เมื่อช่วงสุดสัปดาห์มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเหล่านักเศรษฐศาสตร์ร่วมกันลงชื่อคัดค้านเงินดิจิทัลวอลเล็ต ด้วยเหตุที่ว่าได้ไม่คุ้มเสีย โดยเหล่าสส.ของพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาร่วมกันชี้แจงผ่านโซเชียลมีเดีย 1 ในนั้นมี “อิ่ม” ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร
“พรรคเพื่อไทยและรัฐบาล พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากทุกฝ่ายมาโดยตลอด เพื่อให้การดำเนินนโยบายของรัฐบาลสอดคล้องกับความต้องการและเป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ดังนั้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ออกมาทุกเสียงเชื่อว่ารัฐบาลให้ความสำคัญ
และจากการติดตามความคืบหน้าในการจัดทำนโยบายนี้มาโดยตลอดก็เห็นได้ว่ารัฐบาลได้พยายามดำเนินการตามเป้าหมายสูงสุด คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน ปลุกกำลังซื้อให้ฟื้นขึ้น กระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้พ้นโคม่า โดยยึดหลักของวินัยการเงินการคลังอย่างเข้มข้น !”
“ธีรรัตน์” สำทับ ด้วยว่า “นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ถือได้ว่าเป็นนโยบายที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนมากที่สุด เป็นความหวังของพี่น้องประชาชนที่ฝากไว้กับรัฐบาลให้เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากที่ผ่านมา 8-9 ปี พี่น้องประชาชนต้องทนทุกข์กับวิกฤตเศรษฐกิจปากท้อง หลายครอบครัวรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย หลายคนเป็นหนี้เป็นสิน ดังนั้นที่ผ่านมาจึงได้ยินเสียงจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ สอบถามเกี่ยวกับนโยบายนี้ และหวังว่าเงินดิจิทัล 10,000 บาทนี้จะช่วยให้เขาสามารถใช้จ่ายในการดำรงชีวิตได้คล่องตัวมากขึ้นและหลายคนอาจวางแผนไปถึงการรวบรวมเงินทุนเพื่อตั้งหลักประกอบอาชีพขึ้นอีกครั้ง ”
“อิ่ม” ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร ยังมองว่า
“นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทนั้นไม่ได้เป็นเพียงกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่จะนำไปสู่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ระบบการเงินยุคใหม่ ที่จะสร้างเศรษฐกิจประเทศระยะยาว ซึ่งมีข้อมูลว่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะสามารถเติบโตได้รวดเร็วกว่าเศรษฐกิจพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนโดยตรง ”
เรียกได้ว่าเรื่องนี้มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่นโยบายของรัฐบาลเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนแสดงความคิดเห็นเป็นธรรมดา ให้เวลารัฐบาลทำงานก่อน แล้วค่อยมาดูผลลัพธ์ว่าเป็นอย่างไร เชื่อว่ามีคนรอลุ้นกันไปตามๆกัน อิอิ.
เจ้าพระพาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อายุไม่ถึงไปนิดเดียว
ต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือนายก อบจ.ทั่วประเทศ หลายสนามสู้กันดุเดือด มีการเมืองระดับชาติเข้าไปผสมโรง
“ผ้าไทยใส่ให้สนุก”
เมื่อเร็วๆนี้ “มท.หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย (มท.1) ถือโอกาสพานายกฯอิ๊งค์“ “แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชมนิทรรศการและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่เข้าร่วมโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ที่ทำเนียบรัฐบาล
หลอกแล้ว หลอกอีก หลอนต่อ
ควันหลงเวที “ทักษิณ ชินวัตร” เทวดาชั้น14 เดินทางไปจังหวัดอุดรธานี ที่บอกว่าไปช่วย “ศราวุธ เพชรพนมพร”ผู้สมัครนายกอบจ.อุดรฯ ของพรรค หาเสียงดูเหมือนเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง
“ต๋อม เวอร์ชันดุ”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานีของเหล่าผู้ช่วยหาเสียง ดุเดือด แบบที่ไม่มีใครยอมใคร ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน และเมื่อวันที่ 16-17 พ.ย.ที่ผ่านมา พรรคประชาชน นำโดย “ชัยธวัช ตุลาธน” ผู้ช่วยหาเสียง ได้เดินหน้าจัดเต็มขึ้นเวทีปราศรัยกันอย่างดุเดือด
โชว์ลีลารำวง
เมื่อสวมหมวกหลายใบ ภารกิจของ “สส.มุ่ง” อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็จะเยอะหน่อย ไม่ว่าจะในฐานะสส. ที่ขาดไม่ได้ต้องร่วมทุกกิจกรรมในพื้นที่ ทั้งงานกฐิน
ไม่มีเกาะ ไม่มีเขา
เป็นเรื่้องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในรัฐบาลชุดนี้กับประเด็นร้อนๆ ที่ดินเขากระโดง อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดศึกกับกรมที่ดิน