รัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน มุ่งหน้าสร้างความสมานฉันท์ นำประเทศไปสู่ความปรองดอง โดยมีการแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา แต่ตลอด 90 วัน ยังไม่เห็นวี่แววของเรื่องดังกล่าว มีแต่ความพยายามช่วยเหลือนักโทษเทวดาชั้น 14 ให้พ้นคุกโดยไวขึ้นเท่านั้น หลังมีการออกระเบียบ “คุมขังนอกเรือนจำ”
ขณะที่ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้ โต้โผกลับเป็นพรรคก้าวไกล ที่ต้องการเหมารวมทุกเรื่อง รวมถึงมาตรา 112 แต่ก็ถูกมองออกมา เพราะต้องการช่วยฐานเสียงเยาวชนปี 63 สส.ในสภา ได้แก่ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี, นายปิยรัฐ จงเทพ และ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. และผู้นำจิตวิญญาณ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้รับประโยชน์ รวมถึงพรรคสีส้ม ที่กำลังถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินในเดือน ม.ค.67 หลังถูกร้องว่าล้มล้างการปกครอง ด้วยการหาเสียงแก้ไขมาตรา 112
ด้วยเหตุนี้จึงถูกต่อต้านอย่างหนักจากฝ่ายรัฐบาล โดยพรรคเพื่อไทยก็เสียงแข็งห้ามยุ่งเกี่ยวกับมาตรา 112 เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ทำให้ร่างก้าวไกลยากจะผ่าน เพราะหลายฝ่ายมองว่าหากยกโทษให้แล้วเกรงว่าคนเหล่านี้จะกลับมาทำผิดซ้ำ และเหยียบย่ำหัวใจคนไทยต่อไป
ล่าสุดพรรครวมไทยสร้างชาติก็เอาด้วย เตรียมชงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภา โดยใช้ชื่อร่าง พ.ร.บ.สร้างสรรค์สังคมสันติสุข ยึดหลักการสำคัญคือ ให้นิรโทษกรรมกับคดีที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางการเมือง ที่มีผลกระทบกระเทือนต่อรัฐ เป็นผู้เสียหาย เช่น การทำผิด พ.ร.บ.จราจร-พ.ร.บ.ว่าด้วยการชุมนุมในที่สาธารณะ แต่จะไม่มีการนิรโทษกรรมให้กับคนที่ทำผิดคดีทุจริต-ทำผิดคดีมาตรา 112 และคดีความผิดต่อชีวิต
ซึ่งคาดว่าหากยึดตามสูตรนี้ ผู้มีคดีเพราะมีความเชื่อทางการเมืองก็จะได้รับการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นบรรดาแกนนำสีเหลือง สีแดง และ กปปส. ที่บางคนติดคุก ถูกฟ้องล้มละลาย ยึดทรัพย์ และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง
สำหรับคนที่ไม่ได้ประโยชน์ ก็จะมีเยาวชน และเครือข่ายของกลุ่ม 3 นิ้ว ที่มีคดีมาตรา 112 และ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เพราะมีหลายคดีค้างอยู่และรอการลงโทษ
ประกอบด้วย คดีที่ศาลออกหมายจับยิ่งลักษณ์ มีทั้งหมด 3 คดี ได้แก่ หมายจับใบแรกวันที่ 24 ส.ค.2560 คดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ต่อมาศาลมีคำพิพากษาจำคุก 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา, หมายจับใบที่ 2 วันที่ 19 เม.ย.2565 คดีเอื้อประโยชน์เอกชน จัดโรดโชว์ไทยแลนด์ 2020 เป็นเหตุให้รัฐเสียหาย 240 ล้านบาท หลังจำเลยไม่เดินทางมาศาล สถานะคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล และหมายจับใบที่ 3 วันที่ 21 พ.ย.2565 คดีใช้อำนาจโยกย้ายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมิชอบ ศาลนัดตรวจหลักฐานวันที่ 14 มี.ค.2566
กลุ่มคดีค้างในชั้น ป.ป.ช. อาทิ คดีจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง ระหว่างปี 2548-2553 ไม่มีกฎหมายรองรับ ทำรัฐเสียหาย 1.9 พันล้านบาท, คดีละเว้นไม่ลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชา กรณี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในขณะนั้นพร้อมพวกปราศรัยรุนแรงแบ่งแยกประเทศ และคดีร่ำรวยผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว
กลับมาที่พรรคเพื่อไทย ยังเก็บอาการเลือกซื้อเวลาด้วยการเสนอตั้ง กมธ.วิสามัญขึ้นมาศึกษา เพราะ 2 ร่างของ 2 พรรคที่เสนอมายังมีความเห็นต่าง และอาจเพิ่มประเด็นความขัดแย้งในสังคมเกิดขึ้น ขณะที่เป้าหมายหลักคือ บริหารประเทศตลอด 4 ปี และ “นายใหญ่” กำลังจะพ้นคุกแล้ว
จึงฟันธงได้ว่าความเคลื่อนไหวเรื่องนิรโทษกรรมอาจเป็นเพียงแค่ความฝัน อย่างเช่นการแก้รัฐธรรมนูญ ส่วน “ยิ่งลักษณ์” อาจใช้แนวทางอื่นๆ เพื่อกลับบ้าน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
บันทึกจันทร์สุดท้ายของปี 2568 อีกไม่กี่เพลาก็จะขึ้นศักราชใหม่ 2569 ...ประเทศไทยจะก้าวไปทางไหน?!?.. ก็ขอบันทึกสะกิดเตือน @ บรรทัดนี้เลยว่า ใจเย็นๆ ค่อยๆ พินิจพิจารณา ประมวลข้อมูล ทบทวน ไตร่ตรองให้ละเอียดรอบคอบแล้วจึงค่อยตัดสินใจว่า เลือกตั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ เราอยากได้ใครมาเป็น "ผู้นำ" พาชาติบ้านเมืองไปสู่ทิศทางที่เหมาะที่ควร!!
บันทึกหน้า 4
จาก "หนู" หนึ่งเดียว กลายเป็นสอง ก่อนหน้านี้ถามกันทุกวันถึง 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของภูมิใจไทย ในงานแถลงนโยบาย "พูดแล้วทำพลัส" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชัดเจนว่า "อนุทิน ชาญวีรกูล" ฉายเดี่ยว โฆษกพรรคย้ำแล้วย้ำอีก
เข้าใจคนชายแดน
ถ้าเอ่ยชื่อ กวาง–ไตรศุลี ไตรสรณกุล นาทีนี้ หลายคนคงนึกถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหญิงของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ทำงานเงียบ สุขุม แต่เดินเกมเร็ว ไม่หวือหวา ทว่าจับงานอยู่หมัด
บันทึกหน้า 4
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงคุกรุ่นอยู่ต่อเนื่องอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ แม้วันที่ 24 ธ.ค.2568 จะเป็นวันแรกในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ในวาระพิเศษ
บันทึกหน้า 4
การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ไทยยังเหนือกว่าทุกด้าน สมรภูมิตามแนวชายแดน ทหารกล้าของเราบุกยึดพื้นที่คืนกลับมาเกือบเบ็ดเสร็จ ในเวทีสากล นานาชาติก็เข้าใจสถานการณ์ดี
บันทึกหน้า 4
บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”


