สรุปออกมาแล้ว สำหรับตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ในปี 2566 โดยจากข้อมูลของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬาที่มีการสรุปออกมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่รวบรวมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -31 ธันวาคม ปี 2566 พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทยสูงถึง 28,042,131 คน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 1.2 ล้านล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย (4,563,020 คน) จีน (3,519,735 คน) เกาหลีใต้ (1,658,688 คน) อินเดีย (1,626,720 คน) และรัสเซีย (1,481,878 คน)
เห็นได้ชัดว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวในภาพรวมอยู่ในประมาณการที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้วางแผนเอาไว้ว่า จะอยู่ที่ราว 25-30 ล้านคน ตัวเลขก็ออกมากลางๆ ที่พอจะรับได้
แต่เมื่อมามองดูเป้าหมายรายได้ก่อนหน้านี้ ทาง ททท.มองว่าน่าจะสร้างรายได้เข้าประเทศราวๆ 1.6 ล้านล้านบาท แต่สุดท้ายทำได้ 1.2 ล้านล้าน พลาดเป้าไป 400,000 ล้านบาท ซึ่งก็เข้าใจได้ เนื่องจากยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขการท่องเที่ยวที่วางไว้พลาดเป้า โดยเฉพาะตลาดจีน ที่เรียกว่าไม่คึกคักอย่างที่คาดไว้ ซึ่งหลักๆ มาจากเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่ดี และเที่ยวบินยังไม่กลับมาเป็นปกติ ส่งผลให้ตัวเลขออกมาพลาดเป้าค่อนข้างมากทีเดียว
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขหลายอย่างออกมาไม่เข้าเป้า แต่ในเรื่องของการท่องเที่ยวของเรา ก็มีเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นเช่นกันในปีนี้ โดยเว็บไซต์ทราเวลเนส (Travelness) เปิดเผยรายชื่อเมืองที่มีนักเดินทางต่างชาติเดินทางเยือนมากที่สุดในโลกในปี 2566 โดยอ้างอิงตามดัชนี Global Destination Cities Index จากการศึกษาของมาสเตอร์การ์ด (Mastercard)
ผลปรากฏว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีชาวต่างชาติเดินทางเยือนมากที่สุดในโลกในปี 2566 โดยมียอดนักเดินทางต่างชาติมาเยือน 22.78 ล้านราย โดยค้างคืนเฉลี่ย 4.7 คืน และใช้จ่ายเฉลี่ย 173 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน เอาชนะทั้งกรุงปารีสและลอนดอน
นอกจากกรุงเทพฯ แล้ว ภูเก็ตและพัทยายังติด 20 อันดับแรกของเมืองที่มีนักเดินทางต่างชาติเดินทางมาเยือนมากที่สุดในโลก โดยภูเก็ตติดอันดับ 14 ซึ่งมีนักเดินทางต่างชาติมาเยือน 9.89 ราย ส่วนพัทยาติดอันดับ 15 ซึ่งมีนักเดินทางต่างชาติมาเยือน 9.44 ราย
เรียกว่าตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยยังอยู่ในสายตานักท่องเที่ยวเสมอ และเชื่อว่าจะต้องดีขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน
ดังนั้นเริ่มต้นปีใหม่นี้ ต้องดูว่าการทำงานของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ ททท.จะทำได้ตามแผนที่วางไว้หรือไม่ ซึ่งเป้าหมายของรัฐบาลในปีนี้มองถึงการสร้างรายได้รวมการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 2.5 ล้านล้านบาท และรายได้จากตลาดในประเทศ 1 ล้านล้านบาท
ส่วนเป้าของ ททท.ตอนแรกตั้งไว้ที่ 3 ล้านล้านบาท ฟื้นตัว 100% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด โดยแบ่งเป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 1.92 ล้านล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 35 ล้านคน และรายได้จากตลาดในประเทศ 1.08 ล้านล้านบาท จากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 200 ล้านคน-ครั้ง
จะเห็นว่าเป้าหมายของรัฐบาลนั้นค่อนข้างสูง ดังนั้นจะต้องดูกันต่อไปยาวๆ ว่า ปีนี้ไทยเราจะสามารถดึงดูดและโกยเม็ดเงินทางด้านการท่องเที่ยวเข้าเป้าหรือไม่
ซึ่งเชื่อว่า หากจะทำสำเร็จ ทุกภาคส่วน ทุกหน่วยงาน จะต้องช่วยกันอย่างหนักทีเดียว เพื่อเป้าหมายดังกล่าว.
ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ซึมยาวถึงกลางปีหน้า
ข้อมูลจากสถาบันยานยนต์จะพบว่า ในปี 2566 ตลาดยานยนต์ในไทยมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 18% ของ GDP ประเทศ และจากการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของภาครัฐที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์อันดับ 10 ของโลก อันดับ 5 ของเอเชีย และอันดับ 1 ของอาเซียน
ความท้าทายเศรษฐกิจโลก2025
ดูเหมือนว่าในปีหน้า 2568 การค้าโลกและเศรษฐกิจไทยยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายและโอกาส โดย finbiz by ttb ฉายภาพเศรษฐกิจภาพใหญ่ และเจาะความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจจีนที่ส่งผลต่อการค้าโลกและการค้าของไทยไว้ได้อย่างน่าสนใจ
ศก.รัฐบาลมาดามแพจะรอดไหม?
ผลสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพล เมื่อ 2 วันก่อนนี้ มีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในหัวข้อ “รัฐบาลนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ไปไหวไหม” พบว่ามีคนเชื่อว่ารัฐนาวาของ มาดามแพ จะยืนหยัดจนครบเทอมเพียงแค่ 41% เท่านั้น โดยมองเรื่องจุดชี้เป็นชี้ตาย ปัญหาปากท้อง จะเป็นตัวชี้ขาดว่ารัฐบาลจะอยู่รอดหรือไม่รอด
เปิด5เคล็ดลับผ่อนบ้านหมดไว!!
การมีบ้านหรือคอนโดมิเนียมเป็นของตัวเอง อาจเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของมนุษย์เงินเดือนหลายๆ คน ด้วยหลากหลายเหตุผล เช่น เป็นการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต ขยับขยายที่อยู่เพื่อเริ่มสร้างครอบครัว หรือมีความคุ้มค่าในระยะยาว แทนการเช่าอยู่อาศัย
อัปเกรดฝีมือ'ช่างซ่อมรถอีวี'
ต้องยอมรับว่ากระแสยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในช่วงที่ผ่านมาได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แม้จะลดลงจากช่วงแรก แต่ก็ยังมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้น การใช้งานของกลุ่มผู้บริโภคก็เพิ่มขึ้นและขยายตัวไปยังพื้นที่จังหวัดอื่นๆ
ปัญหาขยะรอบหมอชิต2
จากกรณีที่มีการออกมาแชร์ภาพกองขยะบริเวณรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 ที่อยู่ในความดูแลของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นั้น จากการตรวจสอบของ บขส.และการรถไฟฯ