'อย่าหวัง' จะ 'สมหวัง'

เพราะเงินที่เก็บภาษีจากประชาชนไปนั้น  เพื่อเป็นรายจ่ายแผ่นดินและพัฒนาประเทศ

แต่เพื่อไทย เมื่อเป็นรัฐบาล จะเบียดบังนำไปแจกชาวบ้านตาม "สัญญาว่าจะให้" ตอนหาเสียงและเพื่อประชานิยมพรรคตัวเอง นั้น

นอกจากทุเรศแล้ว.......

ยังผิดวินัยการเงิน-การคลัง ผิดทั้งเงื่อนไขตามนโยบาย ที่พรรคเพื่อไทยแจ้งไว้กับ กกต. ก่อนนำไปใช้หาเสียงว่าจะใช้เงินงบประมาณ

ดังนั้น แฟนๆ เงินแจก โปรดเข้าใจให้ชัด

พ.ร.บ.งบประมาณนี้ เป็นคนละเรื่องกับเงินแจก ๕.๖ แสนล้าน ที่หดเหลือ ๕ แสนล้าน ตอนนี้

ต้องให้ พ.ร.บ.งบประมาณ "ผ่านวาระแรก" ในสภา ที่่เขาประชุมถกกัน ๓ วัน ตอนนี้ คือ ๓-๕  ม.ค.ไปก่อน

จากนั้น รัฐบาลก็คงเตรียมดัน "พ.ร.บ.เงินกู้  ๕ แสนล้าน" เข้าสภา หวังได้เงินไปแจกตามสัญญาต่อไป

แล้วเมื่อไหร่ล่ะ รอจนลมโกรกแห้งยันเหงือก  ก็ไม่เห็นวี่แววว่าจะได้ซักที?

เอาน่า...วัดใจกันดู ระหว่างช่วยให้ "นักโทษทักษิณ" ออกคุก กับกู้มาแจก ๕ แสนล้านแล้วโยนหนี้ให้ชาวบ้านใช้หนี้กันเอง แต่เพื่อไทยได้หน้า-ได้คะแนน

ว่าอย่างไหนจะสำเร็จก่อนกัน?

พ.ร.บ.งบประมาณ ๓.๔ ล้านล้านนี้ ถ้าไม่ผ่าน นายกฯ เศรษฐาไม่ลาออก ก็ต้องยุบสภา อย่างใด-อย่างหนึ่ง

แต่ไม่ต้องห่วง ยังไงก็ผ่าน "วาระแรก" อยู่แล้ว  ไปตั้งกรรมาธิการแปรญัตติกันอีก ๓ เดือนครึ่ง

ผ่านวาระ ๒-๓ แล้ว ส่งให้วุฒิสภาต่อ

เรียกว่า กว่าจะจบกระบวนการ สู่ขั้นประกาศใช้ก็ "พฤษภา.-มิถุนา." โน่นแหละ ....

คือเลยปีงบประมาณปี ๖๗ ไปราวๆ ๙ เดือน  งบลงทุน, งบพัฒนาประเทศ ของปี  ๖๗ เพิ่งจะออกมา!

ฉะนั้น "ครึ่งปีแรก" นี้ กินเขียม-อยู่เขียม และแทงหวยกันให้น้อยตัวลงหน่อยนะ เพราะเงินทองในระบบมันจะฝืด

ชาวตลาดหุ้น ประเภท "เงินน้อย แต่ใจใหญ่"

ช่วงนี้ ก่อนทุ่มซื้อ ให้ท่องไว้คำ "แมลงเม่า...แมลงเม่า"  

ตลาดหุ้นไทย "ทุนใหญ่" ทั้งใน-นอก "ขายต่อเนื่อง" จนตลาดเป็นโรคขาดเลือด

อย่าว่าแต่ปลาเล็ก "ติดดอน" ตายแหงแก๋เลย  พวก "ปลาใหญ่" แต่ขายังไม่ใหญ่จริง ก็เกล็ดแห้ง พะงาบๆ เหงือกแดงแจ๋

ตอนนี้ "ทุนใหญ่" ออกล่ารอบใหม่ โดยวางเบ็ดราวตกปลาโหยเหยื่อในตลาดหุ้นไทย

ขนเศษกำไรมาเป็นรำ โรยปั่นตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น "ปลาเล็ก-ปลาใหญ่" ระริกระรี้ เป็นกระดี่ได้น้ำ

ตอดพอได้เที่ยวตรุษจีน ก็รีบขายกันเถอะ

อย่าให้ถึงขั้นแต่งงานอยู่กินกับหุ้นเชียว เพราะรอบนี้ ยังไม่ใช่ "ขาขึ้น" ของจริงหรอก

ก็ลองมองรอบๆ ตัวซี ทั้ง สหรัฐ ยุโรป ตะวันออกกลาง เอเชีย อาเซียนเราเองก็เหอะ

โลก ในภาวะ "ขาใหญ่" ช่วงชิงความเป็น "เบอร์ ๑ โลก"

เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งความขัดแย้ง ทั้งแบ่งขั้ว-แบ่งข้าง ทั้งสงครามภูมิภาค พร้อมขยายเป็น "สงครามโลก"

เช่นนี้ "เศรษฐกิจ-การเงิน-การค้า-การลงทุน" จะมั่นใจกับอะไรได้ นอกจาก "ใครไว-ใครรอด" เท่านั้น

ช่วง "มกรา.-กุมภา.-มีนา.-เมษา." อย่าไปรักจริงหวังแต่งกับอะไรเด็ดขาด

ให้ "ลองเผื่อเลือก" ไปเรื่อยๆ เหมือนไปช็อปปิ้ง เจอร้านแรก อย่าตะลี-ตะลานซื้อ ขืนรีบซื้อ จะเขกหัวตัวเองทีหลัง

เพราะร้านต่อๆ ไป มีทั้งของเหมือนกัน ทั้งของดีกว่า แถมถูกกว่า ให้เลือกละลานตา มากมายไปหมด

สิ่งที่จะเกิดตามมาในอนาคตอันใกล้ ก็จะประมาณนี้ ฉะนั้น ผมจึงอยากบอกให้แต่ละท่าน ว่า....

จง "ตุนกระสุนชีวิต" ไว้

วันนี้ โลกว่า "โสภี" แล้ว แต่พรุ่งนี้ มันจะ "โสภา" กว่า!

พ.ร.บ.งบประมาณ ปี ๖๗ ผมไม่ห่วง ยังไงก็ผ่าน

แต่ "พ.ร.บ.เงินกู้มาแจก ๕ แสนล้าน" รวมทั้ง "พ.ร.บ.ประชามติ-พ.ร.บ.นิรโทษกรรม"

ทั้ง ๓ ฉบับ ที่จะเรียงเข้าสภา อิสราเอลถล่มฮามาส ยังไม่เท่าไหร่ แต่ฮูตีดักถล่มเรือสินค้าในทะเลแดง ตรงนี้ หวาดเสียวพอๆ กัน

การถล่มเรือสินค้า คือสัญญาณสงคราม ฉันใด

พ.ร.บ. ๓ ฉบับ ก็คือสัญญาณ "จุดตาย" รัฐบาล ฉันนั้น

อิสราเอล เขายังมี Iron Dome ป้องกันจรวดฮามาส

แต่รัฐบาลเพื่อไทย เจอ ๓ พ.ร.บ.นี้ ลูก-ครึ่งลูก พอยิงสกัดได้

แต่เจอ ๓ ลูกติดต่อ ไอรอนโดม ก็ทะลุ!

ผมอาจเดาผิดก็ได้ เพราะรัฐบาลเพื่อไทยเขาชิลๆ เห็นมีเรื่องเดียวที่เหมือน "วัวสันหลังหวะ" คือเรื่้อง "นักโทษเทวดา"

ถึงขั้นประกาศว่า......

ในการอภิปรายงบประมาณ "ด่าพ่อล่อแม่ก็พอคบ ถ้าด่านักโทษเทวดาที่เคารพ ต้องตบปากกัน"!

โถ...เพื่อไทย...นึกว่าเพื่อใคร ที่แท้ก็เพื่อ "นักโทษเทวดา"

แล้วอย่างนี้ รัฐบาลเพื่อไทย จะได้รับความเชื่อถือจากนานาอารยชาติและจากประชาชนในชาติได้อย่างไรกัน?

รัฐบาลที่ยอมให้นักโทษคนเดียวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ เหนือกฎหมายทุกฉบับ เหนืออำนาจบริหาร เหนืออำนาจรัฐสภา เหนืออำนาจตุลาการ เหนือหัวประชาชน

เหนือกระทั่ง "พระบรมราชโองการ"

มันมีศักดิ์ศรี มีความชอบธรรม ตรงไหน ที่จะให้นานาอารยชาติและประชาชาติ ยอมรับนับถือ และให้เกียรติ

ว่ารัฐบาลเพื่อไทย........

มิใช่รัฐบาล "เพื่อนักโทษทักษิณ-โดยนักโทษทักษิณ-ของนักโทษทักษิณ?

ใครไม่อาย...ผมอาย

ไม่เชื่อไปถามสมยศเขาดูก็ได้!

เมื่อวาน ได้ยินนายกฯ เศรษฐาคุย ไทยฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน ราวๆ มีนา.จีนก็จะฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวไทย เรียกว่าเท่าเทียมกัน

ทั้งที่ก่อนหน้า ไทยให้ฟรีวีซ่าจีน แต่จีนไม่ให้ไทย กลับไปให้ฟรีวีซ่ามาเลย์

จีนสอนบทเรียนการเมืองระหว่างประเทศเหมือน "พี่สอนน้อง" ประมาณนั้น นายกฯ เศรษฐา เข้าใจหรือเปล่ามิทราบ?        

จีนเขาจริงจังมากเรื่อง "จีนเดียว"

การที่โทรทัศน์ช่อง "ไทยพีบีเอส" ไปสัมภาษณ์รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวันมาเผยแพร่ ประเด็นเป็นปฏิปักษ์ต่อจีนเดียว ตอนปลายปีที่แล้ว นั้น

ถ้าเป็นประเทศอื่นทำแบบนี้ มีหวังเป็นเรื่อง

แต่นี่้เพราะไทยหรอก จึงสั่งสอน

แค่ให้ฟรีวีซ่ามาเลย์ แต่ไม่ให้ไทย ไม่ทราบว่านายกฯ เศรษฐาพอประสี-ประสากับการสั่งสอนแบบคลาสสิกมั้ย?

ที่จริง นายกฯ ควรให้เครดิตรัฐมนตรีต่างประเทศ "ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร" ด้วยการเอ่ยถึงซักนิดนะ

ว่าที่จีนยอมฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวไทยราวๆ มีนา.นี้ นั้น

ไม่ใช่จู่ๆ เขาก็ให้....

แต่รัฐมนตรีปานปรีย์ ต้องไปพบปะเจรจา ทำความเข้าใจกับรัฐมนตรีต่างประเทศจีนหรอก

"นายหวังอี้" เขาจึงรับปากในเรื่อง "วีซ่าเข้าประเทศ" ที่ไทยยกเว้นให้จีน และจีนก็จะยกเว้นให้ไทยเท่าเทียมกัน

ใครเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลที่นายกฯ ไม่ประสามรรยาททางการทูตระหว่างประเทศ นี่จะเหนื่อย

ตั้งแต่ "ฮามาส-อิสราเอล" มาแล้ว

เรื่อยมาถึงจีน กรณีไต้หวัน วันก่อน ยังโชว์เสร่อว่าเท่

เอาเรื่องลับระหว่างประเทศ ไปโพนทะนาบนเวที กรณีลาวขอขายไฟฟ้าให้สิงคโปร์ผ่านไทย

พูดซะเต็มปาก "ผมไม่อนุญาต"!

พูดทำไม...ลาวเขาจะรู้สึกยังไง สิงคโปร์รู้สึกยังไง และพูดออกไปแล้ว เราได้อะไร นอกจากเสียมากและมากยิ่งขึ้น?

กระทรวงการต่างประเทศ ก็ต้องเป็น "พนักงานดับเพลิง" คอยตามดับไฟที่เด็กไม่รู้ประสา เที่ยวจุดไฟเล่นไปเรื่อย!

กลับมาเรื่อง "พ.ร.บ.เงินกู้ ๕ แสนล้าน" อีกนิด

ตอนนี้ ประเด็นที่รัฐมนตรีคลังส่งไปให้กฤษฎีกาตอบว่าทำได้หรือไม่ได้ กฤษฎีกายังไม่ตอบกลับ

เห็นว่า จะวัน-สองวันนี้แหละ

ก็หมายความว่า ณ วันนี้ รัฐบาลยังไม่ได้เขียนร่าง พ.ร.บ.เงินกู้เลย เพราะต้องรอกฤษฎีกาตอบก่อนจึงจะเขียนไปตามแนวนั้นได้

ดังนั้น พวก "เศรษฐีเงินหมื่น" รอไปอีกนาน

ให้ทักษิณกลับไปนอนบ้านแทนคุกก่อน เขาอาจ "โปรยทาน" แจกคนละ ๑ ล้าน ก็เป็นได้

ไงก็...ปันผมซักคนละหมื่น...จะชื่นสะดือจัง!

-เปลว สีเงิน

๓ มกราคม ๒๕๖๗

คนปลายซอย