ไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องรอ การแต่งตั้งตำรวจระดับ รองสารวัตร (รอง สว.) และผู้บังคับหมู่ (ผบ.หมู่) วาระประจำปี 2566 ผบ.ต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล แม่ทัพใหญ่สีกากี สะบัดปากกาเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงผู้บัญชาการ หรือตำแหน่งเทียบเท่า แจ้งให้ผู้มีอำนาจสั่งแต่งตั้งต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2566 โดยเคร่งครัด เน้นย้ำกรณีร้องขอรับการแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียนภายในสังกัด ให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งและคุณสมบัติของข้าราชการตำรวจ พร้อมหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน รวมทั้งมีความเห็นขัดข้องหรือเกิดความเสียหายต่อทางราชการหรือไม่ และให้นำเสนอผู้บังคับบัญชาระดับถัดขึ้นไป กรณีร้องขอรับการแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปดำรงตำแหน่งนอกสังกัด ให้หัวหน้าหน่วยระดับ บช. ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร. รวมทั้ง บช. และ บก.หน่วยขึ้นตรงในสังกัด สง.ผบ.ตร. ส่งคำร้องที่มีผลการพิจารณาไม่ขัดข้อง หรือไม่ขัดข้องขอกำลังพลสับเปลี่ยนในคราวเดียวกันไปยังหน่วยที่รับตัวภายใน 5 ม.ค.2567 โดยให้หน่วยที่รับตัวพิจารณาทำความตกลงกับหน่วยต้นสังกัดจนเป็นที่ยุติ ให้ทุก บช. และ บก. ดำเนินการแต่งตั้งให้เสร็จสิ้น และมีคำสั่งแต่งตั้งพร้อมกันทุกหน่วยใน 29 ม.ค.2567 โดยให้คำสั่งมีผลใช้บังคับพร้อมกันใน 31 ม.ค.2567
กลายเป็นคลิปไวรัลกระจายไปทั่วสำหรับภาพ "ผบ.ต่อศักดิ์" ขึ้นเวทีโชว์ลูกคอร้องเพลง "คนบ้านเดียวกัน" ในงานกาชาดที่สวนลุมพินี จนหลายคนอยากฟังเสียงสดๆ ตอนนี้มีข่าวดีสำหรับ FC บิ๊กต่อ หากใครอยากได้ยิน ต้องลองมาแอบฟังอีกครั้ง ในวันอังคารที่ 26 ธ.ค.นี้ ซึ่ง "ผบ.ต่อศักดิ์" จะจัดงานเลี้ยงปีใหม่ให้กับตำรวจที่มีที่ตั้งหน่วยอยู่ภายในรั้ว "กรมปทุมวัน" ทั้ง 12 หน่วยงาน ยกเว้นโรงพยาบาลตำรวจ บริเวณอาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะแว่วๆ ว่าในงานนี้ นอกจากมีอาหารเลี้ยงลูกน้องตั้งแต่ช่วงบ่าย 4 โมงเย็นแล้ว ยังมีการจับสลากมอบรางวัลพิเศษมากมาย ที่สำคัญยังมีกิจกรรมประกวดร้องเพลง ซึ่งหากอารมณ์ได้ สถานการณ์เป็นใจ อาจจะได้ยินเสียง "ผบ.ต่อศักดิ์" โชว์ลูกคอกันสดๆ อีกครั้งก็ได้ แฟนคลับรอไปเกาะกำแพงห้องประชุมชั้น 2 ฟังกันดู
หลังจาก "วิญญัติ ชาติมนตรี" ทนายความประจำตัวนายทักษิณ ชินวัตร ออกมาขู่กลุ่มคนที่ออกมาเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล "น.ช.ทักษิณ" ซึ่งป่วยนอนรักษาตัวอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เกิน 120 วันเข้าไปแล้วว่า ใครที่มากล่าวหาพาดพิง ใส่ร้าย ว่าไม่ป่วยจริง อาจต้องใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายในฐานะทนายความส่วนตัว ตอนนี้ "โฆษกแจง" พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ ออกมาส่งสัญญาณถึงสื่อ ขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการเข้ามาทำข่าวในพื้นที่ รพ.ตำรวจ ให้ระมัดระวังการนำเสนอภาพข่าวหรือภาพ เพื่อไม่ให้ไปกระทบสิทธิผู้ป่วยและประชาชนที่มาใช้บริการ พร้อมทั้งระบุโรงพยาบาลตำรวจไม่มีอำนาจหน้าที่ในการอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้บุคคลเข้าพื้นที่การควบคุมผู้ต้องขัง ตามคำสั่งศาลเป็นพื้นที่รักษาความปลอดภัย ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 รวมถึงโรงพยาบาลตำรวจ มีหน้าที่รักษาคนไข้เพียงอย่างเดียว พร้อมเน้นย้ำ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 (มาตรา 7) ข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล เป็นความลับส่วนบุคคล ผู้ใดจะนำไปเปิดเผยในประการที่น่าจะทำให้บุคคลนั้นเสียหายไม่ได้ เว้นแต่การเปิดเผยนั้นเป็นไปตามความประสงค์ของบุคคลนั้นโดยตรง...ว่าซั่น
ขยับเตรียมพร้อมรองรับการเดินทางช่วงวันหยุดยาว เทศกาลปีใหม่ 2567 สำหรับ "ตำรวจทางหลวง" ที่เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. เดินทางไปตรวจความพร้อมการจัดการจราจรบนถนนพหลโยธิน กม.55 จุดเชื่อมของมอเตอร์เวย์สายตะวันออกและตะวันตก ซึ่งเป็นจุดที่มีการจราจรหนาแน่นที่สุด โดยเน้นย้ำความพร้อมของกำลังพล ประสานแขวงการทาง ตำรวจท้องที่ร่วมสนับสนุน รวมทั้งบริหารจัดการจราจรเปิดช่องทางพิเศษตั้งแต่รถยังไม่ติด ประสานการปฏิบัติกับตำรวจนครบาล สอบถามปริมาณรถ เพื่อนำมาวิเคราะห์บริหารจัดการ และการซ่อมสร้างต่างๆ ต้องพูดคุยไม่ให้กระทบจราจร และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ...เห็นแล้วก็น่าเชื่อว่าปีใหม่ครั้งนี้การจราจรน่าจะคล่องตัวในทุกเส้นทาง
ประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกวาระพิเศษ ตั้งแต่ระดับผู้บังคับกองพันขึ้นไปในช่วงก่อนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เน้นย้ำการปฏิบัติของกำลังพลช่วงวันหยุดยาว ซึ่งอาจพบการลักลอบกระทำความผิดของกลุ่มผู้ก่อเหตุต่างๆ โดยขอให้ผู้บังคับหน่วยกำชับกำลังพล ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด บูรณาการกับส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งพื้นที่ตอนในและชายแดน ตั้งจุดบริการประชาชน และลาดตระเวนเฝ้าระวังเหตุไม่พึงประสงค์ เพื่อป้องปรามรักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ขณะเดียวกันให้รักษาสิทธิของกำลังพลที่ปฏิบัติงานในช่วงวันหยุดตามความเหมาะสม เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความเสียสละในเวลาส่วนตนและเวลาของครอบครัว เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และขอบคุณที่ปฏิบัติภารกิจ
ที่ลืมไม่ได้คือการขอบคุณในความทุ่มเทเสียสละของกำลังพลตลอดปีที่ผ่านมาจนทุกฝ่ายเห็นถึงความตั้งใจจริง โดยเฉพาะฝ่ายการเมือง “บิ๊กต่อ” เจริญชัย ยังได้เปิดใจถึงความกังวลที่เคยมาก่อนหน้านี้ว่า กองทัพบกอาจถูกการเมืองดึงทหารเข้ามายุ่งเกี่ยว แต่ปรากฏว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น พร้อมชื่นชม “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม ในฐานะผู้บังคับบัญชา ที่รับฟังข้อมูลและเข้าใจข้อจำกัดในกองทัพ ขณะที่ฝ่ายค้านไม่ได้ตั้งป้อม หรืออคติ กับทหาร เมื่อได้มาฟังข้อเท็จจริงก็เข้าใจ โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ สภาฯ ที่มี “รังสิมันต์ โรม” เป็นประธานที่ได้มาเยือนกองทัพบก มีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างเปิดกว้าง และก่อนหน้าที่จะมากองทัพบก คณะกรรมาธิการฯ ก็ลงพื้นที่ชายแดน จ.สุรินทร์ รับฟังจากปากของผู้ปฏิบัติในเรื่องความจำเป็นของกฎอัยการศึก และบทบาทในการช่วยเหลือประชาชน เหมือนเป็นการทำการบ้านมาก่อน และยังได้ขอบคุณที่ได้ช่วยคนไทยในเมืองเล่าก์ก่าย รวมถึงฝากให้ช่วยประสานช่วยคนไทยใน KK park เขตพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของกาสิโน สถานบันเทิง มีคนไทยถูกหลอกไปขายบริการที่นั่น เพราะมีการร้องเรียนไปที่คณะกรรมาธิการฯ
“ทำส้วมใหม่” เป็นนโยบายที่ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ประกาศไว้ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง โดยจะนำงบฯ ที่ยกเลิกทำ “ปฏิทิน” แจกปีใหม่ปีละไม่ต่ำกว่า 16 ล้าน มาสมทบทุนสร้าง “สุขา” ให้หน่วยต่างๆ โดยเฉพาะที่ยังเป็นนั่งยองในหลายหน่วย ก็ให้ปรับให้เป็นแบบชักโครก ซ่อมแซมในส่วนที่เก่าชำรุดด้วย นอกจากนั้น ในหน่วยที่มีกำลังพลอยู่มาก ก็จะเน้นหนักในเรื่องของการออกกำลังกาย เช่น ฟิตเนส และสร้างสระว่ายน้ำ โดยอนุมัติให้ดำเนินการ 2 แห่ง คือที่กรมการสื่อสารทหารเรือ และฐานทัพเรือพังงา โดยมีการจัดสรรเงินของหน่วยต่างๆ มาอุดหนุนด้วย ตอนนี้ใช้งบฯ ไปแล้ว 48 ล้านบาท เป็นการยืนยันว่า “บิ๊กดุง” ทำตามที่พูด ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ประกาศไว้ ยืนยันว่าจะทำให้จบใน 9 เดือนที่ตัวเองนั่งเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ รวมถึงโครงการเรือดำน้ำ ที่จะเดินหน้า หรือจบแบบไหน ต้องมีข้อสรุป
กิจกรรมดีๆ ของกองทัพอากาศ “วันญาติพบทหารเกณฑ์ ผลัด 2” จัดที่กรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน มีการแสดงราชวัลลภเริงระบำ และวิธีมุทิตาจิต ซึ่งได้มีการนำพวงมาลัยดอกไม้ไหว้บิดามารดา แสดงความเคารพ โดยทหารกองประจำ ที่มีการกราบและสวมกอดครอบครัวหลังไม่ได้เจอกันเป็นเวลานานตลอดการฝึกทหารใหม่ 52 วัน งานนี้ “บิ๊กไก่” พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ระบุว่า “ได้บอกกับน้องๆ ว่า สิทธิและสวัสดิการของทหารเกณฑ์ อย่างน้อยที่สุดจะมีเงินเดือน รวมเบ็ดเสร็จแล้ว 10,000 บาท ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีความเป็นห่วงในเรื่องของสวัสดิการ เพราะหลายคนยังต้องดูแลครอบครัวอยู่ จึงขอให้ความมั่นใจว่า เราห่วงใยและใส่ใจน้องทหารทุกคน ซึ่งสิทธิที่จะได้รับนั้น เชื่อว่าน้องได้รับเต็มที่ รวมถึงอาหารการกินความเป็นอยู่ดีที่สุด ซึ่งความเปลี่ยนแปลงหลังจากนี้ ถ้าเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีแล้ว ต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และถ้าดีขึ้นเเล้วก็ต้องรักษาความดีนี้เอาไว้ ก็จะเป็นการชักชวนจากผลการปฏิบัติ ไม่ใช่การโฆษณาชวนเชื่ออะไร ผมไม่ได้มาโฆษณา" เป็นการนำร่อง ก่อนจะมีการคิกออฟเปิดตัวโครงการรับสมัครทหารแบบสมัครใจ ในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ ตั้งแต่ช่วงเช้า มี ผบ.เหล่าทัพไปร่วมงานกันพร้อมเพรียง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้
เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ
เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม
จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!
ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก
ช่วงเค้าลางคดีสำคัญของนายกรัฐมนตรีก่อตัวในดวงเมือง
ขอพักการทำนายเค้าโครงชีวิตคนปี 2568 ไว้ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวที่รออยู่คือท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุล
ไม่สนใจใครจะต่อว่า เสียงนกเสียงกา...ข้าไม่สนใจ
ถ้าหากเราจะบอกว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงตำหนิ มีการนำเอาการพูดและการกระทำที่ไม่ถูกไม่ต้อง ไม่เหมาะไม่ควร
จาก 'น้ำตา' ถึง 'รอยยิ้ม' พระราชินี
ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา...ได้อ่านข่าวพระราชาและพระราชินีสเปน เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเยียนผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองปอร์ตา แคว้นบาเลนเซีย