แผนดันยานยนต์สมัยใหม่

อุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบันเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีสมัยใหม่มากขึ้น และมีแนวโน้มในการพัฒนายานยนต์แห่งอนาคตทั้งรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) หรือรถยนต์ไฮโดรเจน ที่มีการใช้พลังงานที่รักษ์โลก ไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยในประเทศไทยมีความชัดเจนเรื่องการผลักดันสัดส่วนยานยนต์สมัยใหม่แล้ว และออกเป็นมาตรการที่ครอบคลุมทั้งการผลิตและการกระตุ้นการใช้งาน อย่างมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 หรือ EV3.5 ซึ่งจะสนับสนุนให้เกิดการลงทุนที่ครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่ง กระบะไฟฟ้า และจักรยานยนต์ไฟฟ้า

และด้วยแผนงานที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนยานยนต์สมัยใหม่นี้ ทำให้ภาคอุตสาหกรรมที่ดำเนินงานด้านนี้ในประเทศไทยก็ต้องการทำให้การเดินหน้างานเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งยังส่งผลดีและตรงจุดให้กับกลุ่มนักลงทุนทั้งผู้ผลิต

และผู้ใช้งานด้วย ทำให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดย Cluster of  FTI Future Mobility-ONE หรือ CFM-ONE ได้จัดทำข้อเสนอต่อแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย ที่มุ่งเน้นให้ภาครัฐรักษาและต่อยอดความเป็นฐานการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนของโลก สร้างอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนสมัยใหม่เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

โดย ยุพิน บุญศิริจันทร์ ประธาน Cluster of FTI Future Mobility-ONE และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า ได้มีแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนไทย โดยคาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2573 (ค.ศ. 2030) รวม 2,500,000 คัน จะมีสัดส่วนการผลิตที่เป็นรถยนต์ Future ICE คิดเป็น 70% หรือ 1,750,000 คัน และรถยนต์ประเภท ZEV คิดเป็น 750,000 คัน โดยเห็นว่าการที่จะส่งเสริมให้มีการผลิตยานยนต์ทั้งสองประเภทนี้ ภาครัฐจะต้องมีแนวทางในการส่งเสริม ผ่านมาตรการสนับสนุนที่จำเป็น โดยจะขอนำเสนอ อาทิ

1.ข้อเสนอสำหรับ Future ICE (70@30) : รักษาและต่อยอดความเป็นฐานการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยผลักดันให้เกิดการขยายตลาดการส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนในกลุ่มอะไหล่ทดแทน (REM) ไปยังกลุ่มประเทศที่ยังมีการใช้เครื่องยนต์ประเภทสันดาปภายใน (ICE) โดยเร่งรัดการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ในกลุ่มประเทศที่ยังมีการใช้เครื่องยนต์ ICE

ขณะเดียวกัน ต้องหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อออกมาตรการส่งเสริมการผลิตยานยนต์ในกลุ่ม Future ICE สนับสนุนแนวทางการกำหนดโครงสร้างภาษีสรรพสามิตสำหรับยานยนต์ที่จะบังคับใช้ปี 2569 และสร้างกลไกการจับคู่บริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยกับต่างชาติ เพื่อเพิ่มโอกาสสำหรับการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ รวมทั้งผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐมีการกำหนดมาตรฐานมลพิษ ได้แก่ Euro 5 สำหรับรถจักรยานยนต์ และ Euro 6 สำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ให้มีความเหมาะสม

2.ข้อเสนอสำหรับ ZEV (30@30) : สร้างอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนสมัยใหม่ เตรียมพร้อมทิศทาง Carbon Neutrality โดยผลักดันนโยบายและมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งระบบนิเวศไปยังคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ สนับสนุนและอำนวยความสะดวกมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า การผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในทุกมิติ และนำเสนอให้เกิดการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับผู้ประกอบการที่ผลิต EV Niche Market เช่น รถเมล์ เรือ รถบัส รถตุ๊กๆ

3.ข้อเสนอสำหรับการผลักดันให้ชิ้นส่วนยานยนต์ไทยปรับตัวสู่อุตสาหกรรมสมัยใหม่ (Parts Transformation) ผลักดันให้อุตสาหกรรมชิ้นส่วน พัฒนาไปอุตสาหกรรมใกล้เคียงเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ เปลี่ยนผ่านตัวเองได้ เช่น ระบบราง เครื่องมือแพทย์ โดยหารือร่วมกับกรมบัญชีกลางในผลักดันมีการกำหนดสัดส่วนปริมาณการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ และเพิ่มทักษะแรงงานด้านเครื่องกล ไปสู่ด้านอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมใหม่

ซึ่งเมื่อพิจารณาจากแผนงานดังกล่าวจะเห็นได้ว่า การสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่นั้นไม่ใช่เพียงแค่สนับสนุนให้มียอดซื้อและยอดใช้งานในประเทศเท่านั้น แต่ต้องมีการบูรณาการร่วมกันกับอุตสาหกรรมหรือแผนงานอื่นๆ ที่จะเข้ามาสนับสนุนให้เกิดการผลักดันที่ชัดเจน.

 

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%

ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน

เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่

ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน

องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส

‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม

ดันไทย-ญี่ปุ่นปักธงอุตสาหกรรม

ในภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และเป้าหมายด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ความสามารถของประเทศในการปรับตัวและสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมไปสู่ยุคใหม่ที่เน้นมูลค่าสูงและมาตรฐานที่เข้มงวด

ถอดบทเรียนน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้

จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่จังหวัดสงขลา สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งพื้นที่เมืองและชนบท ส่งผลให้หลายหน่วยงานภาครัฐต้องเร่งวางมาตรการป้องกันอย่างเร่งด่วน ทั้งการฟื้นฟูถนน–สะพานที่ถูกตัดขาด การขุดลอกคูคลอง