เกิด "อาฟเตอร์ช็อก" ในแวดวงสีกากี หลังคำสั่งแต่งตั้ง "นายพัน" ตำแหน่ง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) - สารวัตร (สว.) วาระประจำปี 2566 ออกมาเสร็จสิ้นเรียบร้อย ตำรวจหลายนายผิดหวัง ตำรวจหลายนายท้อแท้ ตำรวจหลายนายหมดกำลังใจ ตำรวจหลายนายตัดสินใจหันหลังให้ชีวิต "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" ก่อนวัยเกษียณ โดยเฉพาะในรายลูกชายอดีตรอง ผบ.ตร. ที่เขียน จม.ลาออกจากราชการ ที่ใครได้เห็น ใครได้อ่าน ต้องสะอึก ต้องสะท้อนใจ นี่หรือรางวัลคนทำงาน
พ.ต.อ.บดินทร เพ็ญสูตร สว.(สอบสวน) สน.พระโขนง บุตรชาย พล.ต.อ.สันติ เพ็ญสูตร อดีตรอง ผบ.ตร. บอกเหตุผลการลาออก เพราะตลอดระยะเวลาที่เป็นตำรวจได้อุทิศตน ปฏิบัติหน้าที่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาโดยตลอด นำความรู้และความสามารถที่ได้เรียนรู้และสั่งสมมาตลอดทั้งชีวิต เพื่อปฏิบัติหน้าที่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะทักษะด้านภาษาจีนที่ได้ทุ่มเทศึกษาจนชำนาญ เข้าร่วมในการทำคดีสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคนจีน การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งในและข้ามไปที่ประเทศจีน
เป็นล่ามให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงเมื่อมีการประชุมหารือกับตัวแทนจากสถานทูตจีน หรือกระทรวงความมั่นคงสาธารณะสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่พอถึงการแต่งตั้งโยกย้าย 3 ครั้งล่าสุด ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ผู้บังคับบัญชาไม่ได้มองเห็นในความสามารถ จึงไม่ได้โยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งที่เหมาะสมในด้านภาษาแต่อย่างใด...เฮ้อ ไม่รู้ ผบ.ต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล แม่ทัพใหญ่สีกากี บิ๊กจ้าว-พล.ต.ท.ฐิติ แสงสว่าง แม่ทัพนครบาล ได้อ่าน ได้ฟัง ได้รับรู้แล้วจะสะอึกหรือไม่ ใครปะหน้าก็ลองถามกันดู...เด้อค่า
ยิ่งตอกย้ำผลพวงการแต่งตั้ง "นายพัน" ที่ทำให้ "ตำรวจ" หลายคนท้อถอย หลายคนหมดกำลังใจ เมื่อ บิ๊กเอก-พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความรู้สึกเสียใจกับน้องๆ ที่ผิดหวังในการแต่งตั้ง "นายพัน" ที่ผ่านมา ในกลุ่ม "ตำรวจ" ที่อนุ ก.ตร.ร้องทุกข์ มี บิ๊กนัย-พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธานคณะอนุฯ มีมติให้เยียวยา หลังจากเมื่อวาระการแต่งตั้งประจำปี 2565 ตร.อ้างนโยบายปรับเปลี่ยนกำลังพล แต่งตั้งโยกย้ายทั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และสับเปลี่ยนหมุนเวียน แต่งตั้งตำรวจออกนอกหน่วย เป็นเหตุให้มีตำรวจร้องทุกข์เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนทั้งส่วนตัว ครอบครัวไม่สามารถไปปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สุดท้ายพอส่งชื่อทั้ง 96 รายที่โดนเตะออกมาจาก นครบาล, สตม., สอท., ภาค 1, ภาค 2 และภาค 7 ให้กลับเข้าสู่สังกัดเดิม หรือตามภูมิลำเนา ปรากฏว่าหน่วยต้นสังกัดไม่ยอมรับ อ้างข้อจำกัดกระทบตำแหน่งที่จะต้องแต่งตั้งคนในหน่วย สุดท้ายมติ ก.ตร.ก็มีน้ำหนักไม่เพียงพอให้หน่วยทำตาม เรื่องก็เลย...เอวัง
เช่นเดียวกับโครงการ "จับคู่ย้าย" ที่ "ผบ.ต่อศักดิ์" ปัดฝุ่นโครงการ มอบหมายให้ รองฯ วู้ดดี้-พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร.ฝ่ายบริหาร เป็นหัวเรือส่งหนังสือแจ้งเวียนไปทุกกองบัญชาการ และหน่วยขึ้นตรง เปิดให้ตำรวจสมัครใจขอรับการแต่งตั้ง ทั้งแบบที่ 1 ข้าราชการตำรวจที่มีความประสงค์สมัครใจขอรับการแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งในหน่วยต่างๆ โดยมีคู่สับเปลี่ยนจับคู่ย้าย หรือแบบที่ 2 ข้าราชการตำรวจที่มีความประสงค์สมัครใจขอรับการแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งในหน่วยต่างๆ ปรากฏว่าบางคู่ไม่ได้ย้าย เพราะต้นสังกัดไม่ปล่อยตัว หรือหน่วยปลายทางไม่ยอมรับตัว "บิ๊กเอก" บอกจะต้องนำมาพิจารณาว่ามีเหตุผลอธิบายได้หรือไม่อย่างไร ในการที่ไม่ได้ดำเนินการ ทั้งที่มีกฎเกณฑ์ให้พิจารณาดำเนินการได้ เอ้า...ลองดูกัน
ผ่านมติ ครม.เรียบร้อย ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ โดย ก.พ.ค.ตร. ชุดที่มี "สมรรถชัย วิศาลาภรณ์" เป็นประธาน กรรมการประกอบด้วย นายธวัชชัย ไทยเขียว, พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี, นายวันชาติ สันติกุญชร, พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์, พล.ต.อ.อำนาจ อันอาตม์งาม และ พล.ต.ท.ปัญญา เอ่งฉ้วน เป็นกรรมการและเลขานุการนั้น ประธานกรรมการ ก.พ.ค.ตร.รับเงินประจำตำแหน่ง 80,540 บาทต่อเดือน และรับเงินเพิ่ม 42,500 บาทต่อเดือน ส่วนกรรมการ ก.พ.ค.ตร.รับเงินประจำตำแหน่ง 76,800 บาทต่อเดือน และรับเงินเพิ่ม 41,500 บาทต่อเดือน รวมทั้งมีสิทธิ์ได้รับค่ารักษาพยาบาล หรือการประกันสุขภาพตามที่จ่ายจริงในอัตราเบี้ยประกันคนละไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และได้รับเงินบำเหน็จตอบแทนตามระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง
ศุกร์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม เดินทางไปเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของ ทร. ชมการปฏิบัติงานบนเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช บนห้องศูนย์ยุทธการ และชมการสาธิตการรับส่งสิ่งของในทะเล ก่อนออกเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังเรือหลวงอ่างทอง เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ฝึก พร้อมทั้งชมการปฏิบัติงานในการเตรียมการปฏิบัติการยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก ณ ห้องควบคุมปฏิบัติการยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก และเยี่ยมชมยุทโธปกรณ์ รวมถึงการปล่อยยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก ออกจากดาดฟ้ายานยนต์ของเรือหลวงอ่างทอง ก่อนลงมาที่สนามฝึกกองทัพเรือหมายเลข 15 หาดยาว อ.สัตหีบ ชมการสาธิตการฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก โดยครั้งนี้กองทัพเรือ โดย “บิ๊กดุง” พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. ให้จัดแบบกระชับรวดเดียวจบ เข้าใจภาพรวมทางด้านยุทธวิธี วาดภาพให้เห็นว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์อะไร ต้องใช้ยุทโธปกรณ์แบบไหน ก่อนที่จะมาให้สัมภาษณ์สื่อแบบพลิกมุมสนับสนุนแนวทางแรกของ ทร.ในการเดินหน้าโครงการเรือดำน้ำจีนให้จบ โดยระหว่างนี้รอผลการตีความเรื่องสัญญาจากสำนักงานอัยการสูงสุด สอดคล้องกับระยะเวลาสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 30 ธ.ค.นี้
"โรม" รังสิมันต์ โรม กับ “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ นำกรรมาธิการคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เดินสายไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบกที่กองทัพบก ถนนราชดำเนิน กับ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ จบเวทีพูดคุยออกมาให้สัมภาษณ์แบบชื่นมื่น ชื่นชมการทำงานของกองทัพ ที่ปรับองค์กรให้สอดคล้องกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปและกระแสเรียกร้องของสังคมได้ ถึงกับเอ่ยปากว่า “ยอดเยี่ยม” จนต้องสลับภาพย้อนกลับไปในช่วง 4-5 ปีก่อนหน้า แล้วจะเห็นได้ว่าเป็นหนังคนละม้วน ที่กองทัพกับก้าวไกลและเพื่อไทย “ตั้งป้อม” เผชิญหน้ากัน ขีดเส้นแบ่งเป็นฝ่ายเผด็จการ กับประชาธิปไตย ส่วนเนื้อในจะเป็นอีกหนึ่งผลผลิตแห่ง “ดีล” ที่มีตัวละครในโครงสร้างอำนาจอยู่เบื้องหลังหรือไม่ รอเวลาเคลียร์ให้ทุกปมสลัดหลุดพันธนาการแห่งปัญหา เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ เมื่อปิดจ๊อบกันแบบ วิน-วิน กันทั่วหน้า แบบที่ไม่มีสีไหนตกขบวน
พบปะกรรมาธิการความมั่นคง จบ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ก็เดินทางขึ้นเหนือไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ชายแดนกองทัพภาคที่ 3 ที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเลอตอ อ.แม่ระมาด จ.ตาก และศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่าภาค 3 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ทันที ปิดท้ายงานสัปดาห์นี้ และช่วยเปิดสัปดาห์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พล.อ.เจริญชัย ก็ประเดิมด้วยการเป็นประธานในงานกิจกรรมบริจาคโลหิต โครงการเติมโลหิตครั้งใหญ่ให้กาชาดไทย จัดโดยหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) ร่วมกับสภากาชาดไทย มี รด.จิตอาสามากกว่า 25,000 นายร่วมบริจาคโลหิต เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม 2566 และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้
เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ
เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม
จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!
ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก
ช่วงเค้าลางคดีสำคัญของนายกรัฐมนตรีก่อตัวในดวงเมือง
ขอพักการทำนายเค้าโครงชีวิตคนปี 2568 ไว้ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวที่รออยู่คือท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุล
ไม่สนใจใครจะต่อว่า เสียงนกเสียงกา...ข้าไม่สนใจ
ถ้าหากเราจะบอกว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงตำหนิ มีการนำเอาการพูดและการกระทำที่ไม่ถูกไม่ต้อง ไม่เหมาะไม่ควร
จาก 'น้ำตา' ถึง 'รอยยิ้ม' พระราชินี
ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา...ได้อ่านข่าวพระราชาและพระราชินีสเปน เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเยียนผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองปอร์ตา แคว้นบาเลนเซีย