นับถอยหลังนั่งรถไฟฟ้าสายสีชมพู

ฤกษ์งามยามดีในวันที่ 21 พ.ย.2566 เวลา 12.40 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริง โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร (กม.) โดยจะโดยสารรถไฟฟ้าขบวนพิเศษออกจากสถานีมีนบุรี (PK30) ไปยังสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (PK16) หลังจากนั้นจะเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการตลอดสาย 30 สถานี ตั้งแต่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01)-สถานีมีนบุรี (PK30) โดยไม่เก็บค่าโดยสาร (ฟรี) เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ก่อนจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์แบบเก็บค่าโดยสาร เริ่มต้นที่ 15 บาท สูงสุด 45 บาท ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.2566 คาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการมากกว่า 1 แสนคนต่อวัน

สำหรับ รถไฟฟ้าสายสีชมพูจะเปิดให้บริการในเวลาประมาณ 06.00-20.00 น. ซึ่งในวันที่ 21 พ.ย.2566 จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 13.30 น. ส่วนสัปดาห์ที่ 2 จะขยายเวลาการปิดให้บริการ โดยจะเปิดให้บริการในช่วงเวลาประมาณ 06.00-22.00 น. และสัปดาห์ที่ 3 เป็นต้นไปจะเปิดให้บริการในช่วงเวลาปกติประมาณ 06.00-24.00 น. อย่างไรก็ตาม บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทาน ได้เตรียมขบวนรถรองรับไว้ประมาณ 20 ขบวน ซึ่งจะนำมาใช้เดินรถวิ่งไป-กลับสลับกัน โดยสัปดาห์แรกจะปล่อยขบวนรถทุก 10 นาที และในสัปดาห์ถัดไปในช่วงเวลาเร่งด่วนจะปล่อยขบวนรถทุก 5 นาที

อย่างไรก็ตาม ในช่วงการเปิดทดสอบเดินรถเสมือนจริงในวันที่ 21 พ.ย.นี้ที่จะเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการฟรีนั้น จะเปิดเสมือนให้บริการตามปกติ โดยแต่ละสถานีจะพยายามเปิดให้บริการได้ทุกทางเข้า-ออก ซึ่งขณะนี้ NBM กำลังเร่งรัดงานก่อสร้างทางขึ้น-ลง 3 สถานี ได้แก่ สถานีแจ้งวัฒนะ 14 (PK11), สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ (PK12) และสถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ (PK13) รวมถึงทางเชื่อมเข้าศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ยอมรับว่างานอาจจะยังไม่เรียบร้อยทั้งหมด แต่รับรองว่าปลอดภัย อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าการเปิดให้ใช้บริการฟรีจะได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน เหมือนกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง

ขณะที่ อัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี รวม 30 สถานีนั้น ราคาเริ่มต้น 15 บาท สูงสุด 45 บาท ส่วนผู้สูงอายุ ราคาเริ่มต้น 8 บาท สูงสุด 23 บาท โดยราคาดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบของคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. แล้วเมื่อวันที่ 16 ต.ค.2566 และเป็นไปตามสัญญาฯ ราคาค่าโดยสาร ซึ่งอยู่ที่ 14-42 และเมื่อรวมกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในปัจจุบันจึงเป็น 15-45 (ข้อมูล ณ ม.ค.2566)

สำหรับบรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู เป็นรถไฟฟ้าโมโนเรลสายที่ 2 ที่จะเปิดให้เปิดบริการในประเทศไทย เป็นโครงการที่อยู่ในแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (M-MAP) มีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมต่อการเดินทาง ระหว่างพื้นที่กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก เขตมีนบุรี และ จ.นนทบุรี มีระยะทางให้บริการ 34.5 กิโลเมตร (กม.) รวมทั้งหมด 30 สถานี

นอกจากนี้ NBM ผู้รับสัมปทาน ได้มีการขยายเส้นทางเพิ่มขึ้นอีก 2 สถานี ระยะทาง 3 กม. ได้แก่ สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี (ชาเลนเจอร์ อาคาร 1) และสถานีทะเลสาบเมืองทองธานี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่อยู่อาศัยและทำงานอยู่ในเมืองทองธานีกว่า 300,000 คน รวมถึงผู้ที่เดินทางเข้ามาร่วมงานแสดงสินค้าและการประชุมที่มีกว่า 10 ล้านคนต่อปี ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2568

และยังเชื่อมต่อโครงข่ายระบบรางที่สำคัญอีกหลายเส้นทาง ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01), รถไฟชานเมืองสายสีแดง ที่สถานีหลักสี่ (PK14), รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (PK16) และรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี ที่สถานีมีนบุรี (PK30)

ดังนั้น โครงการสายสีชมพูถือเป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญของกระทรวงคมนาคม ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งและแก้ไขปัญหาจราจร ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ รฟม.เร่งรัดการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ให้สามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้โดยเร็ว เพื่อเติมเต็มโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน เชื่อมโยงการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นได้อย่างไร้รอยต่อ ยกระดับคุณภาพชีวิตและการเดินทางของประชาชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น.

 

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เร่งสปีดSMEไทยด้วยนวัตกรรม

เอสเอ็มอีไทยถือเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ แต่ในขณะเดียวกันกลับต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง และข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ซึ่ง กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ

ผนึกพลังพัฒนากำลังคน

ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”

ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%

ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน

เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่

ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน

องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส

‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม