บันทึกหน้า 4

"ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด" จับตา 25 ธ.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดห้องพิจารณาคดีเพื่อไต่สวนคำร้องคดี "ล้มล้างการปกครองฯ” หรือคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. .. เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งและยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่

สำหรับร่างกฎหมายแก้มาตรา 112 ที่ใช้หาเสียงคือ มีสาระสำคัญของร่างกฎหมายที่ใช้หาเสียง ลดโทษของกฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ให้มีความสอดคล้องกับหลักสากล โดยลดโทษให้เหลือเพียงในกรณีหมิ่นพระมหากษัตริย์ จากเดิมจำคุก 3-15 ปี ลดโทษเหลือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในกรณีหมิ่นพระราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จากเดิมจำคุก 3-15 ปี ลดโทษจำคุกเหลือไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ลดโทษหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา โดยจะถูกลดจากโทษจำคุก 0-2 ปี เหลือแค่โทษปรับ ย้ายกฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ออกจากหมวดความมั่นคง และให้เป็นความผิดที่ยอมความได้ โดยกำหนดให้สำนักพระราชวังเป็นผู้มีสิทธิแจ้งความ หรือร้องทุกข์กล่าวโทษเพียงผู้เดียว จากเดิมที่ประชาชนทั่วไปสามารถฟ้องร้องคดีนี้ได้

บัญญัติให้ชัดเจนในกฎหมาย เพื่อคุ้มครอง กรณีการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต หรือการพูดความจริงที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันกับเหตุยกเว้นความผิด และเหตุยกเว้นโทษสำหรับการหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา

อย่างไรก็ตาม การหาเสียงดังกล่าวยังถูกใช่เป็นเงื่อนไขจัดตั้งรัฐบาล และถูกต่อต้านอย่างหนักจากพรรคการเมืองต่างๆ และวุฒิสภา มีผลให้ "พิธา" ได้เป็นเพียงแค่นายกฯ รถแห่ และ พรรคตกไปเป็นฝ่ายค้านเนื่องจากไม่ยอมถอนเรื่องมาตรา 112 ออกไป  

อย่างไรก็ตาม หลังการไต่สวนพยานเสร็จสิ้นแล้ว ศาลจะประกาศกำหนดวันนัดประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อลงมติและอ่านคำวินิจฉัยคดีดังกล่าว โดยคาดว่าอาจจะนัดช่วงสิ้นเดือน ม.ค.67 หรือไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือน ก.พ.67 ที่จะเป็นการนัดต่อจากคดีหุ้นสื่อไอทีวี ของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ที่ศาลไต่สวนเมื่อ 20 ธ.ค.เสร็จ ศาลก็นัดอ่านคำวินิจฉัย 24 ม.ค.67

คดีนี้หากถึงที่สุดศาลยกคำร้อง ก็ถือว่ายุติ แต่หากศาลมีคำสั่งให้พรรคก้าวไกลยุติการเคลื่อนไหวทุกอย่างในเรื่องมาตรา 112 อาจทำให้มีบางฝ่ายไปยื่นเรื่องต่อ กกต. ยื่นคำร้องเอาผิดนายพิธาและพรรคก้าวไกล ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 92 (2) ของ พ.ร.บ.พรรคการเมืองให้ยุบพรรค และเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคต่อไป 

พรรคประชาธิปัตย์ยุคเฉลิมชัย ศรีอ่อน ถูกด้อยค่าจะเป็นพรรคอะไหล่ของรัฐบาลเพื่อไทยหรือไม่ สุดท้ายต้องดูที่การกระทำและผลงานต่อไป แต่ล่าสุดบรรดาคนในเครือข่าย "เสี่ยต่อ" ออกมาสร้างความเชื่อมั่นด้วยการเร่งสร้างผลงาน และดึงสมาชิกกลับมา 3-6 เดือนแรก พร้อมบอกว่า "อย่าล้อเล่นกับฝ่ายค้านในยุคของเฉลิมชัย"  

แต่หากจะให้เชื่อมั่นได้จริงก็อยากให้ตั้งแต่หัวหน้าพรรคและแกนนำ ปชป. มีท่าทีขึงขัง มากกว่าพูด และทำหน้าที่ตรวจสอบอย่าง "เดอะแจ๊ค" วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ปชป. ที่ตามจิกไล่บี้ "นักโทษเทวดาชั้น 14" อย่างเอาจริงเอาจัง พร้อมกระทุ้งไปที่ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกฯ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ พร้อมตั้งฉายาว่า "นายกฯ มือถือสาก ปากถือศีล" 

ท่าทางและท่าทีของ "เดอะแจ๊ค" จึงเรียกได้ว่าสมศักดิ์ศรีในฐานะ "ฝ่ายค้าน" อย่างแท้จริง และหาก ปชป.ยุค "เสี่ยต่อ" เดินตามแนวทางนี้ มั่นใจฟื้นความเชื่อมั่นจากประชาชนและลบคำสบประมาทต่างๆ ได้แน่นอน.

 

ช่างสงสัย 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

บันทึกจันทร์สุดท้ายของปี 2568 อีกไม่กี่เพลาก็จะขึ้นศักราชใหม่ 2569 ...ประเทศไทยจะก้าวไปทางไหน?!?.. ก็ขอบันทึกสะกิดเตือน @ บรรทัดนี้เลยว่า ใจเย็นๆ ค่อยๆ พินิจพิจารณา ประมวลข้อมูล ทบทวน ไตร่ตรองให้ละเอียดรอบคอบแล้วจึงค่อยตัดสินใจว่า เลือกตั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ เราอยากได้ใครมาเป็น "ผู้นำ" พาชาติบ้านเมืองไปสู่ทิศทางที่เหมาะที่ควร!!

บันทึกหน้า 4

จาก "หนู" หนึ่งเดียว กลายเป็นสอง ก่อนหน้านี้ถามกันทุกวันถึง 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของภูมิใจไทย ในงานแถลงนโยบาย "พูดแล้วทำพลัส" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชัดเจนว่า "อนุทิน ชาญวีรกูล" ฉายเดี่ยว โฆษกพรรคย้ำแล้วย้ำอีก

เข้าใจคนชายแดน

ถ้าเอ่ยชื่อ กวาง–ไตรศุลี ไตรสรณกุล นาทีนี้ หลายคนคงนึกถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหญิงของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ทำงานเงียบ สุขุม แต่เดินเกมเร็ว ไม่หวือหวา ทว่าจับงานอยู่หมัด

บันทึกหน้า 4

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงคุกรุ่นอยู่ต่อเนื่องอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ แม้วันที่ 24 ธ.ค.2568 จะเป็นวันแรกในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ในวาระพิเศษ

บันทึกหน้า 4

การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ไทยยังเหนือกว่าทุกด้าน สมรภูมิตามแนวชายแดน ทหารกล้าของเราบุกยึดพื้นที่คืนกลับมาเกือบเบ็ดเสร็จ ในเวทีสากล นานาชาติก็เข้าใจสถานการณ์ดี

บันทึกหน้า 4

บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”