“เห็นความเดือดร้อนประชาชนเป็นสำคัญ”
แรกๆ ได้ยินก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะรู้นิสัย-สันดานของคนเป็น สส.-นักการเมือง แต่เมื่อได้ยินประโยคนี้บ่อยครั้งจากปากคุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
ก็..เริ่มทำให้คิดและเกิดคำถาม..ถ้า “เห็นความเดือดร้อนประชาชนเป็นสำคัญ” จริงอย่างที่พร่ำพูด แล้วทำไมโครงการแสนสิริถึงได้ตั้งด่านเก็บค่าผ่านทางจนเป็นที่ฉาวโฉ่ล่ะหือ?
หรือว่าต่อมความรู้สึก “เห็นความเดือดร้อนประชาชนเป็นสำคัญ” ของคุณเศรษฐาเพิ่งจะทำงานเอาตอนได้นั่งเก้าอี้นายกฯ?
ถ้าอย่างนั้นช่วยกรุณารู้สึกต่อเถอะ เพราะการดันทุรังแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทให้กับคนรวย-คนจนทั้งๆ ที่นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ อดีตผู้ว่าฯ-รองผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคัดค้านนั้น..
มันส่อจะสร้างความเดือดร้อนประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญในวันข้างหน้า..เบาได้เบา หยุดได้-หยุดเสียดีกว่านะ!
และที่ไปปลุกเร้าชาวบ้าน.. “ท่านอย่ายอมให้คนที่ไม่เห็นด้วยโดยไม่มีเหตุผลมายับยั้งโครงการนี้ ถ้าชอบก็ขอให้พูดบ้าง ให้เปล่งเสียงออกมาบ้าง เรื่องลดค่าไฟค่าน้ำมันต้องพูด..” นั้น
ประทานโทษ..คุณวิรไท สันติประภพ ก็ดี ดร.ธาริษา วัฒนเกส ก็ดี รศ.ดร.อัจนา ไวความดี ก็ดี รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และ รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ก็ดี ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ก็ดี..
ท่านเหล่านี้น่ะเหรอที่ “ไม่เห็นด้วยโดยไม่มีเหตุผลมายับยั้งโครงการนี้”?
แล้วไหนเหตุผลของคุณเศรษฐาล่ะ เห็นพูดเป็นแผ่นเสียงตกร่องกันทั้งพรรค.. “คาดหวังจะกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้าให้ขยายตัว 5-6%” อยู่แค่เนี้ย!
นี่..พูดก็พูดเถอะ ถ้าไม่ถูกผีจำนำข้าวล้วงกินตับมาก่อน คนไทยก็จะไม่หลอน-ไม่กลัวถึงขนาดยอมไม่ขอรับเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทฟรีหรอก และขอบอกย้ำ (อีกที) คุณเศรษฐา..
รัฐบาลนายกฯ ลุงตู่ที่พวกท่านชี้หน้า “เผด็จการ” น่ะ ไม่ว่าจะโครงการโรงไฟฟ้ากระบี่ โครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” สู่เมืองต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ จ.สงขลา
รวมทั้ง..การถอนมติ ครม.เรื่องการแก้ไขกฎกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว
เมื่อมีเสียงคัดค้าน รัฐบาลลุงตู่ก็ได้รับฟังด้วยเหตุ-ด้วยผล ด้วยสติ ก่อนที่จะตัดสินใจ “ยอมถอย” โดยไม่ห่วงเสียหน้า-เสียฟอร์มแต่อย่างใด!
แล้ว..คุณเศรษฐาที่ประกาศกับชาวโลกว่าเป็น “รัฐบาลประชาธิปไตย” ทำไมไม่ยอมฟังเสียงประชาชน และยอมที่จะถอยบ้างล่ะ?
ที่สำคัญไม่ถอยไม่ว่า คุณเศรษฐายังไปปลุกระดมให้ประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยลุกขึ้นมาต่อต้านประชาชนฝ่ายที่คัดค้าน-ไม่เห็นด้วย..
อย่างงี้ อยู่ภายใต้รัฐบาล (ที่อ้าง) เผด็จการเสียจะไม่ดีกว่าหรือ?
ก็..สมควรที่คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จะตอกหน้าเอา.. “หากเกิดความเสียหายขึ้นในอนาคต จะไปโทษประชาชนหรือโทษคนอื่นไม่ได้
การไปปลุกประชาชนที่เห็นด้วย ให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับฝ่ายที่เห็นต่างจึงเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นการปลุกประชาชนออกมาชนกันแล้ว
ยังเหมือนไปเอาประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์กำบังความรับผิดชอบประชานิยมในอนาคตให้กับพรรคการเมืองและรัฐบาลด้วย ซึ่งคนมีวุฒิภาวะไม่ควรทำ”
เอ้า..ส่วนคุณตู่ จตุพร ยุส่ง.. “เมื่อจะแจกเงินดิจิทัลให้เป็นไปตามหาเสียงให้ได้ ก็เอาสิ คุณ (นายกฯ) ไม่ต้องฟัง ผู้ว่าฯ ธปท.เลย..
แต่สงสัยกับการสร้างบล็อกเชนใหม่ทำเพื่ออะไร ราคาจ้างทำเท่าไร การแลกเงินไปกลับใคร ได้เปอร์เซ็นต์จำนวนเท่าไร แล้วคุ้มหรือไม่กับการลงทุนในเวลา 6 เดือน..”
เฮ้อ.. “สุดซอย” อีกแล้ว..ไม่เข็ด!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขึ้นอยู่กับ“กรรม”แต่ละคน!
84 วันฝันร้าย! สุดท้าย คดีดิไอคอนกรุ๊ป อัยการฝ่ายคดีพิเศษมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม” คุณยุรนันทร์ ภมรมนตรี กับ “บอสมิน” คุณพีชญา วัฒนามนตรี ทุกข้อหา..
อหังการ-ขี้โม้เป็นนิสัย
เกิดอะไรขึ้น? เพื่อนคนหนึ่งถามผมหลังเห็นข้อความที่ “เสก โลโซ” โพสต์.. “ประกาศจากพี่เสก โลโซ เรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่นักดนตรีประจำสามารถนำเพลงไปร้องได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์
เก็บเชือกไว้ใช้เองเถอะ
“เส้นกูใหญ่.. ใครก็ทำกูไม่ได้ ใครก็เอากูไม่ลง เพราะกูใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่านายพล ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ใหญ่กว่า... ใหญ่กว่าทั้งหมด กูแบ็กดี
คิดถึงนักรบลุง
กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่.. มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?
เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก
เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน
นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?
ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..