ถ้าโซลมี Seoul Metaverse เรากล้าคิดถึง Bangkok Metaverse ไหม?

มันคืออนาคตที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม และใครที่ไม่สนใจหรือไม่เข้าใจ และจงใจจะมองข้ามด้วยความกลัวหรือความรู้ไม่เท่าทัน ก็จะถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน

วันก่อนมีการประกาศจากรัฐบาลของกรุงโซล เมืองหลวงเกาหลีใต้ ว่าเขากำลังจะเป็น “เมืองหลวงแรกของโลกที่จะก้าวเข้าสู่ Metaverse”

นั่นแปลว่าต่อไปผู้คนสามารถสวมแว่นที่ใช้ VR (Virtual Reality) เข้าไปพูดคุยปรึกษาเจ้าหน้าที่ในโลกเสมือนจริงได้เลย

ทำไมผู้บริหารกรุงโซลจึงตัดสินใจเข้าสู่โลกเสมือนจริงอย่างฉับพลันเช่นนั้น?

คำตอบคือเขาเห็นประโยชน์และความสำคัญของการเป็น “ผู้เริ่มก่อนใคร” หรือ first-mover’s advantage

เพราะเกาหลีใต้ได้พิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่าว่า เขาเอาจริงเอาจังกับเทคโนโลยีเพื่อก้าวข้ามปัญหาต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างชาติ

ก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้พยายามจะวิ่งแข่งกับญี่ปุ่นทางด้านอุตสาหกรรม แต่ก็เผชิญกับข้อจำกัดมากมายสำหรับผู้มาทีหลัง

จนเขาค้นพบ “เส้นทางลัด” เพื่อวิ่งให้ทันญี่ปุ่นด้วยการกระโดดลงไปใช้เทคโนโลยีตัดกระบวนการผลิต และสร้างนวัตกรรมที่ในหลายกรณีก็สามารถช่วงชิงการนำเหนือคู่แข่งได้

วันนี้เกาหลีใต้ไม่ถือว่าตนเป็นผู้ตามหลังญี่ปุ่นอีกต่อไป

พอมาถึงเรื่อง Metaverse หากรัฐบาลเกาหลีใต้ยังกำลังศึกษาและวางแผนอยู่ รัฐบาลของเมืองหลวงที่บริหารโดยคนที่ประชาชนเลือกมาก็ตัดสินใจไม่รอช้า

ดูเหมือนว่า Metaverse จะไม่ใช่สิ่งที่เฉพาะภาคธุรกิจจะถือเป็นเรื่องจริงจังที่จะพัฒนาเท่านั้น

แต่ล่าสุดหน่วยงานของรัฐที่มองเห็นโอกาสก็เตรียมบุกเรื่องนี้อย่างคึกคักด้วยเช่นกัน

โดย "รัฐบาลกรุงโซล" หรือ The Seoul Metropolitan Government (SMG) ประกาศว่าจะเป็นเมืองใหญ่เมืองแรกที่เข้าสู่ Metaverse

ภายใต้ "Metaverse Seoul" (ชื่อยังไม่เป็นทางการ) รัฐบาลกรุงโซลมีแผนที่จะสร้างระบบนิเวศ หรือ ecosystem การสื่อสารเสมือนจริงสำหรับทุกพื้นที่ของการบริหารเทศบาลนครใหญ่แห่งนี้

นั่นย่อมรวมถึงเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว การศึกษา และการบริการประชาชน

ตามแผนงานที่ประกาศออกมาแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน รัฐบาลกรุงโซลจะใช้งบลงทุน 3.9 พันล้านวอนในโครงการนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผน Seoul Vision 2030

นายกเทศมนตรีชื่อโอเซฮุน บอกว่า โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้โซลเป็น “เมืองแห่งการอยู่ร่วมกัน เป็นผู้นำระดับโลก เมืองที่ปลอดภัย และเป็นเมืองแห่งจิตวิญญาณในอนาคต”

โดยหากโครงการนี้เป็นจริง ชาวโซลจะสามารถสวมชุดหูฟัง VR เพื่อพบกับเจ้าหน้าที่ของเมืองเพื่อขอคำปรึกษาแบบเสมือนจริงได้ในไม่ช้า

อีกทั้งยังเข้าร่วมสนุกสนานในเทศกาลต่างๆ ได้อย่างสะดวกและเสรี

ตามแผนที่วางเอาไว้นั้น SMG จะอำนวยความสะดวกและบริการสนับสนุนธุรกิจต่างๆ อย่างต่อเนื่อง     

รวมถึงสำนักงานนายกเทศมนตรีเสมือน, ห้องปฏิบัติการ FinTech ของโซล, Invest Seoul และ Seoul Campus Town บนแพลตฟอร์ม Metaverse

ผมลองศึกษาแผนการนี้แล้วพบว่าเขาเอาจริงกับการสร้างเมืองเสมือนจริงนี้อย่างยิ่ง

เพราะมีภาพของเมืองเสมือนจริงที่นอกจากจะมีศาลาว่าการกรุงโซลเพื่อให้บริการแล้ว ยังจะมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของโซล เช่น จัตุรัสควังฮวามุน (Gwanghwamun Plaza), พระราชวังท็อกซู (Deoksugung Palace) และตลาดนัมแดมุน (Namdaemun Market)

โดยสามารถจะเปิดตัวผ่าน Virtual Tourist Zone ด้วย

และตั้งแต่ปี 2023 เทศกาลขึ้นชื่อของโซล เช่น เทศกาลโคมไฟกรุงโซล จะจัดขึ้นใน Metaverse เพื่อให้ทุกคนทั่วโลกสามารถเพลิดเพลินได้

นอกจากนี้ SMG จะพัฒนาบริการสำหรับผู้ที่เปราะบางทางสังคม รวมถึงเนื้อหาด้านความปลอดภัยและความสะดวกสำหรับคนพิการ โดยใช้ Extended Reality (XR) อีกด้วย

นักวางแผนของเขาคิดทุกอย่างรอบคอบและรอบด้านจริงๆ

นี่ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่จะเอาชนะโลกแห่งความเป็นจริง ที่เกิดจากข้อจำกัดทางเวลาหรือเชิงพื้นที่ และอุปสรรคทางภาษา (รวมถึงสิ่งอื่นๆ) ผ่านแพลตฟอร์ม Metaverse ที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง

ผมเริ่มจินตนาการถึง Bangkok Metaverse บ้างแล้ว

อย่าหาว่าผมเพี้ยน!.