'อาวุโส' เซอร์ไพรส์!

คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มี "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ก.ตร.พิจารณารายชื่อ ซึ่งปีนี้นายพลล็อตแรกมีตำแหน่งว่าง 24 เก้าอี้ แยกเป็น รอง ผบ.ตร. 3 ตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. 5 เก้าอี้ และ ผบช. 16 ตำแหน่ง

โฟกัสสำคัญน่าจะอยู่ที่เก้าอี้ "ผบช." ที่ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ กำหนดให้พิจารณาแต่งตั้งตามหลักเกณฑ์อาวุโส 50% อีก 50% ยึดความรู้ ความสามารถ ว่ากันว่ากลุ่มอาวุโสครึ่งหนึ่งจาก 16 เก้าอี้ว่าง คือ 8 เก้าอี้นั้น ปีนี้น่าจับตา น่าสนใจ อาจจะไม่เหมือนทุกๆ ครั้งที่มีการแต่งตั้ง ที่ส่วนใหญ่ "ผู้อาวุโส" จะถูกดันไปนั่งเก้าอี้ "ผบช.ประจำ" หรือไม่ก็ "จเรตำรวจ" แต่ในยุค "ผบ.ต่อ" อาจจะมีเซอร์ไพรส์เหล่าอาวุโส 8 ลำดับ มีโอกาสนั่งเก้าอี้หลัก เก้าอี้ตัวเลขหลายคน ทำให้ต้องนำชื่อ 8 ผู้อาวุโสที่ได้ขึ้น ผบช.แน่ๆ มาแปะเอาไว้ให้จับตาดูกันว่ามีใครได้นั่งเก้าอี้เกรดเอ เก้าอี้เกรดเอ+ กันบ้าง โดยรอง ผบช.เรียงตามลำดับอาวุโส 8 ราย ประกอบด้วย พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี รอง ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.ศ., พล.ต.ต.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น., พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต รอง ผบช.ตชด.

นับถอยหลังการปิดฉาก กองบังคับการตำรวจรถไฟ (บก.รฟ.) ที่จะต้องหยุดการปฎิบัติหน้าที่ในวันที่ 17 ต.ค. 2566 ซึ่งตรงกับวันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) "นิรุฒ มณีพันธ์" จัดพิธีสงฆ์และงานรำลึก 72 ปี กองบังคับการตำรวจรถไฟ เกียรติยศและความภาคภูมิใจของตำรวจรถไฟในการให้บริการประชาชน เพื่อเป็นการรำลึกถึง บก.รฟ.ที่จะยุติการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งผู้ว่าฯ รฟท.ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟ ภายหลังตำรวจรถไฟได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2437 ในชื่อ “กองตระเวนรักษาทางรถไฟ” ต่อมาได้จัดตั้งขึ้นเป็น “กองตำรวจรถไฟ” จนได้รับการเลื่อนสถานะเป็น “กองบังคับการตำรวจรถไฟ" จนมีประกาศราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 16 ต.ค. 2565 มีผลให้กองบังคับการตำรวจรถไฟ จะถูกยุบเลิกตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 เพื่อแยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ตามหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป

ข่าวดีสำหรับผู้ที่อยากเป็น "ตำรวจ" สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดรับสมัครและสอบแข่งขันบุคคลภายนอกเพื่อบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยเปิดรับกลุ่มผู้มีวุฒิปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต ตำแหน่ง รอง สว.(สอบสวน) เพศชาย/หญิง จำนวน 450 อัตรา กลุ่มผู้มีวุฒิปริญญาตรี ทางบัญชีหรือพาณิชยศาสตร์ ตำแหน่ง รอง สว.(ตรวจสอบภายใน) เพศ ชาย/หญิง จำนวน 20 อัตรา รอง สว.(บัญชี) เพศชาย/หญิง จำนวน 20 อัตรา กลุ่มผู้มีวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือเทียบเท่า ทางช่างยนต์ ช่างกล ช่างเครื่องกล ช่างไฟฟ้า ช่างไฟฟ้ากำลัง หรือช่างอิเล็กทรอนิกส์ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ช่างอากาศยาน) บ.ตร. เพศชาย จำนวน 30 อัตรา กลุ่มผู้มีวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (วิทยาการ) เพศชาย/หญิง จำนวน 100 อัตรา รับสมัครทางอินเทอร์เน็ตวันที่ 16 ต.ค.-6 พ.ย. 2566 สอบข้อเขียนวันที่ 21 ม.ค. 2567 ประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านข้อเขียนวันที่ 13 ก.พ. 2567...ใครสนใจเชิญ

เสร็จจากภารกิจที่กองบัญชาการกองทัพไทย ต้อนรับ “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม ที่กองบัญชาการกองทัพไทย แจ้งวัฒนะ “ผบ.ไก่” พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. ก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากดอนเมือง ไปลงที่โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อแถลงนโยบายประจำปีงบประมาณ 2567 พร้อมทำการถ่ายทอดการแถลงนโยบายผ่านระบบการประชุมทางไกล Video Tele Conference (VTC) และเผยแพร่ภาพสัญญาณผ่านระบบสื่อออนไลน์ ต่อกำลังพลของกองทัพอากาศ โรงเรียนการบิน และกองบินต่างๆ ภายใต้แนวคิดกองทัพอากาศที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ UNBEATABLE AIR FORCE รวมทั้งหมด 8 ด้าน ก่อนจะออกมาตอบคำถามสื่อแบบลงรายละเอียด

โดยมีทีมโฆษกที่ตั้งขึ้นมาใหม่พร้อมพูดคุยให้ข้อมูลเพื่อความเข้าใจที่ครบถ้วน การปรับเปลี่ยนตำแหน่งโฆษก  หลักๆ ก็คือ “อาจารย์อัน” พล.อ.ต.บุญเลิศ อันดารา รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช และรองโฆษกกองทัพอากาศ 2 คน พล.อ.ต.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย รองเจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ และ น.อ.วีรชน นรานุต ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักกิจการพลเรือนและประชาสัมพันธ์ กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ สำหรับผู้ช่วยโฆษกกองทัพอากาศ  6 คน ประกอบด้วย น.อ.วุฒิกร สุวารี เสนาธิการศูนย์การทหารอากาศโยธิน หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน, น.อ.สุรินท์นาท เจริญจิตต์ นายแพทย์ กองศัลยกรรม โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ, น.ท.ณัฐนัย จันทร์เปล่ง หัวหน้าแผนกโครงการและงบประมาณ กองนโยบายและแผน สำนักนโยบายและแผน กรมยุทธการทหารอากาศ, น.ต.หญิง ปพิชญา รำพึงกิจ หัวหน้าแผนกสื่อสารมวลชน กองประชาสัมพันธ์ สำนักกิจการพลเรือน คอยเป็นทีม “ซัพพอร์ต” ในเรื่องการประสานงานกับสื่อ

พูดถึง “รมต.สุทิน” ตอนนี้ยังเดินสายตรวจเยี่ยมเหล่าทัพตามธรรมเนียม ที่ยิ่งใหญ่ “เซอร์ไพรส์” ก็คงเป็นที่กองทัพบก เมื่อ “ผบ.ต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. จัดเตรียมทหารม้ากองเกียรติยศ และรถม้าเกียรติยศ ของ พล.ร.2 รอ.มารอรับถึงหน้า บก.ทบ. ก่อนทำการตรวจแถวกองเกียรติยศ โดยมี พล.ต.โกญจนาท ธูปเทียนรัตน์ ผบ.พล.ร.2 รอ.นั่งบนรถม้ามาด้วย เหมือนขั้นตอนในการเทิดเกียรติอดีตผู้บังคับบัญชาเหล่าทหารเกษียณอายุราชการ ก่อนที่จะนำเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ฟังบรรยายสรุป นอกจากเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ทหารเห็นว่ายังจำเป็นต้องคงไว้ เพื่อเป็นเครื่องมือให้เจ้าหน้าที่ขยายผลปฏิบัติการไปยังเครือข่ายผู้ก่อเหตุแล้ว ก็คือการขอให้รัฐบาลอนุมัติงบกลางด้านบรรเทาสาธารณภัย โดยเฉพาะที่มีใช้ไปแล้วกลับมาด้วย โดย รมต.สุทินพร้อมชี้แจงแทนให้กองทัพทุกเรื่อง รวมถึงงบประมาณปี 2567 ที่ต้องทำหน้าที่เป็นเจ้ากระทรวงในการชี้แจงต่อสภาฯ ด้วย

ฟังนักวิชาการวิเคราะห์เรื่องสถานการณ์ในอิสราเอล และการอำนวยการอพยพคนกลับประเทศนั้น ในส่วนของฝ่ายนโยบายมีการชี้เป้าไปที่รัฐบาลไม่มีรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง นายกฯ เป็นคนคุมงานดังกล่าวเอง ที่สำคัญคือยังไม่มีการตั้งเลขาธิการ สมช.มาดำรงตำแหน่งแทน “เลขาฯ ไก่” พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม ที่เกษียณอายุราชการ หลังจากที่ “ศึกสีกากี” จบลงกันแบบ “ซอฟต์แลนดิง” ไม่ต้องส่งออกใครไปนั่งที่ทำเนียบฯ ในตำแหน่งดังกล่าว ต่างจากสูตรรัฐบาลที่มีนายกฯ ลุงตู่ซึ่งเป็นทหาร ปิดโผแล้วก็จะมีการส่งคนที่พลาดหวังจากกองบัญชาการกองทัพไทย หรือสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม  มานั่งทำหน้าที่เลขาฯ สมช.อยู่หลายคน ดังนั้นชื่อของ “คนใน” อย่าง "รองหนุ่ม" ฉัตรชัย บางชวด ที่เลขาฯ ไก่เสนอให้ขึ้นเป็น เลขาธิการ สมช.คนต่อไป ก็น่าจะผ่านฉลุย เพราะนอกจากเป็นมือทำงานที่รู้รอบด้านแล้ว ในเรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เชี่ยวชาญไม่แพ้ทหารเหมือนกัน