บันทึกหน้า 4

บรรดารัฐมนตรีในรัฐนาวา “เศรษฐา 1” มักอวย “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสมอๆ ว่า การทำงานเหมือนและยิ่งกว่า “ทักษิณ ชินวัตร” นายกฯ ในใจของคนเสื้อแดง แต่ดูจากเหตุการณ์ภาวะฉุกเฉินหลายๆ ครั้งที่เกิดใน “เรือนิด” นี้แล้ว ต้องส่ายหัว และถึงขั้นสอบตกกันเลยทีเดียว ครั้งแรกก็เหตุการณ์บุกค้นบ้านเช่าของ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” รอง ผบ.ตร. ที่ตอนนี้เรื่องเงียบหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่า “นายกฯ นิด” ค่อนข้างมะงุมมะงาหรากว่าจะคว้าเรื่องดังกล่าวแบบรู้เรื่องแค่ 50-60% ก็ข้ามวันไปแล้ว ...๐

นึกว่าจะมีบทเรียนให้ปรับตัว แต่ที่ไหนได้ เหตุการณ์ “กลุ่มฮามาส” ยิงจรวดถล่ม “อิสราเอล” ที่กระเทือนถึงแรงงานไทยที่มีเหยียบ 2-3 หมื่นคน นอกจาก “ปากไว” ในทางออนไลน์แล้ว ต้องบอกว่าการตัดสินใจเรียกว่าไม่สมกับผู้นำประเทศเสียจริงๆ

เพราะตั้งแต่วันแรกที่มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 12 รายนั้น ถือเป็นชาวต่างประเทศในอิสราเอลที่เสียชีวิตมากที่สุด แต่ “เศรษฐา” กลับเลือกที่จะเดินทางไปทริปต่างประเทศตามที่กำหนดไว้  แทนที่จะเลื่อนและเลือกเป็นผู้นำรัฐบาลอยู่ในประเทศ เป็นขวัญและกำลังใจให้แรงงานในต่างแดน แตกต่างจากกรณี “ทักษิณ” เสียจริงๆ เพราะ ในยุค “แม้วครองเมือง” นั้น ก็เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน แม้จะเป็นเพื่อนบ้านกัมพูชา แต่ “ทักษิณ” ก็เทกแอกชันและสั่งประชุมหน่วยงานความมั่นคงทันที ต่างกับ “เศรษฐา” ราวฟ้ากับเหว ...๐

ล่าสุด “กาญจนา ภัทรโชค” อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ก็แถลงพัฒนาการสถานการณ์ในอิสราเอล โดยบอกว่ามีคนไทยเสียชีวิตจากจรวดโจมตีอีก 2 ราย รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 20 ราย ผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมอีก 4 ราย รวม 13 ราย และถูกจับเป็นตัวประกัน 14 ราย ในขณะที่ยอดคนไทยที่ลงทะเบียนประสงค์กลับประเทศไทย ณ วันที่ 10 ต.ค. มีทั้งสิ้น 5,019 คน ไม่ขอกลับ 61 ราย เรียกว่าตัวเลขพุ่งสูงลิ่วนำหน้านานาชาติไปไกลสุดกู่ แต่ดูเหมือน “เศรษฐา” ก็ยังหลงใหลได้ปลื้มกับการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ จึงไม่แปลกที่เสียงกระหึ่มว่าด้วยรัฐบาลไม่สนใจหรือใส่ใจในเรื่องนี้น้อยเกินกว่าจะเป็น จึงดังเข้าพรรคเพื่อไทยอย่างหนาหู ...๐

แล้วที่ขำไม่ออกเข้าไปอีก เพราะนอกจาก “เศรษฐา” จะห่างหายไปในเรื่องนี้แล้ว ในวันแรก “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ที่ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ ยังออกมาเป็นตัวตั้งตัวตีมีบทบาทบ้าง รวมถึง “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ แต่พอต่อๆ มา “ปานปรีย์” ก็เงียบหาย ยังดีที่มี “จักรพงษ์ แสงมณี” รมช.กต.มาช่วยกู้หน้าได้บ้าง แต่ที่ทั้งประเทศได้แต่งงคือ รมว.กลาโหมที่ต้องเป็นหนึ่งในคีย์แมนหลักอย่าง “สุทิน คลังแสง” นั้นก็เงียบหายแทบไม่ต่างจาก “นายกฯ คนที่ 30” แต่ประการใด แม้ล่าสุดจะโผล่มาการันตีความปลอดภัยตัวประกัน แต่ก็ดูเหมือนข้อมูลจะเอาต์ซะเหลือเกิน เพราะยังบอกว่ามีผู้สมัครใจจะกลับแค่ระดับพัน ทั้งที่ตัวเลขล่าสุดปาเข้าไปเกินครึ่งหมื่นแล้ว ที่สำคัญ “โฆษก กต.” ยังบอกเองว่าไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของตัวประกันได้ เพราะอยู่ในภาวะสงคราม …๐

งานนี้คงต้องให้ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจหรือเปล่าไม่รู้ น่าจะทบทวนและล้างไพ่รัฐนาวาเศรษฐาใหม่ซะแล้ว เพราะหากยังดึงดันใช้คนกันเอง แต่ผลงานไม่เอาอ่าว ก็บอกได้คำเดียวที่ประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่ในอีก 4 ปีข้างหน้า พรรคเพื่อไทยจะชนะถล่มทลายนั้น จอดไม่ต้องแจวแล้วพ่อคุณ เพราะอย่าลืมว่า นี่ยังไม่ถึง 1 ไตรมาสดี มีเรื่องร้อนมาลองของรัฐบาลแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่กลับไม่สามารถแก้หรือกู้หน้าคืนมาได้เลย ...๐

ไม่ใช่แต่ พท.ที่ออกอาการน่าเป็นห่วงเท่านั้น “พรรคก้าวไกล” ของ “ชัยธวัช ตุลาธน” เองก็ใช่ย่อย เพราะดูเหมือน สส.คุณภาพที่คัดกันมา มีทั้งเรื่องซุกหุ้นเอย เมาแล้วขับเอย ทำร้ายร่างกายเอย ล่าสุดยังมีการลวนลามทางเพศเข้ามาอีก แล้วที่สำคัญสังคมก็งงว่าทำไม ตัวตึง ไม่ว่า “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” หรือแม้แต่ “รังสิมันต์ โรม” ที่มักโชว์ออฟเสมอๆ ทีเรื่องนี้กลับเงียบเป็นเป่าสาก ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ในเรื่อง “ตั๋วปารีส” แต่ประการใดเลย หรือว่าเพราะเป็นคนและสมาชิกของพรรคก็เลยปากว่าตาขยิบ ขนาด “ณัฐวุฒิ บัวประทุม” สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ในฐานะประธานคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณสมาชิกพรรคบอกว่า มีการสอบมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าผลสรุปจะได้เมื่อไหร่ แหม! ทีเรื่องของชาวบ้านชาวช่องตีฆ้องร้องป่าวขีดเส้นว่าต้องเท่านั้นเท่านี้ แต่เรื่องฉาวของพรรคตัวเองกลับเอ้อระเหยลอยชาย นี่หรือพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ ขำไม่ออกจริงๆ ...๐

 

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

"นายหัวชวน" ออกโรงตวัดใบมีดโกนกรีดปาก "นายใหญ่" เจ้าของตำแหน่ง สทร. "คุณทักษิณบอกว่าเขาคือนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่ผมเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกง ไม่ซื้อเสียง

บันทึกหน้า 4

ต้องยกนิ้วให้ “โทนี่ วู้ดซัม” เสียจริงๆ เพราะขยับปากแต่ละทีนอกจากสร้างความฮือฮาให้สังคมแล้ว ยัง สร้างภาระให้กับลูกสาวอย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีอีกด้วย โดยล่าสุดก็ในการไปหาเสียงให้ “สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” ศรีภรรยา “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ที่จะลงชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.เชียงราย เมื่อวันที่ 5 ม.ค.นั่นแล ...๐

บันทึกหน้า 4

เมื่อวันอังคารมีการประชุม ครม.ครั้งแรกในปี 2568 หลังจากผ่านวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องมาแก้ตัวแทน พ่อนายกฯ นายทักษิณ ชินวัตร

บันทึกหน้า 4

” นึกว่าจะอยู่ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง อบจ.เชียงราย แต่ที่ไหนได้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาในฐานะเป็นเจ้าของรัฐบาล โชว์บทบาทกำหนดทิศทางการทำงานของประเทศ การปรับ ครม. แถมยังด่ากราดคนเห็นต่างในหลายประเด็น

บันทึกหน้า 4

เปิดบันทึกด้วยความตะลึงตึงตึงกับตำแหน่ง "ที่สุด" อีกครั้งของนายกฯ หญิงอายุน้อยที่สุด แพทองธาร ชินวัตร เพราะมีทรัพย์สินอยู่ถึง 13,846 ล้านบาท และตัวเลขที่ออกนี้ วิเคราะห์วิจารณ์กันยกใหญ่ว่า อาจจะเป็นนายกฯ ที่มั่งคั่งที่สุดในโลกนะเออ!! ...0

บันทึกหน้า 4

หลังกลับเข้าสู่โหมดการทำงาน-การใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติ ตามปฏิทินประจำปี 2568 กันแล้ว ตลอดปี 2568 ที่เป็นปีมะเส็ง นักวิเคราะห์การเมืองหลายสำนักก็ยังมองว่า การเมืองไทยปีหน้า ก็ยังมีหลายเรื่องให้น่าติดตาม เช่น การเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัดทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ก.พ.2568