บันทึกหน้า 4

ต่อกันที่ นโยบายเปลี่ยน “เอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01” เป็นโฉนดที่ดินได้!!! ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุม ครม.สัญจรว่า ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา อนุญาตให้เปลี่ยนทั่วประเทศ 22 ล้านไร่ เป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จะทยอยเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนด ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.2567 เป็นต้นไป ดูผิวเผินเหมือนจะเป็นข่าวดี เพราะเมื่อกลายเป็นโฉนดได้แล้ว เท่ากับว่าเกษตรกรสามารถนำไปขายต่อ หรือนำไปค้ำประกันเงินกู้กับสถาบันการเงินได้ และในเชิงหลักการถือว่าดี แต่ในทางปฏิบัติผู้มีอำนาจทั้งรัฐบาลและเจ้ากระทรวงรับผิดชอบเรื่องนี้ “ธรรมนัส พรหมเผ่า” ทราบหรือแกล้งไม่ทราบว่า แม้เป็น ส.ป.ก. ชาวบ้านไม่น้อยยกที่ดินดังกล่าวให้กับนายทุนแล้วโดยเป็นสัญญาปากเปล่า เมื่อนโยบายนี้ออกมาก็ไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนกลุ่มนี้เท่าไหร่นัก แต่ที่เห็นผลเป็นรูปธรรมคงจะเป็นนายทุนที่กำลังลูบปาก เพราะจะได้ที่ดินเพิ่มอย่างถูกกฎหมายในราคาย่อมเยา แบบนี้รัฐบาลจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร หรือจะปล่อยให้เป็นเรื่องเตะหมูเข้าปากหมา อ้อ...สำนักเฝ้าระวังและประเมินสภาวการณ์ทุจริตของ ป.ป.ช. ที่มีมติให้เกาะติดนโยบายนี้เป็นพิเศษ มีความเห็นอย่างไรบ้างหรือไม่...๐

ตามด้วย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี “เจ๊แจ๋น” พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ปลุกผีกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง จ.เลย ถ้าจำไม่ผิดเคยเป็นประเด็นเมื่อนานมากแล้ว ตั้งแต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาวันนี้รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน จะสานต่อ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แม้จะบอกว่าเพื่อให้ทุกเพศทุกวัยได้เสพบรรยากาศธรรมชาติของภูก็ตาม ล่าสุด “อรยุพา สังขะมาน” เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร แสดงความกังวลว่า การก่อสร้างหากบริหารจัดการไม่ดีอาจกระทบต่อสัตว์ป่าและสภาพแวดล้อมได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ หากโครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงแล้วเสร็จ ขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวจะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวหรือบริหารจัดการอย่างไรเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เพราะอย่าลืมว่าอุทยานฯ เป็นบ้านของสัตว์ป่า จะทำอย่างไรไม่ให้คนเข้าไปรบกวนสัตว์ป่าและสภาพแวดล้อม ที่ผ่านมาโดยเฉพาะในช่วงเทศกาล อุทยานฯ ภูกระดึง และหลายอุทยานฯ ก็มีปัญหาในเรื่องนี้ ที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปจำนวนมาก และเกิดปัญหาทั้งในเรื่องขยะและปัญหาอื่นๆ ตามมา ฮะ..ฝาก “เจ๊แจ๋น สายมู” คิดต่อเป็นธุระจัดการ ถ้ามัวจะเอาแต่รายได้ แต่ไม่คิดถึงความยั่งยืนแบบนี้ก็เละซิทั่น เหมือนกับอุทยานฯ ทางภาคใต้ ใต้ทะเลสวยงาม มีสัตว์ มีปะการัง แต่ตอนนี้นักท่องเที่ยวหดเพราะธรรมชาติเสียหาย ซึ่งเกิดจากน้ำมือมนุษย์นั่นเอง...0

ปิดท้ายที่ “ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม” ที่พรรคก้าวไกลเสนอไว้ จะว่าไปการที่พรรคนี้จะขอความร่วมมือกับใครกลายเป็นเรื่องยากไปเสียหมด เพราะเล่นจะนิรโทษกรรมให้กับคดี ม.112 ด้วย ข่าวลือว่าที่ “ก้าวไกล” ไม่ยอมแตะ “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่เพื่อไทย ก็เพราะหวังให้ “บอสใหญ่” เมตตากดปุ่มไฟเขียวช่วยให้ร่างกฎหมายนี้ผ่านในสภา เมื่อวันนี้ทิศทางน่าจะแท้งแล้วเป็นแน่ เพราะรัฐบาลไม่เล่นด้วย อยากรู้จริงๆ ว่า “ก้าวไกล” จะแสดงท่าทีอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะบทบาทฝ่ายค้านที่เขาว่าเล่นไม่สมบทบาท ค้านสายตากรรมการจริงๆ...๐.

ปราญช์ศรี