เจาะพฤติกรรมคนไทยกับตลาดเครื่องดื่ม

แม้ว่าในช่วงนี้อุณหภูมิจะลดลงไปบ้าง เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสลมหนาว แต่ก็ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้ประเทศไทยเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงทุบสถิติในฤดูร้อนปี 2566 โดยมีรายงานว่าร้อนทะลุปรอทถึง 45.5 องศาเซลเซียสกันเลยทีเดียว แน่นอนว่าในช่วงที่อากาศร้อนจัดเช่นนี้ผู้บริโภคมักหันมาดื่มน้ำเพื่อดับกระหาย ซึ่งผลการศึกษาล่าสุดจากมินเทล (Mintel) เผยให้เห็นว่า คนไทย 70% พยายามดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยพยายามเพิ่มน้ำให้กับร่างกายเมื่อเผชิญกับสภาพอากาศที่ท้าทาย

คลื่นความร้อนที่ไม่เคยมีมาก่อนในไทยปีนี้ยังจุดประกายให้เกิดการพูดคุยเรื่องเครื่องดื่มมากขึ้น โดยเครื่องมือโซเชียลลิสเทนนิงอย่างอินเฟจี แอตลาส พบว่าเครื่องดื่มมีอิมเพรสชันประมาณ 780,000 ครั้งนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 

และการพูดคุยที่เพิ่มขึ้นนี้มีขึ้นในขณะที่ไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนและมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยพยายามมองหาวิธีคลายร้อน และแสดงความรู้สึกเชิงบวกเกี่ยวกับเครื่องดื่ม

ในเรื่องนี้ รัชมีกา คานีโย นักวิเคราะห์อาวุโส แผนกอาหารและเครื่องดื่ม มินเทล รีพอร์ท ประเทศไทย กล่าวว่า รายงานวิเคราะห์เทรนด์วงการอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลกประจำปี 2566 ของมินเทลนั้น มอบข้อมูลให้แบรนด์ต่างๆ นำไปใช้ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภครับมือกับสภาพอากาศที่รุนแรงมากขึ้นได้ โดยเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์น่าจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการให้ความสดชื่นและฟื้นฟูร่างกาย ซึ่งส่วนผสมที่มีมูลค่าเพิ่มบางส่วนที่ควรจับตามองนั้นมีทั้งอิเล็กโทรไลต์และสมุนไพรคลายร้อน ซึ่งต้านทานผลกระทบที่ความร้อนมีต่อร่างกายได้

คุณภาพอากาศที่ย่ำแย่ก็กำลังกลายเป็นเรื่องน่ากังวลเนื่องด้วยอุณหภูมิร้อนจัดอย่างที่ไทยกำลังเผชิญ ส่วนผสมที่น่าจับตามองคือส่วนผสมที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยให้ร่างกายรับมือกับสภาวะเช่นนี้ได้ โดยในปี 2566 นั้น เครื่องดื่มอัดลม (70%) น้ำดื่มบรรจุขวด (67%) และกาแฟพร้อมดื่ม (60%) เป็นเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์อันดับต้นๆ ในใจผู้บริโภค นอกจากนี้ผลสำรวจยังเผยให้เห็นโอกาสที่เป็นไปได้สำหรับเครื่องดื่มไฮบริด โดยผู้บริโภค 47% แสดงความสนใจที่จะลองดื่ม

แน่นอนว่าแบรนด์ต่างๆ มีโอกาสที่จะดึงดูดความสนใจด้วยการนำกาแฟและน้ำผลไม้มาผสมกัน หรือที่เรียกว่า 'จอฟฟี' (joffee) ซึ่งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวเพื่อดึงดูดผู้บริโภคชาวไทย ผลการศึกษาของเราระบุว่า ชาวกรุงเทพฯ 58% (เทียบกับ 47% ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด) รู้จักและสนใจลองเครื่องดื่มไฮบริด ซึ่งสำหรับแบรนด์แล้วนี่เป็นโอกาสในการพัฒนาเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมกาแฟที่มีรสชาติที่โดนใจผู้บริโภค

ขณะเดียวกัน ยังดูเหมือนว่าผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญกับคุณค่าต่อสุขภาพมากกว่ารสชาติ หรือประมาณ 35% เทียบกับ 22% เมื่อซื้อเครื่องดื่ม และปัจจุบันไม่มีรสชาติกลุ่มใดที่ถูกมองว่ามีประโยชน์ เมื่อคุณประโยชน์ต่อสุขภาพเข้ามามีความสำคัญมากกว่ารสชาติ การผสมผสานรสชาติและประโยชน์เข้าด้วยกันจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เครื่องดื่มดึงดูดผู้บริโภคและสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้

นอกจากนี้คนไทยกลุ่ม Gen X มีแนวโน้มเลือกเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าคนรุ่นอื่นๆ เช่น 43% ของผู้บริโภคที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป ชอบเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่มีน้ำตาลต่ำ ไม่มีน้ำตาล ลดน้ำตาล เมื่อเทียบกับ 33% ในกลุ่ม Gen Z แบรนด์จะดึงดูดคนกลุ่มเจนเอ็กซ์ได้ เมื่อเสนอตัวเลือกที่เน้นเรื่องสุขภาพพร้อมสรรพคุณที่มีประโยชน์และเป็นที่ยอมรับ ซึ่งในภาพรวมนั้นคนไทยเกือบครึ่งชอบเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่ทราบกันว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ สิ่งนี้ตอกย้ำว่าผู้บริโภคชาวไทยอ่านรายการส่วนผสมเครื่องดื่มอย่างจริงจัง และมองหาตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพของตนเอง

แม้ Gen Z จะเป็นกลุ่มที่นิยมบริโภคเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์มากที่สุดในไทย แต่ยังตามหลังกลุ่มอายุอื่นๆ ในบางหมวดหมู่ เช่น น้ำดื่มบรรจุขวด กาแฟพร้อมดื่ม น้ำวิตามิน และเครื่องดื่มทดแทนมื้ออาหาร โดยผลการศึกษาของมินเทลนั้นสะท้อนให้เห็นโอกาสที่ยังไม่ได้มีการสำรวจอย่างจริงจังสำหรับแบรนด์ต่างๆ ในกลุ่มนี้ และดูเหมือนว่าแบรนด์เครื่องดื่มมีโอกาสในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ โดยใช้รสหวานเจาะกลุ่ม Gen Z ผลการศึกษาของมินเทลแสดงให้เห็นว่าชาวไทยกลุ่มนี้มากกว่า 1 ใน 3 ชอบเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่มีรสหวานมากกว่ากลุ่มอื่นๆ อีกด้วย.

 

รุ่งนภา สารพิน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความสำเร็จของแบรนด์กับการใช้Meta

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีประชากร 700 ล้านคน และมี GDP รวมประมาณ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เป็นตลาดที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก

หวยเกษียณแก้ปัญหาแก่ก่อนรวย

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือหวยเกษียณ ของกองทุนการออมแห่งชาติ ซึ่งนี่ถือเป็นโครงการที่รัฐบาลพยายามส่งเสริมการออมของประชาชนในประเทศ

เจ็บแล้วจบ

หลังการบริหารงานของรัฐบาลเศรษฐาได้เข้ามาเดินหน้ามาตรการประชานิยมลด แลก แจก แถม จัดเต็ม ตามที่สัญญากันไว้ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะนโยบายด้านพลังงาน ลดค่าไฟฟ้า

3แผนกรีนดันอุตฯไทยรักษ์โลก

เทรนด์รักษ์โลกยังมีมาอย่างต่อเนื่อง และตลอดปี 2567 ที่ผ่านมานี้หลายหน่วยงาน หลายบริษัทก็ยังไม่ทิ้งอุดมการณ์อันแรงกล้านี้ และยังแห่ประกาศแผนดำเนินงานเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมกันอย่างคึกคัก

เร่ง“ปรับ”ก่อน(ถูก)“เปลี่ยน”

ยอดขายรถยนต์ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา หลายคนคงตกใจ เพราะหดตัวลงถึง 23.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีแนวโน้มว่าทั้งปีจะหดตัวลงอย่างรุนแรงที่สุดในรอบ 15 ปี

เปิดไม้เด็ดธุรกิจขนาดเล็กสู้ในตลาด

หากย้อนเวลาไปเมื่อหลายปีก่อน ธุรกิจที่มีทุนหนาและมีส่วนแบ่งการตลาดมาก มักจะถูกมองว่าเป็น “ปลาใหญ่” ที่ได้เปรียบเหนือคู่แข่งที่ทุนน้อยกว่าซึ่งเปรียบเหมือน “ปลาเล็ก” จนเป็นที่มาของคำว่า “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” หนึ่งในข้อได้เปรียบที่เห็นชัดที่สุดคือ การมี Economy of Scale หรือ การประหยัดต่อขนาด ซึ่งหมายถึง การผลิตสินค้าหรือบริการในจำนวนที่มากพอที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำลง พูดง่ายๆ ก็คือ “ยิ่งผลิตมากขึ้น ต้นทุนการผลิตยิ่งลดลง และยิ่งคุ้มค่ามากขึ้น” โดยต้นทุนในการผลิตสินค้าหรือบริการจะแบ่งออกเป็น ต้นทุนคงที่ (fixed cost) และต้นทุนผันแปร (variable cost) ต้นทุนคงที่ คือ ต้นทุนที่ธุรกิจต้องจ่ายเป็นจำนวนคงที่ ไม่ว่าจะผลิตสินค้าหรือบริการในปริมาณเท่าใดก็ตาม เช่น ค่าเช่าพื้นที่ ค่าเครื่องจักรอุปกรณ์ ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ส่วนต้นทุนผันแปร