“เป็นคนให้ได้ก่อนค่อยเป็นผู้แทนประชาชน”
ไม่ต้องบอกหรอกนะหมายถึงใคร แต่ที่ต้องบอก คนพูด (ทวีต) ประโยคนี้คือคุณภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตบางซื่อ พรรคก้าวไกล
ซึ่งป่านนี้คนที่ถูกกล่าวถึงนั้น ถ้าไม่นั่งซดเหล้าเผาแค้น ก็คงนั่งดูหนังโป๊โดยไม่รู้สึกรู้สา รู้ร้อน-รู้หนาว ตามอารมณ์ “ขาหื่น” ผู้ไม่ยี่หระอะไร!
ก็..ขอขอบใจคุณภัทราที่ได้แสดงความรู้สึกและพูดตรงๆ แทนประชาชน ทั้งที่เลือกก้าวไกลและไม่ได้เลือก เพราะลำพังคนนอกพูดไป-วิจารณ์ไปก็เท่านั้น
แต่กับคนในพรรค-ในคอกเดียวกัน อาจจะพอกระตุก-กระตุ้นต่อมความละอาย ต่อมจริยธรรมของบรรดาขาหื่นทั้งหลายในหมู่คณะขึ้นมาได้บ้าง
ยิ่งเฉพาะข้อความจากอาจารย์ใหญ่ คุณปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ที่โพสต์..
“...ผลมติที่ออกมาวันนี้ นับว่าน่าผิดหวัง (แน่นอน ส่วนหนึ่งมาจากรัฐธรรมนูญไปบังคับว่าต้องใช้จำนวนถึง 3 ใน 4 ของจำนวน สส. และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งถือว่าสูงมาก)
แต่เรื่องแบบนี้ เมื่อทั้งคณะกรรมการวินัยของพรรค และทั้งคณะกรรมการบริหารพรรค มีมติว่ามีการกระทำความผิดร้ายแรงแล้ว
หาก สส.ผู้ถูกร้องรู้จักมาตรฐานใหม่ในทางการเมืองอยู่บ้าง รู้จักความรับผิดชอบต่อผู้เสียหาย พรรค เพื่อน สส.คนอื่น ผู้สนับสนุนพรรค และสังคมอยู่บ้าง
คิดถึงตำแหน่งหัวโขนที่พึ่งได้มาอย่าง สส. ให้น้อยลงบ้าง สส.ผู้ถูกร้องก็ควรแสดงความรับผิดชอบ
โดยไม่ต้องมาถึงวันนี้ที่พรรคต้องใช้กลไกตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ที่ประชุม สส.ต้องมาลงมติ
เหตุการณ์คราวนี้ดำเนินมาถึงตอนนี้ ไม่มีใครได้ มีแต่เสียกันทุกฝ่าย
ผู้ร้อง ผู้เสียหาย ถูกกระทำ และถูกกระทำซ้ำอีกทุกครั้งเมื่อต้องชี้แจงหรือถูกสื่อตามสัมภาษณ์ และถูกกระทำซ้ำๆ อีก เมื่อไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ
พรรคก้าวไกลเสียหาย ถูกโจมตี วิจารณ์ ไม่ใช่แค่กรณีเรื่องการคุกคามทางเพศเท่านั้น แต่ยังทำให้ประชาชน พ่อแม่ผู้ปกครอง ไม่ไว้ใจ ไม่มั่นใจ
ที่จะให้ลูกหลานของเขาได้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นอาสาสมัครหรือทำงานกับคนของพรรค
สส.ผู้ถูกร้อง เมื่อไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ก็จะถูกตำหนิประณามไปตลอด อนาคตทางการเมืองน่าจะไปต่อได้ยากมาก
สส.ในพรรคต้องมาประชุม อภิปราย ลงมติ เกิดความแตกแยก กินแหนงแคลงใจกันในพรรค
พนักงานพรรค ทีมงาน เสียความเชื่อมั่น ความนับถือในตัว สส. ไม่อยากปฏิบัติงานให้อีกต่อไป เสียกำลังใจและหมดพลัง
ทั้งหมดนี้ คือ ผลพวงจากการไม่กล้าเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างตรงไปตรงมา ไม่กล้ายอมรับผิด ไม่กล้าแสดงความรับผิดชอบ
เช่นเคย ผมเห็นมี สส.ไม่กี่คน ส่วนมากเป็น สส.หญิง ที่แสดงออกถึงความไม่พอใจ ไม่เห็นด้วย แสดงความรู้สึกออกมา แต่ระดับนำ แสดงออกน้อยมาก หรือแทบไม่มี”
นี่..ก็หวังว่า สส.หื่นที่มติพรรคแค่คาดโทษ (ไม่ไล่ออก) จะได้เกิดสำนึก ตัดสินใจลาออกเพื่อไม่ให้พรรคต้องพลอยมัวหมอง เสียหาย เสื่อมความนิยมมากไปกว่านี้
ไม่ต้องกลัวหรือกังวลจะไม่มีที่ไปสิงสถิต เพราะมีพรรคเป็นธรรมอยู่อีกพรรคที่จะคอยรับเลี้ยง สส.จากก้าวไกลที่ถูกขับด้วยความยินดี
ฉะนั้น ลาออกเสียวันนี้-พรุ่งนี้ อย่าให้คนในพรรคเขาซุบซิบ-นินทาจนเสียงลอดออกมาถึงข้างนอก
เพราะคำว่า.. “เป็นคนให้ได้ก่อนค่อยเป็นผู้แทนราษฎร”..
มันเหมือนเอา “น้ำกรดแช่เย็น” กรอกปาก..รู้ไหม?.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขึ้นอยู่กับ“กรรม”แต่ละคน!
84 วันฝันร้าย! สุดท้าย คดีดิไอคอนกรุ๊ป อัยการฝ่ายคดีพิเศษมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม” คุณยุรนันทร์ ภมรมนตรี กับ “บอสมิน” คุณพีชญา วัฒนามนตรี ทุกข้อหา..
อหังการ-ขี้โม้เป็นนิสัย
เกิดอะไรขึ้น? เพื่อนคนหนึ่งถามผมหลังเห็นข้อความที่ “เสก โลโซ” โพสต์.. “ประกาศจากพี่เสก โลโซ เรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่นักดนตรีประจำสามารถนำเพลงไปร้องได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์
เก็บเชือกไว้ใช้เองเถอะ
“เส้นกูใหญ่.. ใครก็ทำกูไม่ได้ ใครก็เอากูไม่ลง เพราะกูใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่านายพล ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ใหญ่กว่า... ใหญ่กว่าทั้งหมด กูแบ็กดี
คิดถึงนักรบลุง
กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่.. มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?
เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก
เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน
นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?
ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..