ส่งใจให้พี่น้องภาคใต้

แม้ว่าขณะนี้เริ่มเข้าสู่เทศกาลแห่งความสุข ที่ใครหลายๆ คนกำลังจะเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่กำลังจะมาถึง แต่ยังมีอีกฝากฝั่งหนึ่งของพี่น้องภาคใต้ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ต้องประสบกับอุทกภัยอย่างหนักหนาสาหัส เนื่องจากเกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก และทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทำให้ประชาชนในบางพื้นที่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ “น้ำท่วม” อย่างรุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดยะลาและนราธิวาส ที่ฝนตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน จนชาวบ้านในจังหวัดนราธิวาสถึงกับบอกว่า น้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่หนักที่สุดในรอบ 50 ปีเลยทีเดียว

แน่นอนว่าน้ำท่วมหนักในครั้งนี้ส่งผลให้ถนนสายหลักในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสถูกตัดขาดหลายจุด ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนท่วมมิดหลังคาบ้านในหลายพื้นที่ ขณะที่ประชาชนหลายหมื่นคนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักครั้งนี้ ประชาชนบางส่วนไม่สามารถออกจากบ้านได้ และติดอยู่บนชั้น 2 หรือบนหลังคาบ้าน นอกจากนี้ โรงเรียนหลายแห่งต้องประกาศหยุดการเรียนการสอน

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในส่วนของเส้นทางคมนาคมขนส่ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด โดยได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) รายงานถึงผลกระทบจากอุทกภัยต่อการคมนาคมขนส่ง ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ รวมถึงการสัญจรของประชาชนในพื้นที่

พร้อมกับให้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเสี่ยงบริเวณสายทางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนภายใน 24 ชั่วโมง (ชม.) รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการดำเนินงานมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อรับทราบสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ด้วย

ขณะเดียวกันได้มอบหมายและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งสั่งเปิด “ศูนย์ Command Center ภัยพิบัติกระทรวงคมนาคม” ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการ สั่งการ รับแจ้งเหตุ ประสานข้อมูลการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในและภายนอกกระทรวงคมนาคม เพื่อบูรณาการการรายงานผลในการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที

เพื่อรองรับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น และเตรียมความพร้อมในขั้นตอนการป้องกัน (ก่อนเกิดภัย) การเผชิญเหตุ (ขณะเกิดภัย) และขั้นการฟื้นฟู (หลังเกิดภัย) นำไปสู่การบรรเทา แก้ไข หรือคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่ให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้รายงานผลการดำเนินการการให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมายังกระทรวงคมนาคม ก่อนนำเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต่อไป

ขณะที่เส้นทางรถไฟที่มีความสำคัญในการสัญจรก็พลอยได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีมวลน้ำไหลเข้าท่วมทางรถไฟระหว่างสถานีมะรือโบ-ตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส จนทำให้ทางบางส่วนได้รับความเสียหาย และขบวนรถไฟไม่สามารถผ่านได้ ดังนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จึงได้ประกาศปิดเส้นทางช่วงระหว่างสถานีมะรือโบ-ตันหยงมัส เพื่อความปลอดภัยในด้านการเดินรถ เบื้องต้นคาดว่าจะปิดเส้นทางดังกล่าวจนถึงปีใหม่

ดังนั้น การรถไฟฯ จึงได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำลดลงแล้วให้เร่งดำเนินการซ่อมปรับปรุงสภาพทางเพื่อเปิดการเดินรถได้ตามปกติโดยเร็ว ซึ่งนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำและปริมาณฝนตกอย่างใกล้ชิด โดยให้ฝ่ายการช่างโยธาและนายสถานีในพื้นที่ได้เฝ้าระวัง ประเมินและแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม ตลอดจนให้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ มาตรการด้านความปลอดภัย อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในการเดินทางแก่ผู้โดยสารให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

จึงฝากถึงพี่น้องประชาชนที่ซื้อตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้าในเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม หากไม่ประสงค์เดินทางสามารถติดต่อขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารได้เต็มจำนวนที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งขอให้ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางกรุณาตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งก่อนเดินทาง.

 

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เร่งเครื่องดึงนักท่องเที่ยว

จากสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยในปัจจุบัน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ให้ข้อมูลพบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมในช่วงเกือบ 7 เดือนเต็ม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-28 ก.ค.2567 ทั้งสิ้น 20,335,107 คน

ต้องเร่งแก้ปัญหาปากท้อง

หลังจากนายกรัฐมนตรีหญิง แพรทองธาร ชินวัตร รับตำแหน่งอย่างชัดเจน ทำให้ภาคเอกชนต่างก็ดีใจ เพราะไม่ทำให้ประเทศเป็นสุญญากาศในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสิ่งแรกที่ภาคเอกชนอย่าง

แนะเจาะใจผู้บริโภคด้วย‘ความยั่งยืน’

คงต้องยอมรับว่าประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนได้รับความสนใจมากขึ้นทั้งจากผู้บริโภค ภาคเอกชน และภาครัฐ ส่งผลให้ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจจำเป็นต้องมีการปรับตัว

รัฐบาลงัดทุกทางพยุงตลาดหุ้น

หลังจากปล่อยให้ตลาดหุ้นซึมมาอย่างช้านาน จนปัจจุบันอยู่ต่ำกว่า 1,300 จุด เรียกได้ว่าสำหรับนักลงทุนถือเป็นความเจ็บปวด เพราะดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ไปไหน

ดันอุตฯไทยไปอวกาศ

แน่นอนว่าในยุคที่โลกต้องก้าวหน้าไปสู่อุตสาหกรรมที่ทันสมัยมากขึ้น และต่อไปไม่ได้มองแค่ในประเทศหรือในโลกแล้ว แต่มองไปถึงนอกโลกเลยด้วยซ้ำ เพราะจะเป็นหนึ่งในกลไกในการพัฒนาอุตสาหกรรมภาคพื้นที่มีความแข็งแกร่งส่งผ่านไปยังอุตสาหกรรมอวกาศได้

แบงก์มอง ASEAN ยังมาเหนือ

ยังคงมีอีกหลายประเด็นที่ต้องจับตามองกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งในสถานการณ์โลกและภายในประเทศ ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจและการค้า โดยมุมมองของ อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ระบุว่า