พอเกิดสงครามอิสราเอล-ฮามาสรอบใหม่ครั้งนี้ ความตึงเครียดในตะวันออกกลางก็ถูกยกระดับขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไม่เพียงแต่คู่แค้นอิสราเอลกับอิหร่านจะเริ่มส่งเสียงคำรามใส่กันเท่านั้น
แต่มหาอำนาจอย่างอเมริกา, รัสเซีย และจีนต่างก็ส่งกองเรือและฝูงบินมาประจำการแถบนี้ทันที
เหตุผลทางการคือการ “ลาดตระเวน” เพื่อป้องกันเหตุการณ์อันไม่พึงปรารถนา
แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือ การสกัดฝ่ายตรงข้ามและเพื่อแสดงการสนับสนุนพันธมิตรของตน
สหรัฐฯ ประกาศทันทีว่าจะส่งกองเรือสองกองใหญ่ ที่มีจ่าฝูงคือเรือบรรทุกเครื่องบินยักษ์สองลำ ประกบด้วยเรือรบ, เครื่องบินรบ และเฮลิคอปเตอร์พร้อมปฏิบัติการ
และที่มองข้ามไม่ได้คือ จะต้องมีหน่วยรบพิเศษที่พร้อมทำหน้าที่หากมีความจำเป็น
หากมองดูภาพประกอบนี้จะเห็นว่า นี่คือกองเรือรบที่ใหญ่ที่สุดที่เหล่าบรรดายักษ์ใหญ่มารวมตัวกันครั้งแรกในรอบหลายปีในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก
นอกเหนือจากกลุ่มโจมตีด้วยเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ สองกลุ่ม และกองกำลังโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกหนึ่งลำแล้ว เรือรบอื่นๆ หลายลำจากประเทศอื่นๆ ของ NATO ก็เข้าร่วมในกองกำลังของตนด้วย
วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของกองเรือรบขนาดใหญ่นี้ยังไม่ทราบ ความคิดที่ว่ากองกำลังรวมตัวกันเพื่อช่วยอิสราเอลปราบกลุ่มฮามาส
หรือเพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านและรัสเซียเข้าผสมโรงในสงครามครั้งนี้
บางคนบอกว่าอาจเป็นแค่การแสดงละครเท่านั้น นั่นหมายถึงเป็นการเบ่งกล้ามแสดงพลังทางทหารของสหรัฐฯ ให้ผู้คนเกรงขามอย่างเห็นได้ชัด
หากเป็นเช่นนั้นก็น่าสงสัยว่าจะประสบความสำเร็จ ในการข่มขู่เป้าหมายให้หวาดกลัวได้สำเร็จหรือไม่
ต่อมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียก็ออกปากวิพากษ์วอชิงตัน ว่าไม่มีเหตุผลอันใดเลยที่จะต้องส่งกองเรือใหญ่ขนาดนั้นมาประจำการแถวนี้
แต่เมื่ออินทรียักษ์ขยับ หมีขาวก็อยู่เฉยไม่ได้เช่นกัน
ปูตินประกาศว่า รัสเซียจะเริ่มตอบสนองทันทีเหนือน่านน้ำของทะเลดำ
โดยส่งฝูงบิน MiG-31 สกัดกั้นขึ้นน่านฟ้า และไม่ลังเลที่จะ “แจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน” ว่าเครื่องบินรบชุดนี้ติดขีปนาวุธต่อต้านเรือความเร็วเหนือเสียง Kinzhal ซึ่งมีระยะปฏิบัติการขยายไปถึง 2,000 กม.อีกด้วย
นักยุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เชื่อว่า อาวุธด้านการบินและอวกาศของรัสเซียที่ฐานทัพอากาศ Khmeimim บนชายฝั่งซีเรียคงกำลังถูกสั่งให้เข้าสู่โหมดปฏิบัติการอยู่ใน “ภาวะเตรียมพร้อมระดับสูง”
ซึ่งรวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะไกลที่มีศักยภาพระดับสูงยิ่งอีกด้วย
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ก็มีข่าวว่าจีนได้สั่งให้กองเรือ 6 ลำของตนเข้าสู่น่านน้ำในย่านนั้น
เพื่อทำหน้าที่ปกปักรักษาผลประโยชน์ของปักกิ่งและเพื่อสนับสนุนพันธมิตรหากมีเหตุจำเป็น
ทางการจีนบอกว่า กิจกรรมของกองเรือจีนในย่านนั้นเป็นภารกิจปกติ ไม่เกี่ยวกับสงครามรอบใหม่ในตะวันออกกลางเป็นการเฉพาะ
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีการตีความทันทีว่าปักกิ่งก็ไม่วางใจสถานการณ์ที่อาจจะกระทบตนเองเช่นกัน
ผู้นำจีนประกาศตั้งแต่ต้นว่า จีนต้องการเห็นการหยุดยิงและจะเสนอตัวเป็นคนกลางเพื่อนำไปสู่การเจรจาหาทางช่วยเหลือเหยื่อสงคราม มากกว่าที่จะต้องการเห็นการประหัตประหารอย่างรุนแรงของคู่กรณีขณะนี้
เท่ากับว่ายักษ์ใหญ่ทั้งสามได้มาปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ณ จุดที่เปราะบางที่สุดของโลกในวันนี้
ที่ว่าเปราะบางเพราะในภูมิภาคนี้นั้นกำลังมีความหวาดหวั่นกันว่า สงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสที่กำลังมี “ฉนวนกาซา” เป็นเดิมพันนั้นอาจขยายวงออกไปได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง
ในเลบานอนทางเหนือของอิสราเอล เป็นที่รู้กันว่ากลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเครืออิหร่าน มีขีปนาวุธต่อต้านเรือที่ยิงจากภาคพื้นดินซึ่งมีความแม่นยำค่อนข้างสูง
อาจเป็นไปได้ด้วยซ้ำว่า อิหร่านได้เพิ่มอำนาจการยิงขีปนาวุธของฮิซบุลเลาะห์ด้วยตัวอย่างที่ทันสมัยและก้าวหน้ามากมายในทุกประเภทของอาวุธ
เป็นที่รู้กันว่า ฮิซบุลเลาะห์ขึ้นชื่อว่าครอบครองขีปนาวุธและจรวดที่หลากหลายกว่า 150,000 รายการ
ซึ่งใช้โดยกองกำลังติดอาวุธประมาณ 50,000 นาย ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีและมีระเบียบวินัย
ไม่ใช่หน่วยรบที่ต้องไล่ต้อนได้ตามอำเภอใจของกองทัพอิสราเอล ที่แม้จะได้ชื่อว่าเป็นหน่วยติดอาวุธที่ทรงพลังที่สุดในย่านนี้ก็ตาม
แต่ที่น่ากังวลสำหรับชาวโลกก็คือ สิ่งที่เราเห็นอยู่ขณะนี้อาจกลายเป็นการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่สหรัฐฯ และพันธมิตร NATO จะไม่ยอมถอยออกไปอย่างรวดเร็วนัก
หายนะที่รออยู่ก็อาจจะมาจากการที่ต่างฝ่ายต่าง “ประเมินอีกฝ่ายหนึ่งต่ำไป”
นั่นหมายถึงการที่ฝ่ายหนึ่งอาจจะคำนวณศักยภาพของอีกฝ่ายหนึ่งมากไปหรือน้อยไป
จนทำให้เกิดการวางยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาด
นำไปสู่การเผชิญหน้าที่เกิดความเสียหายทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มิอาจแก้ไขได้ทันท่วงที
เพราะโลกวันนี้ไม่มีกลไกที่สามารถระงับยับยั้งสงคราม ที่อาจขยายตัวออกไปได้จนถึงจุดที่ “ไม่มีใครควบคุมได้”
เหมือนที่อิหร่านเตือนอิสราเอลว่า หากกองทัพยิวคิดผิดและตัดสินใจเข้ายึดครองฉนวนกาซา ด้วยการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกไปหมดเพื่อมายึดครองดินแดนแถบนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ “สถานการณ์ที่จะหลุดออกจากความสามารถของการควบคุมของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง”
แปลว่าอาจจะกลายเป็นสงครามภูมิภาคทั่วตะวันออกกลาง
หรือเลวร้ายกว่านั้น
นายกฯ อิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศให้กองทัพอิสราเอล “กวาดล้าง” ฮามาสแบบถอนรากถอนโคนที่ แปลว่าไม่ให้เหลือซาก
สำทับด้วยคำสั่ง Do or Die (“ตายกันไปข้างหนึ่ง”)
นั่นหมายความว่า สถานการณ์อาจจะบานปลายกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่มนุษย์มีอาวุธไว้ทำลายล้างซึ่งกันและกันร้ายแรงกว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 ร้อยเท่าพันเท่า!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ