เก็บตกการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันเสาร์ที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา ต้องชื่นชมรูปแบบการประชุมที่เปิดกว้างให้สังคมได้ติดตามความเป็นไปของ “ประชาธิปัตย์” ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแบบเรียลๆ
เห็นวินาที “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคลียร์ทุกข่าวลือ ต่อหน้าสส. และสมาชิกพรรคทุกคน ต้องยกนิ้วให้กับความแมน ไม่ต้องพูดแบบปากต่อปากให้ความจริงคาดเคลื่อน บิดเบี้ยวอีกต่อไป
ทั้งประเด็นเรื่องน้ำหนักโหวต 70:30 เรียกว่าตอกหน้าหงาย “อภิสิทธิ์” บอกว่า “การที่บอกว่าตัวเลข70:30ซึ่งเขียนในสมัยผม ถ้าไม่ดีทำไมไม่แก้ตอนนั้น ทำไม่ดีทำไมไม่แก้ตอนนั้น
ขอความกรุณากลับไปดูประวัติศาสตร์ ตัวเลข สัดส่วนต่างๆเปลี่ยนแปลงมาตลอด แต่ตัวเลข70:30เกิดขึ้นจากที่ขณะนั้นคำนวณว่าองค์ประชุมที่เป็นสส. หรืออดีตสส.มีจำนวน150คน แล้วคสช.เพิ่งยุบสาขาพรรคทั้งหมด เราต้องตั้งต้นทั้งหมด ต้องไปเริ่มจากรับบตัวแทนจังหวัดก่อน ตัวเลขที่ลงตัวที่สุดในขณะนั้นคือ70:30 ซึ่งทำให้คะแนนสส. และองค์ประชุมอื่นมีน้ำหนักไม่ต่างกันมาก แต่ให้สัดส่วนสส.มากหน่อย แต่สิ่งสำคัญที่หลายคนไม่พูดถึง คือ70:30เฉพาะตำแหน่งหัวหน้าพรรคไปหยั่งเสียงสมาชิกทั้งประเทศ”
หรือแม้แต่กระทั้งข่าวเม้าธ์ก่อนหน้านี้ว่า “อภิสิทธิ์” ไม่ยอมคุยกับ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” ในฟอร์วันนั้น“อดีตหัวหน้าพรรค”ไม่ปล่อยผ่าน ทำหน้าขึงขังท้า “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย พักการประชุมแล้วไปคุยกันสองต่อสอง
“มีการพาดพิงว่าผมไม่ยอมคุย ผมขอยืนยันว่าถ้าใครไปพูดอย่างนั้น ไม่จริง หลายคนพยายามพูดว่าให้คุยกัน แต่ได้รับการปฏิเสธ ผมก็ไม่กล้าสอบถามเหตุผลถึงการปฏิเสธไม่พูดคุย แต่คำตอบชัดคือไม่คุย ฉะนั้นวันนี้เมื่อนายชวน เสนอชื่อผม ผมถามท่านรักษาการหัวหน้าพรรค พักการประชุมแล้วคุยกับผมไหม” อดีตหัวหน้าพรรค ชี้แจง
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ทำให้ “อภิสิทธิ์” ลาออกจากสมาชิกพรรคก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าคืออะไร แต่ที่คาดการกันไว้ “น่าจะ” มาจากการที่“เฉลิมชัย”จะนำพรรคเข้าร่วมเป็นรัฐบาล ซึ่งขัดกับจุดยืนของ “อภิสิทธิ์” ดังนั้น เมื่อไม่เห็นด้วยจึงประกาศไขก๊อก
ทว่า ก็ยังไม่มีใครล่วงรู้ความลับที่เขาทั้งสองคนพูดคุยกัน รู้แต่เพียงว่าการเปิดหน้าปะทะของ “อภิสิทธิ์” ครั้งนี้ แถวบ้านเรียก “คนจริง” ในทางการเมือง การรักษาสัจจะ รักษาคำพูด ประชาชนทั่วไปย่อมให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ.
มินนี่ เม้าธ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ออร่าจับมาก
ในบรรดาเสนาบดีหน้าใหม่ หรือทายาททางการเมืองที่โดดเด่น นาทีนี้หลายคนยกให้ รมต.ดีดา-ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกสาวในไส้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย
“ไม่ต้องรอมติพรรค”
“ คนท้องถิ่น...คนศรีสะเกษ... “คนบ้านเดียวกัน” ถือสโลแกนหาเสียงของ “นายกฯส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามกลุ่ม “คนท้องถิ่น” และยังเป็นคุณพ่อของ “เลขาฯกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ทันเกมทักษิณ
โบราณว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” จริงที่สุด ดูการเมืองเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
“เดี๋ยวก็หายไปแล้ว”
ช่วงนี้คนกรุงเทพฯ ตื่นเต้นเป็นพิเศษ อากาศตอนเช้าอุณหภูมิประมาณ 20 องศา ถือว่าเป็นอากาศเย็นสบายๆ
หัวหน้าแก๊งเด็ก
พร้อมลุยงานกันต่อในปี 2568 สำหรับทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้อนรับปีใหม่ด้วยการตีปี๊บข่าวสารด้านต่างๆของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม โดยเฉพาะ “รองฯโบ๊ต” อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากค่ายกล้าธรรม (กธ.) ที่ล่าสุดรีบแจ้งข่าวสารถึงเกษตรกรไทย
ไร้บอดี้การ์ด
ต้อนรับปีใหม่ปีงู 2568 แล้ว แต่ภารกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังคงเข้มข้นเช่นเดิม หลังเห็นรีวิวส่งท้ายปีของ รทสช. ที่บอกว่า พร้อมพังทุกอุปสรรค เพื่อประโยชน์ชาติ ทั้งพัง..การผูกขาด, พัง..ระบบที่เน่าเฟะ และพัง..การโกงกินทุกรูปแบบ พร้อมผลิตเสื้อพรรคสีน้ำเงิน สกรีนข้อความ “พัง! เพื่อประโยชน์ชาติ” ให้ได้เห็นกัน