ใกล้วันเลือกตั้ง คนไต้หวัน กลัวจีนบุกยึดเกาะแค่ไหน?

พรุ่งนี้ 13 มกราคม 2567 ไต้หวันจะมีการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่อาจจะตัดสินว่าจีนแผ่นดินใหญ่จะปรับแผนการบุกไต้หวันหรือไม่

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เกิดเรื่องตื่นเต้นไปทั้งเกาะ เพราะมีคำเตือนด่วนถึงมือถือของชาวไต้หวันทุกคนว่าจีนยิงจรวดขนดาวเทียมสำรวจขึ้นสู่วงโคจรโลก

รัฐบาลไต้หวันประกาศเตือนภัยฉุกเฉินทั่วประเทศ

เกิดคำแปลจากภาษาจีน “ดาวเทียม” กลายเป็น “ขีปนาวุธ” ในภาษาอังกฤษ

ก็เลยวุ่นไปทั้งเกาะ

สื่อของทางการของปักกิ่งแจ้งว่า จรวดบรรทุกดาวเทียมสำรวจทางวิทยาศาสตร์ชื่อเก๋ไก๋ว่า ไอน์สไตน์ โพรบ (Einstein Probe) หรือแปลว่า “สำรวจแบบไอน์สไตน์” ถูกยิงออกจากศูนย์อวกาศในมณฑลเสฉวน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

วันเดียวกันนั้น กระทรวงกลาโหมไต้หวันประกาศเตือนภัยฉุกเฉินระบุว่า เป็นขีปนาวุธที่ถูกยิงมาจากจีนข้ามน่านฟ้าไต้หวัน

ผู้คนบนเกาะหวั่นๆ มาตลอดว่าจีนจะส่งกองกำลังทหารบุกยึดเกาะ พอมีถ้อยคำเตือนภัยจากจีนในมือถือก็โกลาหลกันเป็นการใหญ่

ยิ่งจังหวะเวลาช่วงนี้ยิ่งมีความอ่อนไหว

เพราะเรื่องวุ่นๆ นี้เกิดขึ้นเพียง 4 วันก่อนการเลือกตั้งทั่วประเทศเพื่อเลือกประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาชุดใหม่

ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่วันก็มีเรื่องเกรียวกราวเมื่อทางการไต้หวันรายงานว่า ได้ตรวจพบบอลลูนจากจีนแผ่นดินใหญ่ลอยเหนือช่องแคบที่กั้นระหว่างทั้งสองฝ่าย

หนึ่งในบอลลูนที่สงสัยว่าจะมีภารกิจสอดแนมลอยข้ามเกาะไต้หวันเสียด้วย

กระทรวงกลาโหมไต้หวันออกแถลงการณ์ดุดัน กล่าวหาปักกิ่งคุกคามความปลอดภัยการบินและทำสงครามจิตวิทยาเพื่อให้มีผลต่อการหย่อนบัตรของคนไต้หวัน

คนไต้หวันรู้ดีว่าปักกิ่งอยากให้ผู้สมัครคนไหนชนะเลือกตั้งเสียด้วย

ไต้หวันมองว่าจีนแผ่นดินใหญ่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ผลการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ของไต้หวันออกมาตามที่ปักกิ่งอยากจะเห็น

นั่นคือผู้สมัครที่มีแนวนโยบายพร้อมจะประนีประนอมกับจีนแผ่นดินใหญ่ ไม่ใช่คนจากพรรครัฐบาลปัจจุบันที่มีไช่ อิงเหวิน ที่กำลังจะหมดเทอม ที่มีท่าทีค่อนข้างจะแข็งกร้าวกับจีนมาตลอด

สำหรับคนไต้หวันจำนวนไม่น้อย หากผลการเลือกตั้งออกมาในทางที่ปักกิ่งเห็นว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อตน ก็อาจจะเพิ่มความเป็นไปได้ที่จีนจะเตรียมโจมตีไต้หวัน

ตลอดเวลาปลายปีที่ผ่านมา โพลส่วนใหญ่สะท้อนว่าคนไต้หวันมองจีนเป็นภัยคุกคาม

ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ความวิตกกังวลก็ยิ่งเพิ่มดีกรีขึ้น

ประกอบกับที่มีปรากฏการณ์บอลลูนลอยเหนือน่านฟ้าและคำเตือนเรื่องดาวเทียมจีนก็ยิ่งกระพือความกลัวเรื่อง “จีนบุกไต้หวัน”

สื่อ VOA ของสหรัฐฯ รายงานว่า มีสัญญาณชัดเจนขึ้นว่าคนไต้หวันอย่างน้อยก็จำนวนหนึ่งถึงกับลุกขึ้นมาเตรียมตัวในกรณีที่เกิดสงครามขึ้นจริงๆ

แต่มีการฝึกใช้ปืนและวิทยุสื่อสารในกรณีฉุกเฉิน ตลอดไปถึงการปฐมพยาบาล

วีโอเอสัมภาษณ์นายโทนี ลู ที่เคยร่วมรบในยูเครนที่บอกว่า "ตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซียยูเครน เกิดการเรียนการสอนประชาชนเรื่องการทหารมากขึ้น" ที่ไต้หวัน

บทเรียนจากสงครามยูเครนคือ ถ้ารัสเซียบุกยูเครนได้ จีนก็ย่อมจะบุกไต้หวันได้เช่นกัน

การที่คนจำนวนหนึ่งฝึกทักษะด้านการทหารเป็นสัญญาณเครื่องสะท้อนความหวั่นวิตกเช่นนี้

หนึ่งถึงความคิดของชาวไต้หวันที่ว่า หากรัสเซียรุกรานยูเครนได้ จีนก็อาจโจมตีไต้หวันได้เช่นกัน

นักข่าววีโอเอพบว่าชาวไต้หวันจำนวนหนึ่งสนใจการใช้วิทยุสื่อสารสมัครเล่นด้วย

สถาบัน "คูมา อะคาเดมี" ให้ความรู้ในการตรวจสอบ fake news หรือข้อมูลเท็จ รวมถึงทักษะการอยู่รอดเมื่อบริการพื้นฐานหยุดชะงัก และการช่วยเหลือผู้อื่นให้รอดชีวิต

คนเข้าเรียนส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง

มาร์โค โฮ ผู้ร่วมก่อตั้ง "คูมา อะคาเดมี" เล่าว่า คนที่มาเรียนที่เป็นผู้หญิงส่วนใหญ่นั้นเปรียบเสมือนเป็นกลุ่ม “คุณเเม่”

เกิดจากแรงจูงใจที่ว่าถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินหรือสงครามจะได้รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง

ที่สำคัญที่สุดคือการเรียนรู้วิธีการปกป้องครอบครัวของตนได้อย่างไรหากเกิดเหตุร้ายในระดับนั้น

ความตึงเครียดระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับเกาะไต้หวันมีมายาวนานตั้งแต่สงครามกลางเมืองของจีนจบลงเมื่อกว่า 70 ปีก่อน

พรรคคอมมิวนิสต์ภายใต้การนำของเหมา เจ๋อตง ชนะสงครามผลักดันให้เจียง ไคเช็ก ต้องนำทัพชาตินิยมถอยมาตั้งหลักที่ไต้หวัน

ภายใต้นโยบาย “จีนเดียว” ปักกิ่งถือว่าไต้หวันเป็นจังหวัดหนึ่งของจีน

พรรคการเมืองไต้หวันสองพรรคหลักคือก๊กมินตั๋ง กับหมินจิ้นตั่ง ต่างมีนโยบายที่แตกต่างกันในประเด็นความสัมพันธ์กับจีน

พรรคแรกต้องการจะมีการไปหามาสู่ฉันมิตรกับปักกิ่ง

พรรคหลังที่เป็นรัฐบาลขณะนี้ยืนหยัดว่าไต้หวันไม่ได้อยู่ใต้การปกครองของปักกิ่ง

เรื่องความกลัวว่าจีนจะยกทัพมายึดเกาะไต้หวันมีอยู่ในความคิดของคนไต้หวันมาตลอด

บางช่วงจังหวะ ความกลัวเรื่องนี้มาแรง อีกบางช่วงก็แผ่วลง ตามกระแสการเมืองบนเกาะไต้หวันและรัฐบาลปักกิ่ง

วีโอเออ้างนักวิชาการไต้หวันคนหนึ่งบอกว่า "บ่อยครั้งที่คนคิดว่า หากบางอย่างไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อวาน และไม่ได้เกิดขึ้นในวันนี้ มันก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ความคิดแบบนี้อันตรายมาก"

แต่คนไต้หวันไม่น้อยเห็นว่าตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ขึ้นมาเป็นผู้นำจีน มุมมองเรื่องภัยคุกคามจากจีนเปลี่ยนไป

เพราะสีต้องการเป็นผู้มีส่วนกำหนดกติกาโลกแข่งกับสหรัฐฯ

หนึ่งในคนที่กำลังฝึกปรือทักษะสำหรับพลเมืองเรื่องการปกป้องประเทศบอกว่า ประเด็นสำคัญที่ประชาชนควรทราบถึงอิทธิพลและความเสี่ยงของสงครามข้อมูลข่าวสาร

บางคนมองว่าคนไต้หวันต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความสามารถปกป้องไต้หวัน ชีวิตที่ผ่านมันสงบสุขเกินไป

เพราะกลัวว่าที่ผ่านมาคนบนเกาะแห่งนี้ขาดความตื่นตัวเรื่องนี้

อีกบางคนเชื่อว่าไม่ว่าใครจะชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ก็อาจไม่ใช่เป็นปัจจัยที่จีนใช้ตัดสินใจว่าจะโจมตีไต้หวันหรือไม่

คนรุ่นเก่าจึงมักจะเตือนชาวไต้หวันว่าจะต้องเผชิญกับความจริงให้ได้ ว่าสงครามเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้และควรเตรียมตัวไว้

(พรุ่งนี้วันเลือกตั้งไต้หวัน: จุดยืนของตัวเต็งทั้ง 3 ต่อสี จิ้นผิง).

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ