนาคตของเกาะแห่งนี้
โดยมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน CPC จ้องมองข้ามช่องแคบไต้หวันอย่างใจจดใจจ่อ
การหย่อนบัตรวันนี้เป็นการเลือกประธานาธิบดีคนใหม่มาแทนที่นางไช่ อิงเหวิน ที่ดำรงตำแหน่งมา 2 สมัย
ที่ทำให้มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นจังหวะที่ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ พุ่งสูงอย่างมาก
หัวข้อหาเสียงหลักแน่นอนคือเรื่องจีนแผ่นดินใหญ่
แต่ประเด็นปากท้องก็มีความสำคัญไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าจ้างที่ไม่พอใช้กับที่พักอาศัยที่แพงขึ้น
และหนีไม่พ้นเรื่องภูมิรัฐศาสตร์
โพลทั้งหลายบอกว่า ครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งสนใจเรื่องความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่
ตัวเต็งสำคัญมี 3 คน
วิลเลียม ไล ชิงเต๋อ จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า
ไลเป็นรองประธานาธิบดีวัย 64 จุดยืนชัดเจนว่าไต้หวันจะต้องเป็นตัวของตัวเอง มิใช่เป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่
จุดยืนแข็งกร้าวอย่างนี้แหละที่ทำให้ปักกิ่งเขม่น สื่อบนแผ่นดินใหญ่วิเคราะห์การหาเสียงครั้งนี้อย่างคึกคัก
ไม่ต้องแปลกใจว่าสื่อจีนต่อต้านนายไล เพราะมีแนวทางไปทางเดียวกับนางไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน
กระบอกเสียงรัฐบาลจีน Global Times ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายไลหาเสียงแบบนี้ต้องดำเนินคดีด้วยกฎหมายปราบปรามการแบ่งแยกดินแดน
เขาทำงานใกล้ชิดไช่ อิงเหวิน ช่วงปี 2017-2019 และแสดงทัศนะอย่างเปิดเผยมาตลอดว่าจะผลักดันเอกราชไต้หวัน
อย่างนี้รัฐบาลปักกิ่งติดป้ายว่าเป็น “พวกแยกแผ่นดิน” ซึ่งมีความผิดร้ายแรงตามกฎหมายของจีน
ตัวเต็งจากพรรครัฐบาลคนนี้เรียนจบแพทย์มาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และเคยเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านไต ก่อนจะเข้าสู่อาชีพรับราชการในช่วงกลางทศวรรษที่ 1990
เขาได้รับเลือกเป็น สส.จากเขตเลือกตั้งไถหนานทางตอนใต้ของเกาะ
และชนะเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองในปี 2010 ต่อเนื่องถึงปี 2014
ด้วยคะแนนเสียงที่สร้างสถิติสูงถึง 74%
เขาหาเสียงด้วยการตอกย้ำว่า “ไต้หวันหวังจะเป็นเพื่อนกับจีน” แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของจีน ต้องคบหากันอย่างเสมอภาค
ไลบอกว่าไต้หวันไม่ต้องการเป็นศัตรูกับจีน คบเป็นเพื่อนกันได้
และยังตอกย้ำว่าอยากเห็นจีนมีประชาธิปไตยและเสรีภาพเหมือนไต้หวัน
ประโยคอย่างนี้แหละที่สร้างความเดือดดาลบนแผ่นดินใหญ่
ตั้งฉายาไลว่าเป็น “ตัวปัญหา” และ “ตัวทำลายชาติจีน”
คนที่ทำให้ปักกิ่งโกรธมากกว่าน่าจะเป็นเชียว บีคิม (Hsiao Bi-khim) ผู้สมัครชิงรองประธานาธิบดีของพรรคนี้
เธอเกิดที่ญี่ปุ่น ไปโตในสหรัฐฯ ต่อมาได้ตำแหน่งผู้แทนไต้หวันประจำสหรัฐฯ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
จีนมองว่าเธอคือสัญลักษณ์ความใกล้ชิดระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ
ปักกิ่งจึงจับจ้องเธอด้วยสายตาที่สงสัยคลางแคลงอย่างมาก ถึงกับเรียกเธอว่าเป็น “คนหัวดื้อผู้แบ่งแยกดินแดนเพื่อเอกราชไต้หวัน”
จีนประกาศคว่ำบาตรเชียวมาแล้ว 2 ครั้ง
นั่นแปลว่าเธอไม่สามารถเหยียบแผ่นดินจีนได้ และห้ามนักธุรกิจจีนคบหาเธอ
ถ้าปักกิ่งมีนักการทูต “นักรบหมาป่า” เธอประกาศตนเป็น “นักรบแมว” เพื่อถ่วงดุลกับจีน
เธอเคยให้สัมภาษณ์ The Economist ว่า “แมวน่ารักกว่าหมาป่าอยู่แล้ว แล้วในทางการทูต เราจะเน้นหามิตร”
คู่แข่งที่น่ากลัวของพรรครัฐบาลคือ โหว โหย่วอี๋ วัย 66 จากพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT)
ชีวิตต่อสู้มาอย่างสมบุกสมบันพอสมควร
เพราะโหวเริ่มด้วยการช่วยธุรกิจทางบ้านด้วยการจับสุกร หรือช่วยขายเนื้อสัตว์ที่เขียงหมูในตลาด
พอโตขึ้นก็เปลี่ยนมาจับคนร้ายแทน เพราะตัดสินใจสวมเครื่องแบบตำรวจ
โหวมีชื่อเสียงเป็นตำรวจมือปราบ ทำคดีดังๆ ที่ต้องปราบเหล่าอาชญากรระดับชาติมาแล้วมากมาย
เคยเป็นเจ้าพนักงานร่วมสืบสวนหลักในคดีพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีเฉิน สุยเปี่ยน
จนผู้ใหญ่เห็นฝีมือ ได้เลื่อนเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
โหวเข้าสู่การเมืองในปี 2010 และสร้างชื่อเสียงโดดเด่นในฐานะนายกเทศมนตรีนครนิวไทเป ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุด
ปี 2018 เขาก็ชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย และดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีอีกสมัยในปี 2022
โหวเป็นความหวังของพรรคฝ่ายค้านที่จะทวงบัลลังก์ประธานาธิบดีกลับคืนมาจากพรรค DPP ที่ชนะเลือกตั้ง 2 ครั้งติดต่อกันแล้ว
จุดยืนของโหวอยู่คนละข้างกับคู่แข่ง...เขาต่อต้านการเป็นเอกราชของไต้หวัน
แต่เขาก็พยายามเลี่ยงการตอบตรงๆ เกี่ยวกับจุดยืนด้านจีนตลอดช่วงหาเสียง
กลายเป็นจุดอ่อนที่ถูกคู่แข่งโจมตีว่าเขาไร้จุดยืนที่ชัดเจน
แต่พอถูกจี้ให้ตอบ เขาก็จะบอกเพียงว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองฟากช่องแคบไต้หวันนั้นชัดเจนแล้ว เราไม่ต้องการให้มันดูสับสน
“ความสัมพันธ์นี้อยู่บนรากฐานรัฐธรรมนูญของสาธารณรัฐจีน”
คือถ้อยประโยคที่เขาใช้เพื่อจะหลีกเลี่ยงการตอบปะทะกับจีน แต่ก็กลัวจะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเชื่อว่าเขา “กลัวจีน”
คู่หูของโหวชื่อ จอว์ ชอว์กง วัย 73 นักวิจารณ์การเมืองที่เลื่องชื่อ เคยเป็นผู้นำพรรคฝ่ายขวาชื่อ “พรรคใหม่”
จอว์สนับสนุนการรวมชาติไต้หวันกับจีน
แต่ระหว่างการหาเสียงครั้งนี้ เขาหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน
โดยบอกว่าหากชนะเลือกตั้งก็จะไม่ผลักดันการรวมชาติกับจีน
ตัวเลือกที่สามของการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันนี้คือ เคอ เหวินเจ๋อ จากพรรคประชาชนไต้หวัน (TPP)
บางคนเรียกเขาว่า “ม้ามืด” เคยเป็นหมอ และสร้างความฮือฮาด้วยการร้องเพลงแรปช่วงหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครไทเป
เขาวางตัวเป็น “ตัวเลือกที่ 3” อยู่ตรงกลางระหว่างผู้สมัครที่จะยั่วยุจีน กับผู้สมัครที่โอนเอียงไปทางจีน
ข้อได้เปรียบของเขาคือเป็นที่นิยมในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นใหม่
เขาโด่งดังจากการประกาศสนับสนุน “ขบวนการนักศึกษาทานตะวัน” เมื่อปี 2014
เป็นกิจกรรมประท้วงของกลุ่มนักศึกษาที่ต่อต้านอิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้นในไต้หวัน
หลังจากได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีนครไทเป จุดยืนทางการเมืองก็ปรับเปลี่ยนไป
ด้วยการประกาศว่าพร้อมจะเชื่อมสัมพันธ์กับระหว่างนครไทเปกับจีนแผ่นดินใหญ่มากขึ้น โดยเฉพาะกับนครเซี่ยงไฮ้
เขาตั้งพรรคทีพีพี ปี 2019 ด้วยนโยบายขอเป็น “พรรคทางเลือกที่สาม” นอกเหนือจากดีพีพีและก๊กมินตั๋ง ที่ผูกขาดการเมืองไต้หวันมาตลอด
ปี 2020 พรรคทีพีพีชนะ สส. 5 ที่นั่ง จากทั้งหมด 113 ที่นั่ง และถือเป็นพรรคการเมืองใหญ่สุดอันดับ 3 ของไต้หวัน
เคอหาเสียงด้วยการบอกว่าพรรค DPP นั้นเป็นอันตรายต่อไต้หวัน เพราะ “หนุนสงครามกับจีน”
แต่ก็ตำหนิพรรคก๊กมินตั๋งว่า “โอนเอียง” ไปทางจีนมากเกินไป
ค่ำนี้คงจะรู้ว่าสี จิ้นผิง ที่ปักกิ่งจะรู้สึกโล่งอกหรือหงุดหงิดเพิ่มขึ้น!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ