บรรดาพวกหนูเล็กๆ เด็กๆ ตัวน้อยๆ...ไม่ว่าบางครั้ง บางครา อาจเป็นอะไรที่ น่าหยิก หรือ น่าถีบ อยู่มั่ง ตามประสาความ เฮี้ยว หรือความซุกๆ ซนๆ ของมัน แต่ถ้าลองมองลึกเข้าไปในดวงตา มองเห็นมือ-เห็นไม้ ประเภทกลมๆ-ป้อมๆ โตแค่พอๆ กับฝาหอยจุ๊บแจง ไม่ได้ถึงกับใหญ่เทอะๆ ทะๆ ระดับหอยมือเสืออะไรทำนองนั้น เพียงเท่านี้...ความรู้สึกอยากหยิก อยากถีบ ก็อาจสูญสลายหายวับไปง่ายๆ กลายเป็นความเข้าอก-เข้าใจถึงความไม่ประสี-ประสาของมันซะมากกว่า...
ไม่ใช่แค่เฉพาะเด็กที่เป็นมนุษย์-มนาอย่างเราๆ-ทั่นๆ เอาเลยก็ตาม จะเป็นลูกหมา ลูกแมว ลูกเสือ ลูกสิงโต ฯลฯ หรือลูกอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ ถ้าลองออกไปทางเด็กๆ แล้ว มันมักเป็นอะไรที่ น่ารัก-น่าเอ็นดู มากกว่าน่าหยิก น่าถีบ อย่างชนิดต้องยอมรับโดยมิอาจปฏิเสธ ไม่ว่าขณะที่มันดันหันไปเล่นขี้ เล่นเยี่ยว ทำของแตก ของหล่น หันไปตะปบหางแม่ กัดหางพ่อ แบบประเภทลูกหมา ลูกแมว ลูกเสือ ลูกสิงโต ฯลฯ ที่หนังสารคดีบางเรื่อง บางราว เขาถ่ายทำมาให้เห็น คือมันเป็นเพียง ความไม่ประสี-ประสา ไม่ใช่ความเฮี้ยว ความซุกซน ที่น่ารังเกียจ เดียดฉันท์ น่าเกลียด น่าชัง อะไรมากมาย เผลอๆ...อาจกลายเป็นสิ่งที่น่ารัก-น่าเอ็นดู ไปซะอีกต่างหาก...
ด้วยความไม่ประสี-ประสา หรือจะเรียกว่า ความบริสุทธิ์-ไร้เดียงสา ก็คงพอได้ ที่ทำให้กระทั่งพระศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ หรือ พระเยซูคริสต์ ท่านถึงกับตรัสเอาไว้ว่า ผู้ใดก็ตามที่มีโอกาสเข้าสู่อาณาจักรพระเจ้า หลังจากเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะเท่งทึง ลงไปแล้ว ก็คือผู้ที่ต้องมี ความบริสุทธิ์ แบบเด็กๆ ติดมือ ติดปลายนวม เอาไว้ด้วยไม่มาก-ก็น้อย เพราะมันเป็นตัวที่ทำให้ดวงวิญญาณแต่ละดวง มีความซื่อ ความใส ความสะอาด-บริสุทธิ์ แบบเดียวกับความรู้สึกขณะที่เรามองลึกลงไปในดวงตาของพวกเด็กๆ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ หรือเป็นสัตว์เดียรัจฉาน อะไรทำนองนั้น...
ความเป็นเด็ก...มันจึงมีคุณค่า ราคา อยู่ภายในตัวของมันมิใช่น้อย ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะไปหยิก ไปถีบ ไปกระทืบ หรือไปกระทำย่ำยีอย่างหนึ่ง-อย่างใด โดยปราศจากเหตุผล โดยความโกรธ ความเกลียด เคียดแค้น อาฆาต พยาบาทและชิงชัง แม้บรรดาเด็กๆ มันไม่อาจตอบโต้ แก้แค้น เอาคืน อะไรก็ตาม แต่ก็นั่นแหละ...ช่วงระหว่างนี้ ดันมี มนุษย์ กลุ่มหนึ่ง ที่คิดว่าผู้ที่ไม่ได้เป็นพวกเดียว กลุ่มเดียว เผ่าพันธุ์เดียวกับตน หรือบรรดาพวก ชาวปาเลสไตน์ ทั้งหลาย เป็น Animals ไม่ได้เป็นมนุษย์มนาแบบบรรดาลูกหลาน ชาวยิว แต่อย่างใด ก็เลยไม่ได้มีความรู้สึก-รู้สาถึงคุณค่า ราคา แห่งความเป็นเด็กเหล่านี้เอาเลยแม้แต่น้อย การประหัตประหารเพื่อแก้แค้น-เอาคืน พวกนักรบปาเลสไตน์ที่เรียกว่า ฮามาส ซึ่งบุกเข้าไปเล่นงาน โจมตีชาวอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เลยต้องมาลงกับเด็กๆ ชาวปาเลสไตน์กันจนได้!!!
นั่นก็คือ...การทิ้งระเบิดแบบปูพรม เพื่อเข่นฆ่า ล้างผลาญ อะไรก็ตาม ภายในพื้นที่ประมาณ 365 ตารางกิโลเมตร อันแออัดยัดเยียดไปด้วยผู้คนประมาณ 2.1 ล้านราย อย่างชนิดไม่ได้คำนึงถึงความเป็นเด็ก เป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้หญิง เป็นคนแก่ คนชรา หรือเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วยเลย ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตที่เป็นชาวปาเลสไตน์ทั้งหลาย ตายไปแล้วไม่น้อยกว่า 8,000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นพวกเด็กๆ เกือบครึ่งต่อครึ่ง หรือตายไปวันละ 400 ศพเป็นอย่างน้อย ด้วยปริมาณระเบิดจำนวนไม่น้อยไปกว่า 6,000 ตัน ในช่วงเวลาแค่ไม่กี่วันเท่านั้นเอง พอๆ กับการทิ้งระเบิดใส่ประเทศอัฟกานิสถานทั้งประเทศ ของกองทัพอเมริกันภายในช่วงเวลา 1 ปี เอาเลยก็ว่าได้...
ภาพเด็กๆ ชาวปาเลสไตน์...ที่อายุแค่ไม่กี่ขวบ ต้องแขนขาด ขาขาด ไม่ก็นอนร้องครวญครางอยู่ในเปลสนาม เรียกหาแม่ หาพ่อ ของตัวเอง ที่อาจตายไปเรียบร้อยแล้ว จึงกลายเป็นภาพที่แทบ ลบไม่ออก ไปจากความรู้สึกของผู้ที่เผลอไปดูคลิปวิดีโอว่าด้วยการทำลายล้าง การปฏิบัติการตอบโต้-เอาคืนของกองทัพอิสราเอลต่อพวกนักรบฮามาส ชนิดที่เจ้าหน้าที่สหประชาชาติผู้มีหน้าที่ช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ ทางด้านมนุษยธรรมต่อมวลมนุษย์ทั้งหลาย ถึงกับต้องตัดสินใจ ลาออก จากตำแหน่ง หน้าที่ตัวเอง เนื่องจากไม่อาจช่วยเหลือ เยียวยา อะไรได้อีกแล้ว...
อันนี้นี่แหละ...ที่แทบไม่น่าเชื่อ แต่ก็คงต้องเชื่อ ว่ายังมีผู้ที่เรียกตัวเองว่า มนุษย์ แต่กลับมองไม่เห็นถึงคุณค่า ราคา ของพวกเด็กๆ ที่เพียงแค่ไม่ใช่ลูกๆ หลานๆ ของตัวเอง การสังหารหมู่ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ จึงเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของชาวโลก ของรัฐบาลอเมริกัน-ยุโรป ที่แห่ไปสนับสนุนรัฐบาลและกองทัพอิสราเอล ให้เข่นฆ่า ล้างผลาญใครก็ได้ โดยถือเป็น สิทธิในการป้องกันตนเอง ชนิดอะไรมันจะโหดเหี้ยม อำมหิต ไร้จิต ไร้วิญญาณ ไร้ความรู้สึก ฯลฯ เท่านี้ย่อมไม่มีอีกแล้ว!!! หรือหนักเสียยิ่งกว่า สัตว์เดียรัจฉาน อย่างที่คุณปู่ William Shakespeare ท่านเคยรจนาเอาไว้ในเรื่อง Richard 3 นั่นแหละว่า... “No beast so fierce but knows some touch of pity, but I know none, and therefore am no beast.” หรือแม้แต่สัตว์เดียรัจฉานที่ดุร้ายยังรู้จักความเมตตา แต่ด้วยเหตุเพราะข้าฯ ไม่รู้...ข้าฯ จึงไม่ใช่สัตว์เดียรัจฉาน อันส่งผลให้ มาตรฐานความเป็นมนุษย์ ของพวกผู้มีอำนาจในโลกตะวันตก มันเลยตกต่ำ เสื่อมทราม ลงไปทุกที...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้
เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ
เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม
จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!
ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก
ช่วงเค้าลางคดีสำคัญของนายกรัฐมนตรีก่อตัวในดวงเมือง
ขอพักการทำนายเค้าโครงชีวิตคนปี 2568 ไว้ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวที่รออยู่คือท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุล
ไม่สนใจใครจะต่อว่า เสียงนกเสียงกา...ข้าไม่สนใจ
ถ้าหากเราจะบอกว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงตำหนิ มีการนำเอาการพูดและการกระทำที่ไม่ถูกไม่ต้อง ไม่เหมาะไม่ควร
จาก 'น้ำตา' ถึง 'รอยยิ้ม' พระราชินี
ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา...ได้อ่านข่าวพระราชาและพระราชินีสเปน เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเยียนผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองปอร์ตา แคว้นบาเลนเซีย