“ผู้กำกับใหม่คงมีผู้ผิดหวังมากกว่าผู้สมหวังในห้องนี้ที่ขอตำแหน่งไป เพราะขอมาเยอะเหลือเกิน” นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมต.การคลัง กล่าวในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย 21 พ.ย.66 นี่เป็นกราฟฟิกของไทยรัฐออนไลน์ ซึ่งถอดมาแทบทุกถ้อยกระบวนความแบบไม่มีการตัดต่อ ซึ่งต้องบอกว่าข่าว ส่วนใหญ่ก็ออกแนวเชียร์และหนุน “รัฐบาลเพื่อไทย” มากกว่า “ด่า” เสียด้วยซ้ำ ฉะนั้นงานนี้ “เศรษฐา” จึงเรียกว่า “สีข้างถลอก” อย่างเห็นได้ชัด จากการออกมาปฏิเสธเรื่องการแทรกแซงแต่งตั้งตำรวจ ซึ่งอาจจะมีความผิดในหลายถ้อยกระทงความในหลากหลายกฎหมาย ...๐
“เศรษฐา” เอาสีข้างเข้าถูโดยให้สัมภาษณ์ในวันพุธที่ 22 พ.ย. ว่า “เราพูดเรื่องความ ไม่ได้พูดเรื่องคน ความคือมีปัญหาในพื้นที่ เราเองก็มาพูดกันถึงปัญหาในพื้นที่มากกว่า เอาเรื่องความเป็นหลัก ผมยืนยันอีกครั้งว่าผมไม่ได้ไปก้าวก่ายหรือไปสั่งการกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการแต่งตั้งผู้กำกับ และความจริงแล้วไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจของผมด้วย” พิโธ่ เรียกว่าข้างๆ คูๆ ของแท้ ...๐
ที่สำคัญเป็นเหตุ สังเกตได้ สส.ในพรรคเพื่อไทยไม่กล้าเอ่ยไม่กล้าแถในเรื่องนี้เลย เพราะรอดู “หัวขบวน” อย่างเศรษฐาให้สัมภาษณ์ก่อน เพราะหากพูดออกมาล่วงหน้าก็อาจจะไม่ตรงกันตามที่ “นายกฯ” พูดก็เป็นได้ งานนี้ก็คงเหมือนตัวตึงจากพรรคก้าวไกลอย่าง “สส.ใบพลู” รังสิมันต์ โรม บอกนั่นแลว่า เผลอแล้วแฉตัวเอง แต่จริงๆ ไม่ได้เผอเรออะไรหรอก เป็นความกร่างและปากพล่อย นึกว่าเป็นผู้นำประเทศแล้วจะทำอะไรก็ได้ เลยหลุดโชว์ความใหญ่ความเจ๋งออกมา ก็เหมือนกับ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่เคยพูดในเรื่องมากระซิบข้างหูนั่นแล ...๐
ไม่ใช่มีแค่ “เศรษฐา” เท่านั้นที่ออกอาการ “แถ” ขนาด “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.การคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเติมเงิน 10,000 บาทผ่าน Digital Wallet ซึ่งถูก “ปกรณ์ นิลประพันธ์” เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาบอกเล่าความจริงถึงเรื่องคำถามว่าด้วยการออกพระราชบัญญัติกู้เงิน 5 แสนล้านบาทที่ยังค้างเติ่งอยู่ที่คลังไม่ได้ขยับไปไหนนั้น ล่าสุด “จุลพันธ์” ก็บอกว่าไม่ยื้อ แต่ขั้นตอนวนเวียนรอการประชุมคณะกรรมการ และเมื่อมีการแถลงตัวเลขเศรษฐกิจของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ออกมา จึงต้องปรับแก้กันก่อนที่จะส่งคำถามให้กฤษฎีกา ...๐
พระเจ้าจอร์จ อ้างแบบนี้แล้วถ้า “ธนาคารแห่งประเทศไทย” ออกมาคาดการณ์เศรษฐกิจ หรือแม้แต่ “สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง” หรือ สศค. เองก็มีตัวเลขเศรษฐกิจเหมือนกัน ก็ต้องปรับแก้กันหรืออย่างไรมิทราบ แล้วตกลงว่าเป็นวิกฤตความจำเป็นเร่งด่วนตรงไหน เพราะอืดยิ่งกว่าเรือเกลือเสียอีก แล้วจะ “โทษ” จุลพันธ์คนเดียวคงไม่ได้ เพราะ “ขุนคลัง” อย่างเศรษฐาที่นั่งคร่อมเก้าอี้อยู่ก็ดูเหมือนไม่แยแสแต่ประการใด หรือการมานั่งควบเก้าอี้นี้เพียงเพื่อต้องการเซ็นแบงก์ เซ็นธนบัตรเก็บไว้เป็นที่ระลึก ว่าเคยเป็นนายกฯ และรัฐมนตรีคลังในวาระเดียวกัน เพราะงานแทบไม่เคยงอกจากเก้าอี้ รมว.การคลังเลย ...๐
งานนี้ไปๆ มาๆ รัฐนาวาแถแห่งชาติอาจตายน้ำตื้น ซึ่งไม่ใช่ประเด็นเงินกู้ 5 แสนล้านบาทที่อาจตกตั้งแต่ขั้นของกฤษฎีกา หรือไปตกในชั้นรัฐสภาก็ตามที แต่ที่ จะตายก็มาจากปากของนายกฯ ว่าด้วยตำแหน่งผู้กำกับนั่นแล เพราะคำพูดที่ออกมานั้นชัดเจนไม่ต้องตีความ ในขณะที่ข้ออ้างของ “เศรษฐา” นั้น ก็ต้องบอกว่าเชื่อถือไม่ได้ งานนี้ “แพทองธาร ชินวัตร” คงอาจต้องเตรียมตัวนั่งนายกฯ หญิงคนที่ 2 ของประเทศเร็วกว่าที่คาดเสียแล้ว เพราะหากรอให้บรรดานักร้องมีการยื่นเรื่องไปถึงหน่วยงานต่างๆ มันอาจจะไม่จบที่ “เศรษฐา” ฮาราคีรีตัวเอง แต่จะลามไปถึง สส.ในพรรคเพื่อไทยในห้องประชุมทั้งหลายด้วย เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ...๐
หันมาดูเรื่องของการเปิดเผยบัญชีหนี้สินและทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกันบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มักจะเผยออกมาในแทบทุกวันศุกร์ ซึ่งล่าสุดในวันศุกร์ที่ 24 พ.ย.นี้ ก็มีแพลมออกมาแล้วที่จะเปิดเผยรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีรวม 18 ราย ซึ่งเรียกว่าเป็นเป้าสายตาของสาธุชนอย่างมาก เพราะมีทั้ง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” อดีตรองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งบรรดาคนอื่นๆ ที่เป็นตัวประกอบอีก งานนี้ขาฟัดลุงป้อมเรื่องแหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน คงจับจ้องกันแบบตาไม่กะพริบเช่นเดียวกับแนวร่วมเกลียด-กลัว “บิ๊กตู่” ที่จะจ้องตาเป็นมันเช่นกัน ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
22 พ.ย. ลุ้น ผลการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะ “รับ-ไม่รับ” คำร้องของ “ธีรยุทธ สุวรรณเกษร” ให้ “ทักษิณ ชินวัตร” และ “พรรคเพื่อไทย” หยุดพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง จาก 6 กรณี ดังนี้ หนึ่ง “ทักษิณ” ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว
บันทึกหน้า 4
ต้องเรียกว่า “พุธพิพากษา” ของแท้ โดยเฉพาะศาลอาญาที่ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 และมารดาผู้เสียชีวิตร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง “สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์” หรือ “แอม ไซยาไนด์” อายุ 36 ปี
บันทึกหน้า 4
ควันหลงการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ที่ นายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ. สังกัดพรรคเพื่อไทย (พท.)
บันทึกหน้า 4
สมรภูมิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ในวันที่ 24 พ.ย. ไม่เพียงแค่ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนในสนามท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการหยั่งกระแสของทั้งสองฝ่ายในเวทีใหญ่ทางการเมืองอีกด้วย โดยเฉพาะทัพแดงนั้นแพ้ไม่ได้
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันครึ้มฟ้าครึ้มฝนจากผลกระทบปลายๆแถวพายุหม่านยี่ เสียงฟ้าร้องฟ้าคะนองอาจจะไม่มี แต่เสียงอื้ออึง "ทักษิณ" กลับมาแล้ว
บันทึกหน้า 4
เสือกทุกเรื่อง! ตำแหน่งใหม่ที่ "นายใหญ่" เพื่อไทย ศาสดาเสื้อแดง ภูมิใจสถาปนาตัวเองกลางวงปราศรัยใหญ่เมืองอุดร หวังเฉไฉปัดข้อหาเจ้าของพรรคและครอบงำลูกสาว