2024 : ปีอภิมหาเลือกตั้งทั่วโลก เช่น อินโดฯ, อินเดีย, เกาหลีใต้

ปี 2024 นี้ได้ชื่อว่าเป็น “ปีแห่งอภิมหาเลือกตั้ง” เพราะกว่า 40 ประเทศทั่วโลกจะมีการจัดการหย่อนบัตรเลือกผู้นำและสมาชิกรัฐสภากันอย่างคึกคัก

เฉพาะเอเชียเองก็จะมีการเลือกผู้นำในอินเดีย, บังกลาเทศ, ปากีสถานและอินโดนีเซีย

ไม่นับไต้หวันที่จะปูทางสำหรับการเลือกตั้งทั่วภูมิภาคในวันที่ 13 มกราคมนี้

แต่การที่ประชาชนออกมาหย่อนบัตรกันอย่างคึกคักในครึ่งค่อนโลกปีนี้ไม่ได้แปลว่าจะเป็นการเบ่งบานของระบอบประชาธิปไตยอย่างกว้างขวาง

เพราะแม้ประชาชนจะออกมาใช้สิทธิ์กันในหลายประเทศ นักการเมืองแต่ละแห่งก็ยังสามารถใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือเข้าสู่อำนาจเพื่อบิดให้ระบอบการปกครองกลายเป็นการรวมศูนย์อำนาจแห่งเงินตราและอิทธิพลมืดอยู่ดี

แต่แน่นอนว่าการที่ประชาชนมีสิทธิ์เลือกตั้งก็ยังดีกว่าการอยู่ใต้อำนาจเผด็จการทหารแบบเบ็ดเสร็จอยู่ดี

เฉพาะอินโดนีเซีย, อินเดีย, และเกาหลีใต้ก็น่าติดตามไม่น้อย

อินโดนีเซียจะมีการเลือกตั้ง 14 กุมภาพันธ์นี้               ประชาชนมากกว่า 200 ล้านคน มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งของอินโดนีเซียปีนี้ ถือเป็นการลงคะแนนเสียงโดยตรงของประธานาธิบดีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ผู้สมัคร 3 คนที่โดดเด่นคือ รัฐมนตรีกลาโหม ปราโบโว ซูเบียนโต อดีตผู้ว่าการรัฐชวากลาง กันจาร์ ปราโนโว และอดีตผู้ว่าการจาการ์ตา อานีส บาสเวดาน

ต่างแข่งขันกันที่จะเข้ามาแทนที่ประธานาธิบดีโจโค "โจโควี" วิโดโด ตำแหน่งนี้อยู่ได้ 2 วาระ

การเลือกตั้งถือเป็นการทดสอบความแข็งแกร่งของอนาคตของประชาธิปไตยและวัฒนธรรมทางการเมืองในอินโดนีเซียอย่างมีนัยสำคัญ

โดยในการหาเสียงนอกจากเรื่องปากท้องและความสามารถในการเป็นผู้นำของผู้สมัครแล้วก็มีการตอกย้ำถึงนโยบายที่เน้นเรื่องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนด้วย

ขณะที่วิโดโดหมดสิทธิ์เข้าแข่ง แต่ลูกชายคนโตของเขาคือเพื่อนร่วมทีมของปราโบโว

แรกเริ่มก็กลายเป็นประเด็นถกแถลงกันอย่างกว้างขวางในแวดวงการเมืองแล้ว

เพราะการเสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของ ยิบราน รากาบูมิง มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากคำตัดสินของศาลอันก่อให้เกิดการถกแถลงว่าไฉนจึงมีการเปิดช่องโหว่ให้ชายวัย 36 ปีรายนี้เข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งๆ ที่มีเกณฑ์เดิมที่กำหนดอายุที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ 40 ปีก็ตาม

หรือเป็นเพราะเขาเป็นลูกชายของประธานาธิบดีคนปัจจุบัน

สิ่งนี้จุดชนวนให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ครั้งใหญ่ และความกังวลเกี่ยวกับการทำลายความไว้วางใจของสาธารณชนต่อสถาบันต่างๆ ของอินโดนีเซีย

ที่เป็นข้อวิพากษ์และซุบซิบกันอย่างกว้างขวางก็เพราะ อันวาร์ อุสมาน หัวหน้าผู้พิพากษา ซึ่งเป็นผู้ตัดสินคดีดังกล่าว เป็นพี่เขยของวิโดโด

ซึ่งต่อมาถูกปลดจากตำแหน่งด้วยเหตุผลทางจริยธรรม แต่ในการสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำระหว่างวันที่ 23 พ.ย. ถึง 1 ธ.ค. โดย Indikator Politik Indonesia ผู้ตอบแบบสอบถาม 44.9% ระบุว่าจะลงคะแนนให้ปราโบโว ผู้แข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นครั้งที่ 3

ในขณะที่ 24.7% สนับสนุน Ganjar ของพรรครัฐบาล Anies อยู่ในอันดับที่ 3 ที่ 22.6%

โจโควียังไม่ได้ประกาศสนับสนุนผู้สมัครใดๆ อย่างเป็นทางการ แต่ด้วยการที่ยิบรานรับหน้าที่เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของปราโบโว จึงไม่มีข้อสงสัยว่าโดยส่วนตัวแล้วเขาอยู่ข้างไหน

เกาหลีใต้จะไปหย่อนบัตรวันที่ 10 เมษายนนี้ จะเป็นการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติ ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการตัดสินชะตากรรมของฝ่ายบริหารของประธานาธิบดียุน ซุกยอล

นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปีที่แล้ว ยุนไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายได้ เพราะพรรคประชาธิปไตยฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากในรัฐสภา โดยมีที่นั่ง 167 ที่นั่ง จากทั้งหมด 298 ที่นั่ง

นั่นแปลว่าพรรคพลังประชาชนของเขาจะต้องชนะการเลือกตั้งในสภาเพื่อที่จะมีความหวังที่จะบรรลุผลสำเร็จมากมายตลอดระยะเวลาที่เหลือของวาระ 5 ปีเดียวของยุน

การเมืองของเกาหลีใต้มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และหลายอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ระหว่างตอนนี้ถึงเดือนเมษายน    

แต่สัญญาณเริ่มแรกไม่สนับสนุนพรรคของยุน คะแนนสนับสนุนติดอยู่ที่ประมาณ 35% ตลอดวาระของเขา

กล่าวคือ พรรคประชาธิปไตยกำลังประสบปัญหาของตนเอง โดยเฉพาะสมาชิกอาวุโสบางคนกำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริต

พรรคประชาธิปไตยต้องการชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะต้องการให้ยุนเป็นประธานาธิบดีเป็ดง่อย เพราะพวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่สามารถดำเนินตามวาระภายในประเทศได้หากพวกเขาแพ้

ส่วนการเลือกตั้งที่อินเดียจะมีสีสันและความซับซ้อนไม่น้อย

เพราะเป็นการหย่อนบัตรเลือกตั้งทั่วไปของประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก และมีระบอบประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก              

วันหย่อนบัตรมีกำหนดจะแผ่ขยายออกไปเป็นเวลาหลายสัปดาห์ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี และพรรคภารติยะชนตะ (BJP) ของเขากำลังมองหาการดำรงตำแหน่งคราวที่ 3 ติดต่อกัน 5 ปี

อินเดียเป็นประเทศในเอเชียใต้ที่มีประชากร 1.4 พันล้านคน มีผู้ลงคะแนนที่ลงทะเบียนแล้ว 950 ล้านคน

โมดี ซึ่งขณะนี้อายุ 73 ปี ยังคงได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหมู่คนอินเดีย ในขณะที่ฝ่ายค้านพยายามดิ้นรนเพื่อคว่ำรัฐบาลนี้ให้ได้

เมื่อสู้กันตัวต่อตัวลำบาก ฝ่ายค้านก็ต้องรวมตัวกันเพื่อท้าทาย BJP

พรรคฝ่ายค้านกว่า 20 พรรค จึงได้จัดตั้งพันธมิตรชื่อ INDIA ซึ่งย่อมาจาก Indian National Developmental Inclusive Alliance

กลุ่มนี้ประกอบด้วยพรรคฝ่ายค้านหลัก ซึ่งก็คือสภาแห่งชาติอินเดีย โดยหวังว่าจะกลับไปสู่ยุครุ่งเรืองทางการเมืองอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม สัญญาณล่าสุดไม่ได้ช่วยหนุนเนื่องความมั่นใจสำหรับกลุ่มพรรคการเมืองที่ต้องการจะลดความนิยมชมชอบในหมู่ประชาชนต่อนายกฯ โมดี แต่อย่างใด

ตอนที่ 5 รัฐจัดการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พรรครัฐบาล BJP กวาดทั้ง 3 รัฐในดินแดนที่พูดภาษาฮินดี ซึ่งมีความสำคัญทางการเมือง พันธมิตรฝ่ายค้านไม่สามารถพิสูจน์ว่ามีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากนัก

แสดงชัดว่ายังคงขาดกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการตอบโต้ลัทธิชาตินิยมฮินดูของ BJP และโครงการสวัสดิการจำนวนมากมายที่รัฐบาลโมดีเปิดตัว

แนวร่วม INDUA ซึ่งรวมถึงบางพรรคที่เป็นคู่แข่งอันขมขื่นในการเลือกตั้งบางรัฐ ยังไม่ได้เสนอชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยซ้ำ

แม้ว่าหลายอย่างอาจเปลี่ยนแปลงได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ BJP อยู่ในสถานภาพที่แข็งแกร่ง

โอกาสที่ฝ่ายค้านจะโค่นโมดีและพรรค BJP เกิดขึ้นได้ยาก ยกเว้นเสียแต่ว่าจะมีปาฏิหาริย์ระหว่างนี้ถึงเมษายน-พฤษภาคมนี้!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ