ไม่รู้ว่าจะขำเป็นภาษาอะไรดีกับกรณี “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาฟาดงวงฟาดงาสร้างภาพเรื่องดอกเบี้ยกับ “ธนาคารแห่งประเทศไทย” เพราะเรื่องอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยห่างกันสุดลิ่มนั้น คอลัมน์นี้เคยเขียนเคยบอกไปแล้วกว่า 1 เดือนตั้งแต่ “เศรษฐา” แถลงเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้ในระบบ แต่ ดูเหมือน “เสี่ยนิด” ก็ไม่ได้เอะใจหรือสังหรณ์ใจแต่ประการใด อาจเป็นเพราะคนเขียนเป็นแค่ Nobody ในสายตา แต่พอเจอคอลัมนิสต์ใน Somebody ที่ “เศรษฐา” รู้จักมักจี่และสนิทสนมกับเจ้าของเครือดังกล่าวเขียนบทความขึ้นมา ก็ถึงกับดิ้นเป็นไส้เดือนโดนน้ำร้อนลวกเลย ...๐
แล้วคนที่จุดประเด็นของคอลัมนิสต์ดังกล่าวก็ไม่ใช่ใครที่ไหน “ชัย วัชรงค์” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ลอยข้ามฟ้าจากทุนใหญ่คับประเทศนั่นเอง และหลังจากนั้น “เศรษฐา” ถึงได้ทวีตข้อความยามค่ำสมทบ ก่อนจะมาถึงการเรียก “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าการแบงก์ชาติเข้าหารือที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ก็เหมือนอย่างที่เคยเขียนเคยบอกไปนั่นแลว่า สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ ไร้การขยับเขยื้อนเปลี่ยนแปลงแน่นอน เพราะนอกจากตัว “เศรษฐพุฒิ” เองแล้ว “เศรษฐา” เองก็ทำแค่สร้างภาพขึงขังเพื่อซื้อใจเอกชนเท่านั้น ...๐
ที่หัวเราะไม่ออกเข้าไปอีกก็คือ “เศรษฐา” หากรำลึกได้ว่าตัวเองนอกจากเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังเป็น “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง” ด้วย ก็จะไม่เกิดภาพการเมืองเข้ามาแทรกแซงระบบการเงินของประเทศในสายตาของต่างประเทศเลย หรือเพราะนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีคลังเพียงเพื่อคงลายเซ็นในธนบัตรเอาไว้อวดลูกอวดหลานก็ไม่รู้ เพราะหากทำหน้าที่ขุนคลังจริงก็ควรหารือ “แบงก์ชาติ” แบบเคลียร์ใจกันไปแล้ว ไม่ต้องมาเป็นข่าวร้าวฉาวโฉ่ให้อายชาวบ้านชาวเมืองเขา ...๐
ที่สำคัญก็เคยเตือนเคยบอกไปแล้ว แต่เพราะเป็น “Somebody” นั่นแล จึง ทำให้รัฐบาลไม่ใส่ใจ นั่นคือการบริหารประเทศผ่าน X หรือทวิตเตอร์เดิม เข้าใจได้ “เศรษฐา” อยากสื่อสารกับประชาชนอย่างรวดเร็วเหมือนผู้นำในต่างประเทศ แต่ดูผลงานที่ผ่านมาก็จะเห็นว่าการทวีตหรือการโพสต์ข้อความแบบใจเร็วด่วนได้ เกือบพาประเทศซวยมาแล้วเท่าไหร่ โดยเฉพาะกรณีสงครามอิสราเอล-ฮามาส แต่ดูเหมือน “เศรษฐา” ก็ยังไม่หลาบจำ ยังคงบริหารชาติด้วย X และสร้างปัญหาเกาเหลาอีกรอบ ...๐
ที่สำคัญดูเหมือนงานนี้บรรดาพรรคเพื่อไทยไล่มาตั้งแต่ระดับบนจนถึงระดับล่างต่างก็พาเหรดขย้ำแบงก์ชาติอย่างเมามัน ไม่ว่าจะเป็น “อดิศร เพียงเกษ” ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ที่ร่ายกลอนอัด “พิชัย นริพทะพันธุ์” รองประธานยุทธศาสตร์และการเมืองพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีที่ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก เรียกร้องให้ “ธปท.” มาร่วมแก้ไข 5 ปัญหาใหญ่ หรือแม้แต่ “วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล” สส.แพร่ และ “วิสาร เตชะธีราวัฒน์” อดีต สส.เชียงราย ก็รุมอัดตัวแทนแบงก์ชาติในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณปี 2567 นัดแรก ...๐
พูดถึงเรื่องงบประมาณแล้วไม่เอ่ยถึง “เจ๊ไหม” ก็ไม่ได้ เพราะขุนคลังเงาอย่าง “ศิริกัญญา ตันสกุล” แห่งพรรคก้าวไกล บอกก่อนประชุมว่าวันนี้อาจได้เห็นภาพว่าวิกฤตไทยเป็นอย่างไร ซึ่งตัวแทนแบงก์ชาติก็ฉายภาพชัดแจ้งแดงแจ๋ให้พรรคเพื่อไทยหน้าม้านกันเลยทีเดียว เพราะตัวแทนบอกว่าต้องพิจารณาข้อมูลรอบด้าน และหลายปัจจัยที่เกิดขึ้น พร้อมยกตัวอย่างเช่น สถาบันการเงินที่มีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้จำนวนมาก จนกระทบต่อสถานะธนาคาร หรือเรียกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งนั่นเอง การเกิดภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นเวลานานอย่างอาร์เจนตินา หรือแม้แต่การเกิดวิกฤตจากสถานการณ์ไม่คาดคิด เช่น โควิด-19 รวมถึงวิกฤตจากปัญหาอุทกภัยในยุค “นารีขี่ม้าขาว” ที่บอกว่าเอาอยู่นั่นแล งานนี่ก็เลยเห็นกันชัดๆ ว่าสภาพปัจจุบันนั้นไม่ใช่วิกฤต แค่เพื่อไทยไม่สามารถทำตามราคาคุยได้เท่านั้นเอง ...๐
ทิ้งท้ายด้วยข่าวศาลรัฐธรรมนูญกันบ้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องการเตรียมความพร้อมในการแถลงปิดคดีใหญ่ในสัปดาห์หน้า แต่เป็นเรื่องของการเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่แทน “วรวิทย์ กังศศิเทียม” โดย มติที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงส่วนใหญ่ 5 เสียงได้เลือก “นครินทร์ เมฆไตรรัตน์” ขึ้นเป็นประธาน โดยชนะ “จิรนิติ หะวานนท์” และ “ปัญญา อุดชาชน” ที่ต่างได้ไปคนละ 2 คะแนนแบบเท่าตัวทีเดียว ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
เลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เพชรบุรี นครศรีธรรมราช และอุดรธานี เมืองหลวงคนเสื้่อแดง 24 พฤศจิกายน ภาพรวมผู้ใช้สิทธิ์บางตา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ประชาชนให้ความสนใจน้อยกว่าการเลือกตั้ง สส. เพียงแต่การเลือกตั้งนายก อบจ.ในครั้งนี้
บันทึกหน้า 4
22 พ.ย. ลุ้น ผลการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะ “รับ-ไม่รับ” คำร้องของ “ธีรยุทธ สุวรรณเกษร” ให้ “ทักษิณ ชินวัตร” และ “พรรคเพื่อไทย” หยุดพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง จาก 6 กรณี ดังนี้ หนึ่ง “ทักษิณ” ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว
บันทึกหน้า 4
ต้องเรียกว่า “พุธพิพากษา” ของแท้ โดยเฉพาะศาลอาญาที่ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 และมารดาผู้เสียชีวิตร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง “สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์” หรือ “แอม ไซยาไนด์” อายุ 36 ปี
บันทึกหน้า 4
ควันหลงการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ที่ นายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ. สังกัดพรรคเพื่อไทย (พท.)
บันทึกหน้า 4
สมรภูมิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ในวันที่ 24 พ.ย. ไม่เพียงแค่ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนในสนามท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการหยั่งกระแสของทั้งสองฝ่ายในเวทีใหญ่ทางการเมืองอีกด้วย โดยเฉพาะทัพแดงนั้นแพ้ไม่ได้
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันครึ้มฟ้าครึ้มฝนจากผลกระทบปลายๆแถวพายุหม่านยี่ เสียงฟ้าร้องฟ้าคะนองอาจจะไม่มี แต่เสียงอื้ออึง "ทักษิณ" กลับมาแล้ว