'โจทย์จากระนอง'

รัฐบาลเลือกจังหวัดระนอง เป็นสถานที่ประชุม ครม.สัญจรครั้งต่อไป ต่อจากจังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 4  ธ.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับเมืองระนอง แม้เป็นเมืองเล็ก แต่ร่ำรวยไปด้วยสถานท่องเที่ยวต่างๆ และทรัพยากรธรรมชาติอย่างมากมาย ไม่ว่าจะหมู่เกาะ ท้องทะเลอันดามันอันสวยงาม และเชื่อมต่อไปถึงทะเลของประเทศเมียนมา อีกทั้งอนาคตจะกลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของโลกอีกด้วย 

นอกจากนี้ ในทางการเมืองยังถือเป็นเหมืองหลวงของพรรคภูมิใจไทย โดยมี "สส.เอ" คงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์  สส.ระนอง พรรคภูมิใจไทย เป็นผู้รับผิดชอบดูแลพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง   

เบื้องต้น "สส.เอ" เปิดการบ้านให้รัฐบาลนำไปพิจารณา เพื่อมาแก้ปัญหาให้พี่น้องชาวระนอง ทั้งปัญหาความเดือดร้อนทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต  

 ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องจัดสรรที่ดิน จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง (อบจ.ระนอง) ที่กรมธนารักษ์ยังไม่ดำเนินการให้ประชาชนแล้วเสร็จ, ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก, ปัญหาน้ำกัดเซาะชายฝั่ง, พัฒนาท่าเทียบเรือ, แหล่งกักเก็บน้ำ, ปัญหากฎหมายประมงที่ยังล่าช้า และ ถนนเพชรเกษมสายเก่าหมายเลข 4 จำนวน 4 เลน ที่ต้องการให้ทำเชื่อมต่อไปจังหวัดพังงา แต่ขณะนี้ทำสิ้นสุดแค่ตัวเมืองระนองเท่านั้น ให้สอดรับแผนโครงการก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ หรือ "ไทยแลนด์ริเวียรา" เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ

ส่วนอนาคต ต้องการให้รัฐบาลผลักดันโครงการ "แลนด์บริดจ์" หรือ โครงการพัฒนาสะพานข้ามทะเล เพื่อเชื่อมโยงทะเลอันดามันด้าน จ.ระนอง กับอ่าวไทยด้าน จ.ชุมพร หลังพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายนี้ตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมา และนายกฯ เศรษฐาก็ขานรับด้วยมติ ครม.อนุมัติหลักการโครงการนี้ไปเมื่อวันที่ 16 ต.ค.  2566 และนำไปขายในเวทีโลกมาแล้ว  

"หากรัฐบาลดำเนินการสำเร็จ จะทำให้เมืองระนองเป็นศูนย์การค้าและคมนาคมขนส่ง จะเป็นแม่เหล็กใหม่ให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน ที่จะเกิดมูลค่าเศรษฐกิจมหาศาลต่อประเทศไทย และยังสร้างงานสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ชาวระนองและจังหวัดอื่นๆ อีกด้วย" สส.ระนอง  พรรคภูมิใจไทย กล่าวปิดท้าย   

นี่คือโจทย์ของรัฐบาล ที่ชาวระนองคาดหวังต่อการประชุม ครม.สัญจรครั้งต่อไป.

 ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ผมกำลังลื่น'

วันจันทร์ที่ผ่านมา ในการประชุมวุฒิสภามีวาระร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง โดยช่วงหนึ่งของการประชุมจะเห็นได้ว่ามี สว.เอาอวนดักปลาขึ้นมาประกอบการอภิปราย พร้อมปลากะตักแห้งที่เอามาเป็นตัวอย่างประกอบ

แจกสิทธิ์ 10 คนแรก

ต้องฝ่ากระแสร้อนแรงมาตั้งแต่ปลายปี 2567 สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทั้งกระแสพรรคแตก สส.ทยอยย้ายซบพรรคอื่น กระแสข่าวหัวหน้าพรรคถูกเขี่ยพ้นเก้าอี้รัฐมนตรี

ออร่าจับมาก

ในบรรดาเสนาบดีหน้าใหม่ หรือทายาททางการเมืองที่โดดเด่น นาทีนี้หลายคนยกให้ รมต.ดีดา-ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกสาวในไส้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย

“ไม่ต้องรอมติพรรค”

“ คนท้องถิ่น...คนศรีสะเกษ... “คนบ้านเดียวกัน” ถือสโลแกนหาเสียงของ “นายกฯส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามกลุ่ม “คนท้องถิ่น” และยังเป็นคุณพ่อของ “เลขาฯกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ทันเกมทักษิณ

โบราณว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” จริงที่สุด ดูการเมืองเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน