นักโทษอย่าเพิ่งดีใจ

"นับตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป..

ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Top News แต่อย่างใด นอกจากเป็นผู้ถือหุ้น จนกว่าจะขายหุ้นได้"

นี่..แกะจากลายมือเขียนของคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถานีข่าวท็อปนิวส์ ที่ได้ประกาศลาออกจากกรรมการบริษัท และทุกตำแหน่งที่เกี่ยวข้อง

ความจริงก็ไม่ควรจะแสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์อะไร เพราะการไป-การมาของผู้คนในแวดวงสื่อมวลชนนั้น มีให้เห็นอยู่เป็นปกติ

เพียงแต่ คุณสนธิญาณอาจเป็นสื่อดังที่อยู่ในความสนใจของผู้คน-สังคม เมื่อจู่ๆ มาลาออกจากตำแหน่งแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แฟนคลับ-ผู้ชมก็ให้รู้สึกช็อกไปบ้าง

เหมือนเช่นที่คุณปอง-อัญชะลี ไพรีรัก ลาออกไปก่อนหน้า ผู้คนก็สงสัย..เกิดอะไรขึ้น แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ไม่ว่าจะปากเจ้าตัว หรือจากปากเพื่อนพ้องน้องพี่ในท็อปนิวส์

กรณีคุณสนธิญาณก็ไม่น่าจะมีคำตอบสำหรับผู้ที่สงสัย นอกจากข้อความสั้นๆ.. “เนื่องด้วยทิศทางธุรกิจผมกับคณะบริหารไม่ตรงกัน” เท่านั้นที่แจ้ง!

แต่ในท่ามกลางความคลุมเครือ คุณต๊อบ-วุฒินันท์ นาฮิม ผู้ประกาศข่าวท็อปนิวส์ ได้โพสต์.. "ถ้าท่านเป็น FC ดูข่าว ไม่ได้ดูคน (หุ้นส่วน) มาอ่านต่อ

...ถ้ารักเหมือนเดิม สนับสนุนเหมือนเดิม ยังดูเหมือนเดิม ยิ่งอยากบอกว่า เรา (คนที่ยังอยู่) ยังทีมเดิม แนวการจัด/อุดมการณ์ยังคงเดิม ก็ขอให้ติดตามดูกันต่อ

แต่ละคนย่อมมีเหตุผล ไม่อาจไปก้าวล่วง ผมเองก็ไม่อยากให้ขาดใครไปหรอก

เมื่อสื่อที่ผมสังกัดมีประเด็นคลุมเครือ รู้สึกเคลือบแคลงสงสัย ผมในฐานะคนที่ยังอยู่ เห็นว่าหากชี้แจงได้ก็ควรแจงให้สมกับสโลแกนช่อง

ส่วนตัวขอยืนยัน จะนำเสนอข่าวตามความจริงอย่างที่เป็นมา ต่อให้เปลี่ยนผู้บริหารก็ไม่มีผล แต่ถ้าอุดมการณ์นั้นเปลี่ยนเราก็จำเป็นต้องจากกัน

ขอบพระคุณทุกท่านที่เป็นห่วง ถามไถ่กันมาเยอะด้วยความกรุณา เมตตาสนับสนุนกันมา ถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง เนื่องจากเงื่อนไขและทิศทางธุรกิจ หลายส่วนเป็นสัญญาที่ผูกมัดไว้ก่อน

อดทนหน่อยนะ สัญญาถ่ายทอดมวยจะหมดสิ้นปีนี้แล้ว มีคนคาดเดาต่างๆ นานาว่า เบอร์ 2 ออก เบอร์ 1 ลาออกไป เป็นเพราะไปอยู่ทีวีดิจิทัล ซึ่งไม่ใช่เป็นอย่างที่มีคนคาดเดาเลยครับ

แต่มันเป็นเรื่องของผู้บริหาร กรรมการ ผู้ถือหุ้น (ก็ชุดเดิมนั่นล่ะ) ต้องเป็นธุระจัดการ และต้องไม่กระทบต่อทิศทางข่าว

ช่องนี้ไม่ใช่ของใครคนหนึ่ง แต่ช่องนี้คือที่สุดของข่าวสารที่ทำให้รู้ความจริงทั้งด้านมืดและด้านสว่าง ทุกรายการต้องนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ตรวจสอบเรื่องทุจริตที่จะสร้างความเสียหายต่อบ้านเมืองตามบทบาทของสื่อมวลชน ไม่เอนเอียงให้พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง

เราพร้อมจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา หากจะแสดงความคิดความเห็น ต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง และช่วยกันโต้แย้งข่าวที่บิดเบือน

สรุปคือตอนนี้ยังไม่มีใครมาครอบงำเราได้ แต่ที่อาจเปลี่ยนแปลงบ้างคือ ผังรายการและเนื้อหาที่จะเข้มข้นขึ้น ดังนั้นมาร่วมติดตามพิสูจน์กันต่อไปนะครับ"

ครับ..แม้จะไม่ชัดเจน แต่ก็พอช่วยให้ทุเลา คลายความอึดอัดไปได้บ้าง ส่วนรัฐบาล-สามกีบ-ก้าวกาม เห็นจะต้องทนอึดอัดคับแค้นแน่นอกต่อไป

เพราะถึงไม่มีคุณสนธิญาณอยู่หน้าจอ..คนข่าวท่านอื่นก็ยังคงเข้มข้นข่าวอยู่ต่อไป..

นักโทษอย่าเพิ่งดีใจไปนา!.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขึ้นอยู่กับ“กรรม”แต่ละคน!

84 วันฝันร้าย! สุดท้าย คดีดิไอคอนกรุ๊ป อัยการฝ่ายคดีพิเศษมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม” คุณยุรนันทร์ ภมรมนตรี กับ “บอสมิน” คุณพีชญา วัฒนามนตรี ทุกข้อหา..

อหังการ-ขี้โม้เป็นนิสัย

เกิดอะไรขึ้น? เพื่อนคนหนึ่งถามผมหลังเห็นข้อความที่ “เสก โลโซ” โพสต์.. “ประกาศจากพี่เสก โลโซ เรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่นักดนตรีประจำสามารถนำเพลงไปร้องได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์

เก็บเชือกไว้ใช้เองเถอะ

“เส้นกูใหญ่.. ใครก็ทำกูไม่ได้ ใครก็เอากูไม่ลง เพราะกูใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่านายพล ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ใหญ่กว่า... ใหญ่กว่าทั้งหมด กูแบ็กดี

คิดถึงนักรบลุง

กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่.. มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?

เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก

เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน

นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?

ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..