“ภาคการส่งออก” ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์ในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แต่ในช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา ดูเหมือนจะเจอสถานการณ์กดดันที่ทำให้ภาคการส่งออกไม่สามารถเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ มีบางช่วง บางเดือนที่จะเห็นการส่งออกของไทยขยายตัวติดลบ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากปัจจัยภายนอก ขณะที่ข้อมูลจาก “กระทรวงพาณิชย์” พบว่า การส่งออกในเดือน พ.ย.2566 นั้น มีมูลค่าที่ 23,479.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 4.9% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ส่วนภาพรวมการส่งออกในช่วง 11 เดือนของปี 2566 กลับพบว่าหดตัว 1.5%
ทั้งนี้ หากการส่งออกของไทยในเดือน ธ.ค.2566 มีมูลค่าที่ 25,654 ล้านเหรียญสหรัฐ ก็จะส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกของไทยในปี 2566 ที่ผ่านมา ยังมีโอกาสขยายตัวได้ที่ 0% แต่หากมูลค่าอยู่ที่ 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐ การส่งออกของไทยในปีดังกล่าวจะหดตัวที่ 0.8% โดยกระทรวงพาณิชย์เองยังเชื่อว่าการส่งออกของไทยทั้งปีจะหดตัวไม่ถึง 1.5% โดยประเมินว่าที่สุดแล้วน่าจะหดตัวที่ 1%
ส่วนทิศทางการส่งออกของไทยในปี 2567 นี้ กระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะปรับตัวได้ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากที่เงินเฟ้อชะลอลงกลับสู่เป้าหมาย วัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะยุติลง กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว พร้อมกับความเชื่อมั่นในการบริโภคและลงทุนที่กลับมา โดยกระทรวงพาณิชย์ปักธงเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ไว้ที่ 1.99% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 10 ล้านล้านบาท
ขณะที่ภาคเอกชนอย่าง “สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก” ระบุว่า คาดแนวโน้มการส่งออกในปี 2566 นั้น มีมูลค่า 22.85 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือหดตัว 1% ตามกรอบที่เคยได้ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่แนวโน้มการส่งออกของไทยในปีนี้ คาดการณ์ว่าจะขยายตัวที่ 1-2% ภายใต้ปัจจัยเฝ้าระวังสำคัญ 5 เรื่อง ได้แก่ 1.การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท 2.อัตราดอกเบี้ยนโยบายในหลายประเทศยังทรงตัวระดับสูง
3.ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อการค้าและเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะสถานการณ์วิกฤตในทะเลแดง บริเวณช่องแคบ บับ อัล-มันเดบ ซึ่งเป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าหลักไปทวีปยุโรปและตะวันออกกลาง 4.ดัชนีภาคการผลิต (PMI) ยังทรงตัวในระดับต่ำ ทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น รวมถึง 5.ความกังวลเรื่องต้นทุนภาคการผลิตที่ยังมีแนวโน้มไม่แน่นอน อาทิ ค่าไฟฟ้า ค่าแรงขั้นต่ำ และค่าระวางเรือเส้นทางยุโรปที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น เป็นต้น
ด้าน “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” มีมุมมองว่า แนวโน้มการส่งออกของไทยในปี 2567 นั้น จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากปีก่อนหน้า สอดคล้องกับทิศทางการค้าโลกที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ในปี 2567 ตามวัฏจักรของอุปสงค์สินค้าต่างๆ และฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า ท่ามกลางปัจจัยท้าทายต่างๆ ที่อาจเข้ามากดดันการฟื้นตัวของส่งออกไทยในระยะข้างหน้า ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจในตลาดคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะจีนและสหรัฐฯ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ความผันผวนของค่าเงินจากการปรับทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลัก รวมถึงภัยแล้งที่ยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไป
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ประเมินว่า ภาพรวมการส่งออกของไทยในปี 2567 จะกลับมาขยายตัวได้ในแดนบวกที่ 2% เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่คาดว่าอาจจะหดตัวราว -1.3% ซึ่งหดตัวลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ -2.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ส่วน “ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics” นั้น ประเมินว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าในปี 2567 น่าจะพลิกกลับมาขยายตัวได้ที่ราว 2% จากอานิสงส์ในเรื่องของฐานที่ต่ำในปีที่ผ่านมา รวมถึงปริมาณการค้าโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ตลอดจนวัฏจักรการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่เริ่มกลับมาขยายตัวได้ดี
ด้าน “ศูนย์วิจัยกรุงศรี” ให้มุมมองว่า ภาคการส่งออกยังมีแนวโน้มเติบโตต่ำ และยังคงเผชิญแรงกดดันจากความอ่อนแอของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า แต่ก็ประเมินว่าการส่งออกของไทยในปี 2567 นี้ จะกลับมาขยายตัวได้ที่ 2.5% จากปัจจัยเฉพาะ อาทิ วัฏจักรการฟื้นตัวของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ปัจจัยหนุนจากการรักษาความมั่นคงทางด้านอาหาร ตลอดจนความร่วมมือทางเศรษฐกิจภายในภูมิภาค (Regionalization) เป็นต้น การทยอยฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น คาดว่าจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มจาก 1.3% ในปี 2566 เป็น 2% ในปีนี้.
ครองขวัญ รอดหมวน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อสังหาฯปี68ฟื้นตัวแบบช้าๆ
หลังจากผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 หลายๆ ฝ่ายต่างก็คาดหวังว่าเศรษฐกิจจะขยับเติบโตขึ้น แต่ในทางตรงข้าม แม้ว่าจะมีการเติบโต แต่ก็เติบโตแบบเชื่องช้า แถมปัญหาที่สะสมก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น
ผ่าแผนรับมือรถติดสร้างสายสีส้ม
จากการที่รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เตรียมจัดการจราจรเพื่อดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม
เปิดขุมทรัพย์จากพฤติกรรมสุดขี้เกียจ
เชื่อหรือไม่ว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่กดสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรี ทั้งที่ร้านอยู่ใกล้แค่ใต้คอนโดฯ สั่งซื้อของจากร้านสะดวกซื้อทั้งที่ร้านอยู่แค่ฝั่งตรงข้าม หรือยอมจ่ายเงินจ้างคนไปต่อคิวเพื่อซื้อของ ทำธุระ
สงครามการค้าเวอร์ชัน 2.0
อย่างที่ทราบกันดีว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐล่าสุด ผู้ชนะก็คือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งคว้าชัยแบบทิ้งห่างคู่แข่งอย่างนางกมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต
แห่ส่งเสริมนวัตกรรมพลิกโลก
เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต ออฟ ติงส์ หรือ IoT(ไอโอที) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญในยุคสมัยนี้ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นนวัตกรรมที่ทำให้การสื่อสารระหว่างมนุษย์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไร้รอยต่อยิ่งขึ้น
OCAแก้วิกฤตพลังงานไทย
ปัจจุบันปริมาณสำรองก๊าซของไทยลดลงอย่างต่อเนื่องจนเข้าขั้นวิกฤต ส่งผลให้ต้องนำเข้าก๊าซ LNG ในราคาที่ผันผวนเพิ่มมากขึ้น มีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นของประชาชนและรายได้งบประมาณของรัฐลดลง