ปูตินกระซิบสี จิ้นผิงจะ ทำสงครามยูเครน 5 ปี?

 “ปูติน” เตรียมทำสงครามยูเครนยาวถึง 5 ปีเลยหรือ?

ถ้าเป็นไปตามที่ Nikkei Asia รายงานช่วยใกล้สิ้นปีที่ผ่านมา เราก็คงจะได้เห็นสงครามยูเครนยืดเยื้อไปเรื่อยๆ...จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะสามารถอ้าง “ชัยชนะ” ในสนามรบได้

ก่อนที่จะยอมเจรจาเพื่อหยุดสงคราม ซึ่งถึงวันนี้ยังไม่เห็นสัญญาณใดๆ ว่าจะเกิดขึ้นได้ในเร็ววัน

ตามข่าวชิ้นนี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย “เตือน” เพื่อนซี้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ว่าสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนอาจกินเวลานานถึง 5 ปี

เป็นบทสนทนาระหว่างที่สี จิ้นผิง เยือนมอสโกเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว

ตามรายงานนี้ (ซึ่งยังไม่มีการปฏิเสธหรือยืนยันจากปักกิ่งหรือมอสโก) ปูตินบอกสีว่า "จะต่อสู้เป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี"

โดยปูตินให้คำมั่นกับผู้นำของจีนว่า “ในที่สุดรัสเซียก็จะได้ชัยชนะ”

รายงานนี้บอกว่า ไม่ว่าสี จิ้นผิง จะเชื่อคำพูดของปูตินหรือไม่ก็ตาม ก็อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์เพิ่มเติมระหว่างรัสเซียและจีนได้

เพราะแม้ผู้นำจีนจะต้องแสดงความเห็นอกเห็นใจรัสเซียในเรื่องใหญ่ๆ อย่างนี้ แต่หากสงครามลากยาวไปเช่นนั้น ปักกิ่งก็อาจจะต้องประเมินผลกระทบที่มีต่อการเมืองและเศรษฐกิจของตนใน 5 ปีข้างหน้า

อันเป็น 5 ปีที่สีจะต้องพิสูจน์ให้คนจีนและชาวโลกเห็นว่าเขาสามารถบริหารให้เศรษฐกิจของจีนบรรลุเป้าหมายการเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปี

แต่หากสงครามถูกลากยาวออกไป สีย่อมจะมองเห็นเศรษฐกิจโลกที่ปั่นป่วนต่อเนื่อง

รวมถึงความตึงเครียดในความสัมพันธ์ของรัสเซียกับตะวันตกย่อมไม่ได้หมายถึงการเอื้อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของจีนในทุกเรื่อง

สี จิ้นผิง ตระหนักอีกด้วยว่าหากปูตินเดินหน้าทำสงครามต่อไป ปักกิ่งจะต้องอุ้มชูรัสเซียในกรณีที่เศรษฐกิจรัสเซียถดถอย

หรือหากมีเสียงคัดค้านสงครามจากคนรัสเซียเองต่อการที่ปูตินทำสงครามไม่เลิกเสียที

ตามข้อมูลของ Nikkei จีนได้ปรับกลยุทธ์ของตนในกรณีที่สงครามที่ยืดเยื้อในยูเครนจะส่งผลกระทบต่อแผนและความของสีอย่างมีนัยสำคัญในจังหวะที่อยู่ในตำแหน่งสมัยที่สาม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่โยงกับการ “รวมชาติกับไต้หวัน”

ปูตินต้องการจะส่งสัญญาณอะไรให้สีในเรื่องนี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจ

เพราะต้องไม่ลืมว่าปูตินต้องเข้าสู่สนามเลือกตั้งอีกครั้งในปีนี้

การแสดงความเป็น “ผู้นำที่เด็ดขาด...แพ้ไม่เป็น” ย่อมจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเขาในยามที่ต้องกระตุ้นฐานเสียงเพื่อให้เขาชนะเลือกตั้งอีกครั้ง

เป็นไปได้เช่นกันว่าปูตินต้องการจะบอกผู้นำจีนว่า หากจำเป็นปักกิ่งก็อาจจะต้องเตรียมพร้อมที่จะ “ยืนเคียงข้าง” เขาไปตลอดทาง

เพราะปูตินย่อมจะจับได้ว่าสี จิ้นผิง ต้องพึ่งพารัสเซียไม่น้อยเช่นกันในกรณีที่ต้องให้ “ฝ่ายบู๊” อย่างปูตินเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันกับฝ่ายตะวันตก

แต่ต้องไม่ลืมเช่นกันว่าตอนที่ปูตินตัดสินใจส่งทหารเข้ายูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2565 นั้น เขาไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนสี จิ้นผิง ล่วงหน้าแต่อย่างใด

ปูตินพบกับสีไม่นานก่อนที่กองทัพรัสเซียจะบุกโจมตียูเครนอย่างเต็มรูปแบบ

เหตุเกิดระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งในเดือนกุมภาพันธ์ ปีเดียวกัน โดยปูตินเข้าร่วมในพิธีเปิด แต่ตามรายงานของ Nikkei ปูตินไม่ได้เตือนสีล่วงหน้าว่าเขากำลังจะเปิดศึกกับยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ

นักวิเคราะห์บางคนบอกว่า สี จิ้นผิง “มีเคือง” กับปูตินในเรื่องนี้เหมือนกัน

แรกเริ่มนั้นปักกิ่งเชื่อว่ากองทหารรัสเซียจะบุกเฉพาะพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนเท่านั้น

แต่ไม่ได้คาดการณ์ว่าจะมีการโจมตีเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 4 วันหลังจากปิดโอลิมปิกฤดูหนาวในกรุงปักกิ่ง และหนึ่งสัปดาห์ก่อนเริ่มการแข่งขันพาราลิมปิก

ไม่ได้แปลว่าสีจะเชื่อปูตินว่าเตรียมทำสงครามยูเครนถึง 5 ปี       แต่ผู้นำจีนก็ต้องเริ่มวางแผนเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตน ไม่ว่าเหตุการณ์ในยูเครนจะคลี่คลายอย่างไร

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีนได้ริเริ่มบทบาท "ภารกิจสันติภาพ" ของตนเอง

สะท้อนว่าปักกิ่งก็กำหนดบทบาทของตนเองที่ไม่จำเป็นต้องยืนข้างเดียวกับรัสเซียในทุกกรณี

สี จิ้นผิง เยือนปูติน เยือนมอสโก วันที่ 20 มีนาคม

ระหว่างการพบปะอย่างไม่เป็นทางการ 4 ชั่วโมง ระหว่างสองผู้นำมีการพูดคุยถึงหัวข้อสงครามในยูเครน

และน่าสังเกตว่า สีระบุว่าวัตถุประสงค์การมาเยือนคราวนั้นก็เพื่อ "กระตุ้นสันติภาพและส่งเสริมการเจรจา”

ซึ่งไม่ใช่เป็นเป้าหมายเดียวกันกับที่ปูตินต้องการ...นั่นคือจะต้องเผด็จการให้ตนชนะสงครามยูเครนเสียก่อน

ก่อนสิ้นปี ปูตินแสดงให้เห็นว่าเป้าหมายของมอสโกในยูเครนยังคงเป็นการทำสงครามเต็มรูปแบบจนกว่าจะชนะสงคราม

แปลว่าแม้โดยทางการจะบอกว่าพร้อมจะเจรจา...แต่ปูตินก็บอกชัดว่าไม่พร้อมจะต่อรอง ให้ถอนทหารรัสเซียกลับบ้าน

ก่อนสิ้นปีสองวัน รัสเซียระดมโจมตียูเครนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้นเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน

ด้วยการยิงขีปนาวุธถล่มทั่วยูเครน ทั้งที่เมืองหลวงกรุงเคียฟ ทางตอนใต้ ทางตะวันตก และตะวันออก

ทำให้มีคนตายอย่างน้อย 31 ราย บาดเจ็บกว่า 160 คน

ที่กรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน และบาดเจ็บ 30 คน จากขีปนาวุธรัสเซียที่เข้าถล่มคลังสินค้าและอาคารที่อยู่อาศัยในพื้นที่

กองทัพอากาศยูเครนระบุว่า ได้ยิงขีปนาวุธร่อน 87 ลูก และโดรนอีก 27 ลำตกไป จากเป้าหมายทางอากาศ 158 จุดที่รัสเซียมุ่งเป้าโจมตี

พลเอกวาเลรี ซาลุจนี ผู้บัญชาการทหารบกยูเครน กล่าวว่า การโจมตีได้มุ่งเป้าโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ พื้นที่เขตอุตสาหกรรมและการทหารยูเครน

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ระบุผ่านเทเลแกรมว่า “รัสเซียโจมตีด้วยทุกอย่างที่รัสเซียมีในคลังแสง ...ขีปนาวุธราว 110 ลูกยิงเข้ามา ซึ่งส่วนใหญ่ถูกสกัดไว้ได้”

ก่อนหน้านี้ยูเครนได้เตือนรัสเซียอาจกำลังสั่งสมขีปนาวุธเพื่อเปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ต่อระบบด้านพลังงาน

รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ดมิโทร คูเลบา บอกว่า การโจมตีครั้งใหญ่ในช่วงสิ้นปีนี้ แสดงให้เห็นว่า “ไม่ควรมีการเจรจาหยุดยิง” กับรัสเซีย

เป็นไปได้ว่าปูตินตัดสินใจสั่งถล่มหนักให้สอดคล้องกับแนวโน้มว่าการสนับสนุนของชาติตะวันตกต่อยูเครนกำลังตกอยู่ในภาวะที่มีความไม่แน่นอนสูง

ดังนั้น แม้หากปูตินบอกกับสี จิ้นผิง จริงว่าเขาตั้งใจจะทำสงครามยูเครนทั้งหมด 5 ปี ก็ไม่ได้แปลว่าผู้นำจีนจะเชื่อ

เพราะสุดท้ายแล้วจีนก็ย่อมจะมี “ฉากทัศน์” ของสงครามยูเครนของตนเอง

และมีแผนที่อนาคตที่กำหนดบทบาทของตนเองโดยไม่จำเป็นต้องผูกติดกับปูตินในทุกๆ เรื่อง!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ