กระบวนการผ่านร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนบาท นอกจากต้องผ่านกฎหมายหลายตัวที่เกี่ยวข้องกับวินัยการเงินการคลังของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเงินต่างๆ อีกทั้งยังมีกำแพงอีกหลายด่าน ไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะถอดใจก่อนหรือไม่ วุฒิสภา องค์กรอิสระ อาทิ กกต. ป.ป.ช. สตง. และศาลรัฐธรรมนูญเป็นด่านสุดท้าย
แต่เมื่อถามว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนใด และร่างเสร็จหรือยัง ถาม รมช.การคลัง "จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์" ก็บอกว่ายังไม่ได้ยกร่าง จึงต้องตีความกันว่า รัฐบาลเพื่อไทยคงรอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้แนะเรื่องข้อกฎหมายก่อน จึงจะมีการยกร่างออกมา
นอกจากนี้ปัญหาเรื่องข้อกฎหมายอีกประเด็นที่หลายคนกังขาโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทว่า ผู้ได้ประโยชน์สูงสุดอาจไม่ใช่ประชาชนเงินเดือนต่ำกว่า 7 หมื่นบาท และมีบัญชีเงินฝากไม่ถึง 5 แสนบาท แต่ผลประโยชน์สุดท้ายตกไปที่บรรดาเจ้าสัวค้าปลีกไม่กี่ตระกูลของประเทศนี้
ผ่านบรรดาห้างร้านค้าปลีกต่างๆ ที่อยู่ในระบบภาษี ที่ล็อกเงื่อนไขเอาไว้ ขณะที่ร้านค้าเล็กๆ แม้ว่าจะเข้าร่วมโครงการได้ แต่เมื่อไม่อยู่ในระบบภาษี ก็ไปแลกเงินดิจิทัลไม่ได้ อย่างมากก็ใช้สิทธิเงินหมื่นบาทไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค จากร้านสะดวกซื้อของเจ้าสัวอยู่ดี
จึงมีการวิจารณ์กันหนาหู รัฐบาลเพื่อไทยทุ่ม 5 แสนล้านประเคนให้บรรดาเจ้าสัวใช่หรือไม่ ล่าสุดทราบมาว่าบรรดาเครือข่ายและองคาพยพต่างๆ ของเจ้าสัว ส่งเสียงเชียร์และสนับสนุนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่น แบบสุดลิ่มทิ่มประตู โดยไม่สนใจว่าสุดท้ายหนี้จะตกอยู่ที่ประชาชนที่ต้องแบกเอาไว้ เรื่องนี้ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ และ รมว.การคลัง จะทราบหรือไม่
ถามกันให้แซ่ดว่า หากสุดท้ายร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทไม่ผ่านจะทำอย่างไร หลังนักวิชาการออกมาส่งเสียงให้แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง แม้ไม่มีกฎหมายเขียนไว้ก็ตาม ด้านหนึ่งคือ นายกฯ ยุบสภา และอีกกรณีคือ นายกฯลาออก
ส่วนจะเลือกทางนั้นไหน เข้าใจว่านายกฯ ไม่มีสิทธิ์เลือก เพราะผู้กำหนดชะตากรรมก็คือนายใหญ่ชั้น 14 อาจจะเลือกให้อยู่ต่อก็ได้ แต่หากเกิดกระแสกดดันมากๆ อาจจะให้ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ รัฐบาลไปต่อได้ โดยอาจ ดัน "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยขึ้นทำหน้าที่ แต่ก็มีความเสี่ยงเกิดขึ้นเช่นกัน หากขึ้นมาแล้วไม่ปัง ก็มีแต่ทรุด เอาไปขายเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ได้ และจุดอ่อนสำคัญคือ เป็นร่างทรงของนายใหญ่ ของแสลงฝ่ายอนุรักษนิยมเดิม ก็ยังกลับตัวไม่ได้
หรือนายใหญ่อาจเลือกแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคร่วมรัฐบาลมาขัดตาทัพก่อน เพื่อหลบกระแสความล้มเหลวของดิจิทัลวอลเล็ต แต่หนทางเลือกให้นายกฯ ยุบสภา ปิดประตูไปได้เลย เพราะหากเลือกตั้งในเวลานี้ บอกตามตรงกระแสยังสู้พรรคก้าวไกลไม่ได้นั่นเอง และนายกฯ นิดก็ไม่อยากเจอวิบากกรรมไล่หลังยามลงจากหลังเสือ
กลายเป็นหนังเรื่องยาว หลังอนุกรรมการรับฟังความเห็นเพื่อทำประชามติ ที่มี "นิกร จำนง" เป็นประธาน เตรียมเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นต่างเรื่องรัฐธรรมนูญ 60 ที่มีภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ พิจารณาเสนอแก้ไขมาตรา 13 ของ พ.ร.บ.ประชามติ ในการประชุมวันที่ 24 พ.ย.นี้
เพราะไม่ต้องการตกม้าตาย เนื่องจากกฎหมายเดิมวางกับดักสองชั้นเอาไว้ คือ ด้านแรกต้องมีคนมาใช้สิทธิ์เกินกึ่งหนึ่ง หรือ 23 ล้านคน จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 56 ล้านคน และด่านสอง ต้องมีเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ์ หรือ 13 ล้านคน ซึ่ง "นิกร" ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะผ่าน เพราะประชาชนอาจไม่มีส่วนร่วมและอินเรื่องรัฐธรรมนูญ หากเทียบกับการเลือกตั้งที่ประชาชนยอมเดินทางกลับภูมิลำเนามาใช้สิทธิ์ แถมยังมีแรงจูงใจอื่นๆ มากกว่าด้วย
ฉะนั้นหากไม่มีการแก้ไขกฎหมายประชามติ หากทำไปแล้วไม่ผ่านตั้งแต่ด่านแรกก็เท่ากับปิดฉากการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับไปในทันที และรัฐธรรมนูญ 60 จะมีความชอบธรรมมากขึ้นและยากในการแก้ไข ซึ่ง “นิกร" ยอมรับว่าเป็นประเด็นใหม่ที่เกิดขึ้น ส่วนใครจะมองเป็นวิธีเตะถ่วงหรือไม่ ก็คิดได้เช่นกัน.
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
จาก "หนู" หนึ่งเดียว กลายเป็นสอง ก่อนหน้านี้ถามกันทุกวันถึง 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของภูมิใจไทย ในงานแถลงนโยบาย "พูดแล้วทำพลัส" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชัดเจนว่า "อนุทิน ชาญวีรกูล" ฉายเดี่ยว โฆษกพรรคย้ำแล้วย้ำอีก
เข้าใจคนชายแดน
ถ้าเอ่ยชื่อ กวาง–ไตรศุลี ไตรสรณกุล นาทีนี้ หลายคนคงนึกถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหญิงของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ทำงานเงียบ สุขุม แต่เดินเกมเร็ว ไม่หวือหวา ทว่าจับงานอยู่หมัด
บันทึกหน้า 4
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงคุกรุ่นอยู่ต่อเนื่องอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ แม้วันที่ 24 ธ.ค.2568 จะเป็นวันแรกในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ในวาระพิเศษ
บันทึกหน้า 4
การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ไทยยังเหนือกว่าทุกด้าน สมรภูมิตามแนวชายแดน ทหารกล้าของเราบุกยึดพื้นที่คืนกลับมาเกือบเบ็ดเสร็จ ในเวทีสากล นานาชาติก็เข้าใจสถานการณ์ดี
บันทึกหน้า 4
บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0


