อย่าหาว่าผมขัดคอ-ขัดนโยบายเลยนะ
ที่ทั้งนายกฯ และนายจุลพันธ์ รมช.คลัง ให้ข่าวไปทางเดียวกัน จนสื่อนำไปพาดหัวโครมครามว่า
"กฤษฎีกาไฟเขียวให้ออก พ.ร.บ.เงินกู้ ๕ แสนล้านได้" นั้น
ระวังนะครับ....
รัฐบาล "ติดกับดัก" ตัวเอง ผมไม่ห่วง
แต่ห่วงชาวบ้านโกรธ และจุดไฟเผา ว่าหลอกให้หลงดีใจ สุดท้ายก็ "บัวแล้งน้ำ" นั่นละมากกว่า
เพราะเรื่อง "กู้มาแจก" ตามที่ รมช.จุลพันธ์บอก กฤษฎีกาให้ความเห็นว่า "ทำได้" นั้น
เป็นคำตอบลักษณะ "ถามคำ-ตอบคำ"
ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่า ทางรัฐบาลตั้งคำถามไปอย่างไร จึงได้คำตอบแบบครอบจักรวาลจากกฤษฎีกาเช่นนั้น?
เพราะถ้าถามไปว่า "ทำได้มั้ย"?
ก็ต้องตอบว่า "ทำได้"
แต่การ "ได้" ของกฤษฎีานั้น มันเป็นการ "ได้" แบบมีกรอบ-มีกฎกติกา คือ "กฎหมาย" เป็นเข็มทิศกำหนดทางให้เดิน
ผมจึงขอเตือนด้วยหวังดี เหมือนกินปลา ผลีผลาม-ตะกลามกิน ก้างติดคอเอาง่ายๆ
ต้องมีสติ ใช้ลิ้นดุนแยกเนื้อ-แยกก้างให้แน่ใจก่อน แล้วค่อยกลืนลงคอ
ในความเห็นว่า "ได้" ของกฤษฎีกานั้น ผมว่าเป็น "ได้" ไม่ต่างนำเรือรบลอดรูเข็ม!
ทั้งนายกฯ เศรษฐา และ รมช.จุลพันธ์ อย่าอ่านคำตอบกฤษฎีกาแล้วหลงดีใจตรงคำว่า "ทำได้"
"ได้-ไม่ได้" มันขมวดปมอยู่ตรง "๓ ข้อสังเกต" ที่กฤษฎีกาแนบท้ายความเห็นมาให้นั่นแหละ
-ต้องเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย
-ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าของโครงการ
-ต้องรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน
นี่แหละ...
"กับระเบิด" ทั้งหมด ฝังอยู่ใน ๓ ข้อสังเกตนี้ โดยเฉพาะข้อสังเกตแรก ที่ว่า
- ต้องเป็นตามกรอบกฎหมาย
ข้อนี้ "ก้างแข็ง" ชนิดตำคอ "ขากถึงตาย" ก็คายไม่ออก!
ส่วนอีก ๒ ข้อสังเกต "ต้องคำนึง" กับ "ต้องรับฟัง"
มันเป็น "กิริยาสังวรณ์" ยังพอใช้กลเกม-กลไกการเมืองเถลือกไถลเอาตัวรอดได้
แต่ข้อสังเกตแรก มีตัวบทกฎหมายเป็น "กรอบบังคับ" ตายตัว ขืนทะรุ่ม-ทะร่าม ออกนอกกรอบ
"ซ้ายก็คุก-ขวาก็คุก" นี่เรื่องจริง ขอบอก!
เพราะ "ทำได้" นั้น เป็น "ได้" ที่ต้องเดินตามช่องกฎหมาย เช่น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๔๐ ว่าด้วยการจ่ายเงินแผ่นดิน
จะกระทำได้เฉพาะที่ได้รับอนุญาตไว้ในกฎหมาย
-ว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย
-ว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หรือกฎหมาย
-ว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐเท่านั้น
ยังต้องเดินตามกรอบ "พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ" พ.ศ.๒๕๔๘ หมวด ๒ ว่าด้วย "หนี้ที่รัฐบาลกู้"
ซึ่งนั่น อย่าลืมว่า.....
"รัฐธรรมนูญ" เป็นกฎหมายมหาชน ตามหลักกฎหมายมหาชนมีว่า “หากไม่มีบทบัญญัติใดให้อำนาจไว้ จะกระทํามิได้"
ก็จะเห็นว่า กฎหมายไม่ได้บอกว่าให้รัฐบาล "กู้เงินมาแจก" ได้ โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนขั้นวิกฤต
ยังไม่แค่นั้น ยังมี "พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ" พ.ศ.๒๕๖๑ อีก เช่น มาตรา ๖ มาตรา ๙
และมาตรา ๔๙ ไปจนถึง มาตรา ๖๐ ในส่วนที่ว่าด้วย "การก่อหนี้และการบริหารหนี้"
และตามนโยบายหาเสียงของพรรคที่ยื่น กกต.ก่อนได้รับอนุญาตให้ใช้หาเสียงได้
ซึ่งพรรคเพื่อไทยแจ้งไว้ว่า....
นโยบายแจกเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาทนั้น ที่มาของเงิน ๕.๖ แสนล้าน จะใช้เงินจากการ "บริหารงบประมาณ" ปกติ และการ "บริหารระบบภาษี"
พูดชัดๆ ๕.๖ แสนล้านนั้น
เพื่อไทย ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะ "ไม่กู้" โดยจะใช้เงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีแจก!
เนี่ย....มันชัดๆ อยู่
ฉะนั้น "ทำได้" ของเศรษฐา มันจะมาคู่กับ "ติดคุกได้" เพื่อความชัวร์ เศรษฐา "โปรดใช้วิจารณญาณก่อนดื่ม"!
ดูมาตรา ๕๓ "พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ" เป็น "หนังตัวอย่าง" ก่อนก็ได้นะ...ท่าน
"การกู้เงินของรัฐบาล นอกเหนือจากที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ
ให้กระทรวงการคลังกระทําได้ ก็แต่โดยอาศัยอํานาจตามกฎหมายที่ตราขึ้นเป็นการเฉพาะ
และเฉพาะกรณีที่มีความจําเป็นที่จะต้องดําเนินการโดยเร่งด่วนและอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศ โดยไม่อาจตั้งงบประมาณรายจ่ายประจําปีได้ทัน"
ซึ้งหรือยังล่ะท่าน...
จะใช้เงินนอกงบประมาณ โดย "กู้มาแจก" นั่นน่ะ
ถามว่า.....ขณะนี้
"มันมีความจำเป็นเร่งด่วนอะไร-ตรงไหน ที่เรียก "วิกฤตของประเทศ" ต้องกู้เร่งด่วน เพื่อนำเงินมาแก้ไข เหมือนอย่างตอนวิกฤตโควิด ชนิดตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีไม่ทัน?
ได้ยินแต่ "คุณนณริฏ พิศลยบุตร" จาก TDRI บอกเมื่อวาน
"GDP ปีที่ผ่านมาโต ๒.๖% ปีนี้ขยายตัวสูงขึ้นเป็น ๓.๑% แม้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ควรโต ๓.๖% แต่ก็ถือว่าเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ ไม่ได้โตต่ำมาก........"
รัฐบาลแทนที่จะดีใจ รีบคว้ามาโม้ ว่าแค่ ๔ เดือน ขนาดแค่พ่นน้ำลาย GDP ยังกระฉูดตั้งกว่า ๓%
ค่าที่หัวเด็ด-ตีนขาด ต้อง "กู้ ๕ แสนล้าน" มาแจกให้ได้ จนชาวบ้านสงสัยว่า มันมีอะไรอยู่เบื้องหลังการกู้เงินก้อนนี้มั้ย รัฐบาลเพื่อไทยถึงได้ "ตายเป็นตาย" ขนาดนี้?
ทั้งนายกฯ ทั้ง รมช.คลังเลยต้อง "ประณามตัวเอง" ด้วยการบอกว่า เศรษฐกิจยังเปราะบาง ประชาชนยังยากจน ประเทศติดหล่ม
ต้องกู้ ๕ แสนล้านมาแจก จะแก้ปัญหาได้หมด!
มันย้อนแย้งแยงจมูกแล้วไปแยงก้นยังไงไม่รู้ แบงก์ชาติ ภาคเอกชน และ TDRI บอกทางบวก แต่รัฐบาลบอกทางลบ
ตกลงเชื่อใครดี..หือ?
แต่ผมเชื่อในทางว่า เศรษฐกิจไทย แม้ยังไม่ถึงขั้น "โชติช่วงชัชวาล" แต่ก็ไม่มีอะไรเป็น "วิกฤตประเทศ" จำเป็นต้องกู้มาแจกเร่งด่วน
อีกเหตุที่ว่า "ไม่มีอะไรเร่งด่วน" เห็นได้จาก พ.ร.บ.งบประมาณ ปี ๒๕๖๗ ที่คาสภาแต่สมัยรัฐบาลประยุทธ์
เมื่อเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลตั้งแต่ปลายสิงหา.๖๖ รัฐบาลเศรษฐาก็ใช้เวลา ๔ เดือนนั้น รื้อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปรับเติมเสริมแต่งงบใหม่เกือบทั้งหมด
แล้วทำไมจึงไม่บรรจุ "งบแจก ๕ แสนล้าน" นั้นอยู่ในงบประมาณที่เพิ่งผ่านสภาวาระแรกไปหยกๆ วานซืนนี้ด้วยล่ะ?
ทั้งที่แจ้งต่อ กกต.ไว้ว่า "จะใช้เงินงบประมาณแจก" โดยไม่ใช้เงินนอกงบประมาณ!
การจะอ้างว่า "จัดทำงบประมาณไม่ทัน" ก็อ้างไม่ได้ เพราะมีเวลา ก็ทำ...แต่ทำโดยยำเรื่องอื่นแทน
ฉะนั้น การออก พ.ร.บ.กู้มาแจก ที่ว่า "ทำได้" ตามความเห็นกฤษฎีกานั้น
เป็น "ได้" ที่ต้องเดินตามกรอบของกฎหมายโดยตรง!
รัฐบาลเพื่อไทยตอบได้มั้ยว่า...
"พ.ร.บ.กู้มาแจกนี้ เป็นไปตามกรอบกฎหมายวินัยการเงินการคลัง มาตรา ๕๓ ที่ว่า
"มีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการเร่งด่วนและต่อเนื่องเพราะเป็นวิกฤตประเทศใช่หรือไม่?
ก็ไม่ใช่!
คลังกู้ตาม พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ มาตรา ๒๐ ที่ว่า กู้เพื่อ...
(๑) ชดเชยการขาดดุลงบประมาณ หรือเมื่อมีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ ใช่มั้ย?
(๒) กู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ใช่มั้ย?
(๓) กู้ปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ ใช่มั้ย?
ก็ไม่ใช่ทั้งนั้น
หากแต่เป็นการ "กู้มาแจก" ตามสัญญาว่าจะให้ตอนหาเสียง
มิหนำซ้ำ ผิดเงื่อนไขตามที่แจ้งขออนุญาตจาก กกต.ว่าจะ "ไม่ใช้เงินนอกงบประมาณ" แต่นี่กลับใช้ด้วยซ้ำ!
สรุป มันผิดทั้งรัฐธรรมนูญ ทั้ง พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ ทั้ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ทั้ง พ.ร.บ.พรรคการเมือง
เมื่อร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ ของเพื่อไทยเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภา ถ้าผ่านได้ ก็ต้องบอกว่า
นิติวิปริตบัญญัติ ชนิด "ฟ้าผ่าหมาตายกลางแดด" ยกคอกเลยทีเดียว!
กฤษฎีกาแค่ "ที่ปรึกษากฎหมาย" รัฐบาล ไม่ใช่ตุลาการ ซึ่้งท่านก็ให้คำปรึกษาตามโจทย์ที่รัฐบาลตั้งไปถามแล้ว
ส่วนรัฐบาลจะทำตามหรือไม่ทำ "ได้ทั้งนั้น"
แต่เมื่อทำ ในสิ่งที่กฎหมายไม่ได้ให้อำนาจว่าทำได้ รัฐบาลไหนทำ ก็ต้องรับผลของการกระทำนั้น
นี่เพราะผม "รวยแล้ว เลยอด ๑ หมื่น" อิจฉาพวกจะได้ จึงขอขัดลาภไว้นิดเพื่อความสบายใจ
เห็นทั้งนายกฯ และ รมช.คลังยืนยัน...
พฤษภา. "ได้ถ้วนหน้าคนละหมื่น" ก็ขอภาวนา
ขอให้เศรษฐาเป็นนายกฯ อยู่ถึงพฤษภา.ด้วยเถิ้ดดด
เจ้าประคู้นนนจุนจู๋!.
-เปลว สีเงิน
๙ มกราคม ๒๕๖๗
คนปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอาซะทีเถอะน่า...กกต.!
หมาน่ะ .... จุ๊ๆ ปาก มันยังหยุด เอียงคอ ตาจ้อง หูตั้ง และฟัง แต่ที่ "นายอิทธิพร บุญประคอง" ประธาน กกต. กระแอมถึงนายทักษิณ ผู้ช่วยหาเสียง "ผู้สมัครนายก อบจ." พรรคเพื่อไทย
ใคร 'เจ้าภาพบ้านเมือง'?
ดูคลิปและฟังคำที่.... "ทักษิณ" ทอล์กกับบรรดา "หมาในคอก" ของเขาวันก่อนแล้ว
ไอ้เสือถอย 'รอล้มล้าง'
ขบวนการ "ล้มล้างรัฐธรรมนูญ" ถอยซะแล้ว! "ประธานวันนอร์" แถลงหลังประชุมวิป ๓ ฝ่าย เมื่อวาน (๘ ม.ค.๖๘)
คนพันธุ์ 'ปากเปราะ'
ผมหายไปวัน... ไปร่วมยก "หลวงพ่อทวดครึ่งบน" ส่วนเศียร ขึ้นประกอบกับ "ส่วนล่าง" ที่ร่วมกันหล่อถวาย พร้อมสร้างอาคารฐานสถิต ที่วัดทรายขาว ทุ่งหวัง สงขลา
มันเอาแน่ 'แก้เพื่อล้มล้าง'
มี 'เรื่องใหญ่' ที่ผมต้องเกริ่นให้คนไทยทุกคนตื่นรู้ บัดนี้...ประเทศไทย....
เราอยู่ใน 'อนาคต' ที่ 'อดีต' ทำนายไว้แล้วหรือ!? | จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์
เราอยู่ใน 'อนาคต' ที่ 'อดีต' ทำนายไว้แล้วหรือ!? จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์ : วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2568