จีนมีท่าทีต่อสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสอย่างไร เป็นประเด็นที่น่าสนใจเป็นพิเศษ
เพราะปักกิ่งพยายามเล่นบท “ผู้ใหญ่” และหาทางเป็น “ผู้ไกล่เกลี่ย” ด้วยการนัดหมายผู้นำประเทศอาหรับหลายประเทศไประดมสมองกันที่ปักกิ่งอย่างเปิดเผย
การเน้นว่าจีนสนับสนุนให้มีการหยุดยิงทันที และเดินหน้าหาสันติภาพด้วยสูตร “Two-State Solution” สำหรับอิสราเอลและปาเลสไตน์
ยืนอยู่คนละฝั่งกับสหรัฐฯ
เพราะอเมริกาอยู่เคียงข้างอิสราเอลมาตลอด ขณะที่ถ้อยแถลงของจีนเน้นการเปิดโอกาสให้ปาเลสไตน์มีรัฐเป็นของตน
เว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศจีน ประกาศแถลงเอกสารว่าด้วยจุดยืนของจีนเพื่อแก้ไขการปะทะปาเลสไตน์-อิสราเอล โดยระบุว่า
การปะทะระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอลรอบนี้ยังผลให้ชาวบ้านบาดเจ็บลมตายจำนวนมาก คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแบกรับภาระหน้าที่สำคัญที่สุด ในการคุ้มครองรักษาสันติภาพกับความมั่นคงระหว่างประเทศ จึงควรแข็งขันแสดงบทบาทสร้างสรรค์ต่อปัญหาปาเลสไตน์-อิสราเอล ด้วยเหตุนี้จีนจึงมีข้อเสนอดังนี้
หนึ่ง-หยุดยิงและสิ้นสุดสงครามโดยสิ้นเชิง ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรปฏิบัติตามมติที่เกี่ยวข้องของสมัชชาสหประชาชาติ และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างแท้จริง เสร็จสิ้นการสู้รบเพื่อมนุษยธรรมอย่างยั่งยืน
สอง-ปกป้องชีวิตชาวบ้าน ต้องหยุดยั้งการโจมตีด้วยกำลังรุนแรงที่เจาะจงต่อชาวบ้าน และพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนกฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศทั้งสิ้น หลีกเลี่ยงการโจมตีสิ่งปลูกสร้างทางพลเรือน
สาม-ประกันความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม เปิดช่องทางให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมในฉวนกาซา ที่อนุญาตให้เข้าช่วยอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ไร้อุปสรรค และยั่งยืน ป้องกันไม่ให้เกิดภัยพิบัติทางมนุษยธรรมที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น
สี่-เพิ่มขีดการไกล่เกลี่ยด้านการทูต คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติควรแสดงบทบาทไกล่เกลี่ย และประสานงานที่ได้รับการมอบหมายจาก “กฎบัตรสหประชาชาติ” เรียกร้องทั้งสองฝ่ายให้ยับยั้งชั่งใจ หลีกเลี่ยงไม่ให้เพิ่มความรุนแรง คุ้มครองสันติภาพและเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
ห้า-แสวงหาวิธีการแก้ปัญหาทางการเมือง คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต้องขับเคลื่อนให้ฟื้นฟูกา
รเจรจา “ทางออก 2 ประเทศ (Two-State Solution)” เรียกจัดการประชุมเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศที่มีขนาดใหญ่ขึ้น อิทธิพลสูงขึ้น และมีผลงานแท้จริงมากขึ้นโดยเร็ว กำหนดตารางเวลาและ Roadmap ที่เป็นรูปธรรมเพื่อปฏิบัติตาม
“ทางออก 2 ประเทศ” ผลักดันให้แก้ไขปัญหาปาเลสไตน์-อิสราเอลอย่างรอบด้าน ยุติธรรม และถาวร
รัฐมนตรีต่างประเทศจีนย้ำด้วยว่า แนวทางสองรัฐเป็นวิธีเดียวที่จะแก้ไขประเด็นปาเลสไตน์ได้
“แนวทางสองรัฐ“ เป็นวิธีเดียวที่จะแก้ไขปัญหาพื้นฐานของชาวปาเลสไตน์ได้
“สิ่งที่ขาดหายไปในการยุติประเด็นปาเลสไตน์ไม่ใช่แผนการหรือสโลแกนที่ยิ่งใหญ่ แต่เป็นความกล้าหาญและการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อยืนหยัดเพื่อความยุติธรรม” หวัง อี้ กล่าว
“แนวทางสองรัฐคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับความยุติธรรมระหว่างประเทศ ไม่มีการถอยห่างจากสิ่งนั้น ความเป็นรัฐอิสระเป็นสิทธิระดับชาติของชาวปาเลสไตน์ที่ไม่อาจยึดครองได้ เป็นสิทธิที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนออกไปได้” เขากล่าวเสริม
“เมื่อเผชิญกับความอยุติธรรมทางประวัติศาสตร์ที่ชาวปาเลสไตน์ต้องทนทุกข์ทรมานมายาวนาน ไม่มีใครมีข้อแก้ตัวที่จะผัดวันประกันพรุ่ง และไม่มีเหตุผลที่จะนิ่งเฉย เมื่อพูดถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอนาคตของชาวปาเลสไตน์ ไม่มีประเทศใดมีสิทธิ์ยับยั้งความถูกต้อง” หวัง อี้ ย้ำ ปาเลสไตน์เป็นหัวใจสำคัญของประเด็นตะวันออกกลาง และจะต้องจัดลำดับความสำคัญในวาระระหว่างประเทศ แทนที่จะจัดลำดับความสำคัญ โดยสังเกตว่าเฉพาะเมื่อการแก้ปัญหาแบบสองรัฐได้รับการปฏิบัติอย่างเต็มที่เท่านั้น ตะวันออกกลางจึงจะมีสันติภาพอย่างแท้จริง
จีนเรียกร้องให้มีการจัดประชุมสันติภาพระหว่างประเทศที่มีขอบเขตกว้างขึ้น มีอำนาจมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อสร้างความเห็นพ้องต้องกันในการส่งเสริมสันติภาพ และจัดทำตารางเวลาและแผนงานที่เป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันให้เกิดการตั้งถิ่นฐานของชาวปาเลสไตน์ที่ครอบคลุม ยุติธรรม และยั่งยืน
จีนในฐานะประธานหมุนเวียนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในเดือนนี้ เห็นว่าความขัดแย้งปาเลสไตน์และอิสราเอลเป็นปัญหาเร่งด่วนที่สุดมาโดยตลอด คณะมนตรีความมั่นคงได้ผ่านมติที่ 2712 ในเดือนนี้
ในระหว่างการประชุม หวัง อี้ ได้พบกับนายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ นางทันยา ฟายอน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศสโลวีเนีย นาย เมาโร วีรา รัฐมนตรีต่างประเทศบราซิล และนายแซมบรี อับดุล คาดีร์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียตามลำดับ นอกจากนี้ ยังได้พบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มประเทศอาหรับและอิสลามพร้อมกัน ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ กาตาร์ ตุรกี อินโดนีเซีย เป็นต้น
ไม่ว่าจะเป็นสงครามยูเครนหรือการสู้รบในฉนวนกาซา จีนต้องการจะแสดงให้ประชาคมโลกเห็นว่า จุดยืนของปักกิ่งกับของวอชิงตันนั้นเป็นคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง
ปักกิ่งต้องการจะให้ทุกคนเห็นถึงบทบาทการเป็น “ผู้แสวงหาสันติภาพ”
ขณะที่อเมริกายังถูกมองว่าเป็น “ผู้กระหายสงคราม” เพื่อการดำรงไว้ซึ่งความเป็น “มหาอำนาจหมายเลขหนึ่งของโลก”
สองยักษ์ในเกมการเมืองระหว่างประเทศเป็นเรื่องใหญ่ที่จะมีผลต่อภูมิรัฐศาสตร์ระดับสากลอย่างแน่นอน
ล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา UAE เสนอข้อมติให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติสั่งให้มีการ “หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมทันที”
แต่สหรัฐฯ ให้สิทธิ์วีโตขัดขวางมตินี้ อังกฤษงดออกเสียง อีก 13 ประเทศที่เป็นสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงฯ เห็นพ้อง
ทำให้จีนออกมาโจมตีวอชิงตันว่าเป็นผู้ขัดขวางสันติภาพอย่างชัดเจน
สหรัฐฯ ใช้สิทธิ์วีโต (ซึ่งมีผลทำให้ข้อมตินี้ตกไป) โดยอ้างว่าการหยุดยิงในขณะนี้จะไม่ “สมจริง” และ “ไม่สมดุล" นั่นเป็นเพราะอิสราเอลต้องการจะใช้จังหวะการกลับมาเปิดศึกใหม่หลังพักรบ 7 วันเพื่อกวาดล้างฮามาสในฉนวนกาซาให้สิ้นซาก
จีนจึงชี้นิ้วกล่าวหาสหรัฐฯ ได้อย่างเต็มที่
เพราะความเห็นในประชาคมโลกขณะนี้มองว่า อิสราเอลที่สนับสนุนโดยสหรัฐฯ นั้นมีความ “กระหายสงคราม” โดยไม่สนใจว่าการเปิดศึกสงครามรอบใหม่จะทำให้พลเรือนปาเลสไตน์ต้องบาดเจ็บและเสียชีวิตอีกเป็นจำนวนมาก
คำว่า “มนุษยธรรม” ใช้ในสนามรบวันนี้ไม่ได้เสียแล้ว!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ