เมื่อวาน ผมเขียนถึงความสัมพันธ์ของจีนกับฝ่ายต่าง ๆ ในพม่าที่มีความซับซ้อนพอสมควร พอได้นั่งแลกเปลี่ยนกับผู้เชี่ยวชาญพม่าเพิ่มเติมก็เห็นความละเอียดอ่อนของปัญหานี้อีกหลายด้าน
เป็นที่ทราบกันว่าจีนมีผลประโยชน์หลายด้านกับพม่าโดยเฉพาะด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ทำให้จีนต้องหาทางลงมหาสมุทรอินเดียได้อย่างคล่องแคล่วและปลอดภัยที่สุด
รัฐฉานเป็นประตูที่โยงชายแดนจีนเข้ามาเมืองใหญ่ของพม่าคือมัณฑะเลย์
ซึ่งเป็นระเบียงการค้าที่สำคัญสำหรับจีน
ที่น่าสนใจคือจีนมีความสัมพันธ์กับทั้งรัฐบาลทหารพม่าและกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์โดยเฉพาะกลุ่มว้าและโกก้างกับปะหล่อง
หรือกับการรวมตัวกันของ 3 กลุ่มที่เรียกว่า “พันธมิตรฝ่ายเหนือ”
ท้ายที่สุดจีนก็คงจะตัดสินว่าจะคบหาระดับความสัมพันธ์กับทุกฝ่ายบนพื้นฐานของผลประโยชน์ของจีน
จีนจึงจำเป็นต้องใช้นโยบาย “เดินไต่ลวด” ระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ในพม่า
คือไม่เป็นศัตรูกับฝ่ายใด แต่ขณะเดียวกันก็เตือนทุกฝ่ายว่าอย่าให้การต่อสู้ภายในพม่ามีผลกระทบต่อจีน
รวมถึงท่อก๊าซและท่อน้ำมันที่พาดผ่านดินแดนพม่าจากฝั่งตะวันตกในอ่าวเบงกอลไปถึงทางใต้ของจีน
เพราะนั่นคือ “เส้นเลือดใหญ่” ทางเศรษฐกิจของจีนที่จะยอมให้เสียหายไม่ได้
มิน อ่องหลาย, ผู้นำทหารพม่า, กล่าววันก่อนว่ามี “ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ” มาสนับสนุนกลุ่มชาติพันธุ์โดยเฉพาะที่มาในรูปของโดรนที่ถูกใช้ในการโจมตีเป้าหมายทางทหารของรัฐบาลทหารในช่วงหลังอย่างแม่นยำ
แม้ผู้นำทหารพม่าจะไม่ระบุว่า “ต่างชาติ” ที่ว่านี้คือชาติใด แต่ก็มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าโดรนที่กลุ่มต่อต้านใช้นั้นทำจากเมืองจีน
ส่วนรัฐบาลจีนจะรับรู้มากน้อยเพียงใดว่ามีการส่งมาช่วยกลุ่มชาติพันธุ์หรือไม่อย่างไรย่อมไม่ปรากฏเป็นข่าวทางการอย่างแน่นอน
แต่เป็นที่รู้กันมายาวนานว่ากลุ่มชาติพันธุ์โกก้างนั้นมีเชื้อสายเป็นจีนฮั่น
ซึ่งเป็นชาติพันธุ์หลักของจีนเหมือนกัน
อีกทั้งโกก้างก็เคยเป็นสมาชิกคอมมิวนิสต์ของพม่าซึ่งมีความเชื่อมโยงกับคอมมิวนิสต์จีนด้วย
เคยต่อสู้กับรัฐบาลกลางของพม่า และได้รับการสนับสนุนจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาก่อน
ฐานที่ตั้งทางทหารของโกก้างก็อยู่ตรงชายแดนจีน
เมืองที่โกก้างพยายามจะยึดครองก็เป็นส่วนหนึ่งของระเบียงเศรษฐกิจที่ผันออกจากชายแดนจีนที่เข้าสู่รัฐฉานทางภาคเหนือของพม่าประชิดกับเมืองสำคัญอย่างมัณทะเลย์
จึงไม่ต้องแปลกใจหากผู้นำกองทัพพม่าจะต้องมีความหวาดระแวงว่าจีนมีความสนิทสนมกับโกก้างมาช้านาน
แต่ในเมืองมิน อ่องหลายต้องพึ่งพาปักกิ่งทั้งด้านความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ, ด้านการทหารและการเมืองระหว่างประเทศ จึงไม่อาจจะเผชิญหน้ากับจีนในประเด็นเรื่องโกก้าง
นั่นคือมิติของภาคพื้นทวีปตอนใน
แต่หากจะมองไปในบริเวณชายทะเลที่รวมถึงเมืองย่างกุ้งและปากน้ำอิรวดี สายตาของนักการทหารพม่าจะระแวงสหรัฐฯ
มีความหวั่นเกรงว่าสหรัฐฯอาจจะใช้กำลังทางทะเลเพื่อบุกยึดเมืองชายหาดที่จะโค่นกองทัพออกจากอำนาจทางการเมือง
ในกรณีนี้มิน อ่องหลายมีความหวั่นวิตกไม่ต่างกับคิม จองอึนของเกาหลีเหนือที่เคยแสดงความประหวั่นพรั่นพรึ่งว่าวันหนึ่งอเมริกาอาจจะกระทำกับเขาเหมือนที่เคยทำกับซัดดัม ฮุสเซนแห่งอิรักหรือพันเอกกัดดาฟีของลิเบีย
นั่นคือการบุกเข้ายึดอำนาจและจับผู้นำ “เผด็จการ” ไปสังหารเสีย
ดังนั้น เราจึงกำลังเห็นสถานการณ์ที่ผันผวนปรวนแปรอย่างหนักในพม่าจนถึงขั้นที่สถานการณ์ของฝั่งรัฐบาลทหารแสดงอาการเพลี่ยงพล้ำอย่างเห็นได้ชัด
ข่าวหลายกระแสจากพม่าชี้ตรงกันว่าผู้คนกำลังมีความหวั่นไหวต่อความเป็นไปในพม่าอย่างมาก
เสียงซุบซิบของนักธุรกิจและผู้ไปมาหาสู่ระหว่างพม่ากับไทยและประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนก็เริ่มจะทำนายทายทัก “ฉากทัศน์” ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับอนาคตของมิน อ่องหล่าย
แวดวงการเมืองและธุรกิจกระซิบกันว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ก่อรัฐประหารนั้น รัฐบาลทหารพม่ามีรายได้จากพวกนอกกฎหมายที่หากินกับคาสิโนและคอลเซนเตอร์เพื่อชดเชยเงินทองที่หายไปเพราะถูกคว่ำบาตรจากตะวันตก
แต่เมื่อทางการจีนลงมือปราบปรามพวกผิดกฎหมายอย่างจริงจังถึงขนาดยกกองกำลังข้ามแดนเข้าไปจัดการถึงถิ่นทางเหนือของพม่า
อีกทั้งจีนก็ให้การสนับสนุนกองกำลังชาติพันธุ์ที่ต่อสู้กับกองทัพพม่า
รัฐบาลทหารพม่าก็เกิดปัญหารายได้หดหาย
อีกทั้งความสามารถของฝ่ายต่อต้านถูกยกระดับขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ทหารรัฐบาลถูกล้อมไว้เกือบทุกด้าน
ข่าวคราวเรื่องการที่พื้นที่ของประเทศถูกฝ่ายต่อต้านยึดได้มากขึ้นทุกที ทหารพม่าวางอาวุธและมอบตัวกับฝ่ายตรงกันข้ามเพิ่มขึ้นตามลำดับ
บางกระแสบอกว่ารัฐบาลกลางไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนทหารและข้าราชการบางหน่วยแล้ว
พ่อค้าบางรายบอกว่าค่าเงินจ๊าดของพม่าตกต่ำลงมาตามลำดับ
ก่อนรัฐประหาร อัตราแลกเปลี่ยนเงิน ทางการ
1 บาท เท่ากับ 30 จ๊าด ตลาดมืด 42 จ๊าด
1ดอลล่าร์สหรัฐ ทางการ 980 จ๊าด ตลาดมืด 1100 จ๊าด
แต่วันนี้ 1 บาท ทางการ 90 จ๊าด แต่ในตลาดมืดเท่ากับ 120-140 จ๊าด
ยิ่งถ้าเป็นเงินสกุลดอลล่าร์ด้วยแล้ว ราคาทางการกับตลาดมืดยิ่งจะทิ้งห่างกันหนักขึ้นอีก
วันนี้ ในตลาดเปิด 1ดอลล่าร์แลกได้ 1500 จ๊าด
แต่ในตลาดมืด อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลล่าร์แลกได้ 3,500-4,000 จ๊าด
และไม่ได้แลกได้ง่าย ๆ อีกด้วย ต้องมีเส้นมีสายพิเศษจึงจะสามารถแลกเป็นเงินดอลล่าร์ได้
นี่คืออาการใกล้จุดของวิกฤตที่ส่งสัญญาณ ใกล้ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หรือไม่
เป็นคำถามที่ร้อนแรงขึ้นทุกวัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ
แหล่งค้ามนุษย์ใน 3 เหลี่ยมทองคำ
เขตเศรษฐกิจพิเศษหรือ SEZ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่โยงกับไทยนั้นกลายเป็นประเด็นเรื่องอาชญกรรมข้ามชาติที่สมควรจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยอย่างจริงจัง
ไบเดนหรือทรัมป์? เอเชียน่าจะเลือกใครมากกว่า?
ผมค่อนข้างมั่นใจว่าการดีเบตระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ วันนี้ (เวลาอเมริกา) จะไม่ให้ความสำคัญต่อเอเชียหรืออาเซียน
พรุ่งนี้ ลุ้นดีเบตรอบแรก โจ ไบเดนกับโดนัลด์ ทรัมป์
ผมลุ้นการโต้วาทีระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 มิถุนายน) เพราะอยากรู้ว่า “ผู้เฒ่า” สองคนนี้จะมีความแหลมคมว่องไวในการแลกหมัดกันมากน้อยเพียงใด