ช่วงนี้เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ของไทยกำลังมา ด้วยการผลักดันของรัฐบาล “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โดยเฉพาะเรื่องกีฬามวยไทย ที่นายกฯนิดมีความภาคภูมิใจเพราะเป็นกีฬาที่คนนิยมดูมากที่สุดในโลก
และดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกด้วย โดยจะสนับสนุนผู้ฝึกสอน นักมวย เดินทางไปทั่วโลกเพื่อไปสอนและทำการแสดง ทำให้มวยไทยเป็นวัฒนธรรมที่แพร่หลาย ซึ่งล่าสุดไทยยังจัดการแข่งขันศึก “ONE ลุมพินี 46” ที่ศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก (มวยไทยลุมพินี) เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่บรรดาคอมวยแห่ไปดูกันล้นสนาม รวมถึงนายกฯนิด ที่ควง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์วอฟต์พาวเวอร์ ไปร่วมชมร่วมเชียร์การแข่งขันติดขอบเวที
และถ้าหากพูดถึงเรื่องของกีฬามวยไทย ในวงการมวยไทยจะมีคำว่าเซียนมวย ซึ่งหมายถึงคนที่ดูมวยเป็น มีประสบการณ์ หรือมีทักษะในเรื่องของการชกมวย อาจเคยขึ้นชกเองหรือไม่ก็ได้ โดยเซียนมวยเหล่านี้อาจมีอยู่มากในวงการนี้ รวมถึงที่ทำเนียบรัฐบาลก็แอบมีเซียนมวย ที่มีประสบการณ์ครบถ้วนตามคุณสมบัติของคำว่า “เซียนมวย” อยู่ด้วยหนึ่งคน นั่นคือ “คุณหมอชัย” ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงไม่เคยรู้มาก่อนว่า “หมอชัย” เคยเป็นอดีตนักมวย เคยขึ้นชก 2 ครั้งในสมัยวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ปี หมอชัยชื่นชอบมวยไทยมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะได้ติดตามคุณพ่อไปดูมวยที่เวทีราชดำเนิน และสมัยวัยเด็กหมอชัยยังเป็นหัวหน้าแก๊งเด็กในตลาดที่มีสถานที่ฝึกซ้อมมวยบนดาดฟ้าอาคารอีกด้วย
ทั้งนี้ การผ่านเวทีชกมวยของหมอชัย 2 ครั้ง เจ้าตัวเล่าว่า “ขึ้นเวทีครั้งแรกได้ค่าตัว 80 บาท และครั้งที่สองได้ค่าตัว 150 บาท ชก 5 ยก ชนะคะแนน แต่ตอนหลังไม่ได้ขึ้นชกแล้ว เพราะการชกแต่ละครั้งจะบาดเจ็บ คุณแม่จึงไม่ให้ขึ้นชกมวยอีก” เจ้าตัวยังบอกอีกด้วยว่าจะเรียกว่าเป็นคอมวยก็ได้ เพราะถ้าถามเรื่องมวยรู้หมดและรู้ลึกด้วย
ครั้นถูกถามถึงฉายามวยที่หมอชัย ใช้ในการขึ้นชกมีชื่อว่าอะไร เจ้าตัวตอบทิ้งท้ายอย่างอารมณ์ดีว่า “ขอให้ใส่เครื่องหมายคำถามเอาไว้ก่อน แล้วจะมาเฉลย” !
บรรจง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“เดี๋ยวก็หายไปแล้ว”
ช่วงนี้คนกรุงเทพฯ ตื่นเต้นเป็นพิเศษ อากาศตอนเช้าอุณหภูมิประมาณ 20 องศา ถือว่าเป็นอากาศเย็นสบายๆ
หัวหน้าแก๊งเด็ก
พร้อมลุยงานกันต่อในปี 2568 สำหรับทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้อนรับปีใหม่ด้วยการตีปี๊บข่าวสารด้านต่างๆของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม โดยเฉพาะ “รองฯโบ๊ต” อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากค่ายกล้าธรรม (กธ.) ที่ล่าสุดรีบแจ้งข่าวสารถึงเกษตรกรไทย
ไร้บอดี้การ์ด
ต้อนรับปีใหม่ปีงู 2568 แล้ว แต่ภารกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังคงเข้มข้นเช่นเดิม หลังเห็นรีวิวส่งท้ายปีของ รทสช. ที่บอกว่า พร้อมพังทุกอุปสรรค เพื่อประโยชน์ชาติ ทั้งพัง..การผูกขาด, พัง..ระบบที่เน่าเฟะ และพัง..การโกงกินทุกรูปแบบ พร้อมผลิตเสื้อพรรคสีน้ำเงิน สกรีนข้อความ “พัง! เพื่อประโยชน์ชาติ” ให้ได้เห็นกัน
“เป็นกำลังใจให้เด็กทุกคน”
เมื่อผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ที่ทุกคนเฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุข ต่อไปจะเป็นวันที่เด็กๆ หลายคนรอคอย นั่นคือ วันเด็กแห่งชาติ ซึ่งจัดตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือน ม.ค.ทุกปี โดยปี 68 ตรงกับวันที่ 11 ม.ค.นี้
บ๊ายบายปีมะโรง
ส่งท้ายปี 67 ต้อนรับปีใหม่ 68 มะเส็ง งูเล็ก ด้วยบทกลอนการเมืองจาก “บัญญัติ บรรทัดฐาน” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยกให้เป็น สส.ในตำนานท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นที่กล่าวขานโดยเฉพาะเวลาได้ลุกขึ้นอภิปรายในสภา ในฐานะฝ่ายค้าน ชาวบ้านหลายคนติดตามรับฟัง เพราะมีลีลาที่เป็นเฉพาะตัว
มือแทน 'อุ๊งอิ๊ง'
เป็นเสนาบดีมาตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน จนมาถึงรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สำหรับ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)