ปัจจัยลบฉุดคนไข้ต่างชาติ...ชะลอ

ดูเหมือนว่าในช่วงที่เหลือของปี 2566 ต่อเนื่องถึงปี 2567 รายได้คนไข้ต่างชาติ ซึ่งรวมคนไข้ต่างชาติที่ทำงานในไทย และคนไข้ที่เดินทางจากต่างประเทศเข้ามารับการรักษาของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) น่าจะเติบโตชะลอลง ส่วนหนึ่งเป็นผลของการทยอยปรับฐานสู่สถานการณ์ก่อนโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว กระทบต่อกำลังซื้อของคนไข้ต่างชาติบางส่วน

จากปัจจัยข้างต้นทำให้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า รายได้คนไข้ต่างชาติรวมของโรงพยาบาลเอกชนในปี 2567 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 5.7 หมื่นล้านบาท ขยายตัวราว 8.0-10.0% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นับว่าเติบโตชะลอลงเมื่อเทียบกับปี 2565-2566 ที่ขยายตัวได้ดี ซึ่งเป็นการปรับฐานสู่สถานการณ์ก่อนโควิด-19 แต่ในระยะข้างหน้าก็ยังต้องติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ประกอบกับนโยบายดึงดูดนักท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างชาติของรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้และจำนวนคนไข้ต่างชาติในปี 2567 อีกด้วย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า รายได้จากคนไข้ที่เดินทางจากต่างประเทศน่าจะทยอยฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป และน่าจะมีสัดส่วนรายได้ในปี 2567 ราว 49% ของรายได้คนไข้ต่างชาติรวม ขณะที่สัดส่วนรายได้คนไข้ต่างชาติที่พำนักในประเทศไทยจะอยู่ที่ 51% ของรายได้คนไข้ต่างชาติรวม โดยจำนวนคนไข้ต่างชาติจะอยู่ที่ราว 3.07 ล้านคน/ครั้ง ซึ่งทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องจากช่วงโควิด-19 แต่ยังให้ภาพการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป

มาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่กำลังกดดันกำลังซื้อและการตัดสินใจเดินทาง โดยตลาดคนไข้จากต่างประเทศในปี 2567 ยังมีคนไข้หลัก 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.ชาวตะวันออกกลางที่มีความจำเป็นทางการแพทย์ และ 2.คนไข้ในอาเซียน นอกจากชาวกัมพูชาและเมียนมากลุ่มที่มีกำลังซื้อแล้ว ยังมีคนไข้เวียดนามและอินโดนีเซียที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ สำหรับการกลับมาของคนไข้จีนนั้นยังต้องติดตามประเด็นความเชื่อมั่นในการเดินทาง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่อาจส่งผลให้นักท่องเที่ยวบางส่วนชะลอการเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนคนไข้ต่างชาติที่อยู่ในไทยเดินทางกลับเข้ามาหลังโควิด-19 คลี่คลาย และมีโอกาสเติบโตในพื้นที่เศรษฐกิจ อย่างชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ แต่ยังต้องติดตามผลของนโยบายดึงดูดการลงทุนและการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของภาครัฐ จะมีผลต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของธุรกิจต่างชาติ และส่งผลต่อจำนวนคนไข้ต่างชาติที่อยู่ไทยในอนาคต 

นอกจากปัจจัยกดดันการเดินทางมารักษาพยาบาล มองไปข้างหน้าโรงพยาบาลเอกชนยังมีการแข่งขันสูง จากทั้งผู้เล่นรายใหม่ในประเทศที่ขยายธุรกิจสู่บริการทางการแพทย์มากขึ้น และการแข่งขันกับ Medical Hub ในภูมิภาคอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ อย่างไรก็ตามไทยก็มีการยกระดับบริการทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ อีกทั้งมีข้อได้เปรียบด้านค่ารักษาพยาบาลที่แข่งขันได้ นอกจากนี้ธุรกิจยังมีความท้าทายในการบริหารจัดการต้นทุนที่ยังยืนตัวสูง ซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ ความสามารถการทำกำไรของผู้ประกอบการแต่ละรายในระดับที่แตกต่างกัน 

จะเห็นได้ว่า ธุรกิจโรงพยาบาลที่ยังต้องพึ่งพารายได้จากต่างชาติยังคงมีความท้าทายในระดับหนึ่ง เนื่องจากในแต่ละประเทศก็ยังมีสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ให้ต้องติดตามกันอยู่ ทำให้กำลังซื้อที่เคยดีก่อนหน้า และทำให้ธุรกิจโรงพยาบาลเติบโตอยู่มาก อาจจะมีการชะลอตัวไปบ้าง และมีผลต่อการตัดสินใจเดินทางเข้ามายังประเทศไทย รวมถึงในแง่ของการแข่งขันเองก็ค่อนข้างรุนแรง มีผู้ที่ต้องการเข้ามาเล่นในตลาดเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับประเทศไทยยังนับว่ามีจุดแข็งและมีความพร้อมหลายด้าน ทำให้ยังสามารถแข่งขันกับธุรกิจโรงพยาบาลประเทศอื่นๆ ได้ และยังคงต้องจับตาดูภาพรวมของธุรกิจโรงพยาบาลในปีหน้าว่าจะมีทิศทางอย่างไร.  

 

รุ่งนภา สารพิน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความสำเร็จของแบรนด์กับการใช้Meta

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีประชากร 700 ล้านคน และมี GDP รวมประมาณ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เป็นตลาดที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก

หวยเกษียณแก้ปัญหาแก่ก่อนรวย

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือหวยเกษียณ ของกองทุนการออมแห่งชาติ ซึ่งนี่ถือเป็นโครงการที่รัฐบาลพยายามส่งเสริมการออมของประชาชนในประเทศ

เจ็บแล้วจบ

หลังการบริหารงานของรัฐบาลเศรษฐาได้เข้ามาเดินหน้ามาตรการประชานิยมลด แลก แจก แถม จัดเต็ม ตามที่สัญญากันไว้ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะนโยบายด้านพลังงาน ลดค่าไฟฟ้า

3แผนกรีนดันอุตฯไทยรักษ์โลก

เทรนด์รักษ์โลกยังมีมาอย่างต่อเนื่อง และตลอดปี 2567 ที่ผ่านมานี้หลายหน่วยงาน หลายบริษัทก็ยังไม่ทิ้งอุดมการณ์อันแรงกล้านี้ และยังแห่ประกาศแผนดำเนินงานเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมกันอย่างคึกคัก

เร่ง“ปรับ”ก่อน(ถูก)“เปลี่ยน”

ยอดขายรถยนต์ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา หลายคนคงตกใจ เพราะหดตัวลงถึง 23.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีแนวโน้มว่าทั้งปีจะหดตัวลงอย่างรุนแรงที่สุดในรอบ 15 ปี

เปิดไม้เด็ดธุรกิจขนาดเล็กสู้ในตลาด

หากย้อนเวลาไปเมื่อหลายปีก่อน ธุรกิจที่มีทุนหนาและมีส่วนแบ่งการตลาดมาก มักจะถูกมองว่าเป็น “ปลาใหญ่” ที่ได้เปรียบเหนือคู่แข่งที่ทุนน้อยกว่าซึ่งเปรียบเหมือน “ปลาเล็ก” จนเป็นที่มาของคำว่า “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” หนึ่งในข้อได้เปรียบที่เห็นชัดที่สุดคือ การมี Economy of Scale หรือ การประหยัดต่อขนาด ซึ่งหมายถึง การผลิตสินค้าหรือบริการในจำนวนที่มากพอที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำลง พูดง่ายๆ ก็คือ “ยิ่งผลิตมากขึ้น ต้นทุนการผลิตยิ่งลดลง และยิ่งคุ้มค่ามากขึ้น” โดยต้นทุนในการผลิตสินค้าหรือบริการจะแบ่งออกเป็น ต้นทุนคงที่ (fixed cost) และต้นทุนผันแปร (variable cost) ต้นทุนคงที่ คือ ต้นทุนที่ธุรกิจต้องจ่ายเป็นจำนวนคงที่ ไม่ว่าจะผลิตสินค้าหรือบริการในปริมาณเท่าใดก็ตาม เช่น ค่าเช่าพื้นที่ ค่าเครื่องจักรอุปกรณ์ ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ส่วนต้นทุนผันแปร