ไม่ได้รู้สึกเห็นใจ

ได้ดู “ของแขก” กันรึยังล่ะ?

อย่าคิดมาก..ผมหมายถึงภาพยนตร์ไทยที่กำลังฉายโกยเงินวันละเฉียด 10 ล้านบาทอยู่ในขณะนี้น่ะ!

ได้ยิน-ได้อ่านจากปาก จากโพสต์ของคนที่เขาได้ไปดูมา พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นหนังผีที่ระทึก สยอง ขนหัวลุกกันเลยว่าอย่างงั้น

และที่น่าสนใจ เป็นหนังผีที่เล่าถึงความลี้ลับ ไสยศาสตร์ มนตร์ดำที่เป็น “ความเชื่อ” ของชาวมุสลิมครั้งแรกบนจอเงินเสียด้วยสิ!

นี่..ก็ตั้งใจจะไม่พลาด บอกตามตรงยังไม่เคยได้ดูหนังไทยไสยศาสตร์แบบแขกมาก่อน ยิ่งรู้ว่าผู้กำกับ คุณเกรียงไกร มณวิจิต เป็นคนบางนรา-จ.นราธิวาสด้วยแล้ว..

จะว่า “ภาคนิยม” ก็เอา..ต้องไปดูฝีมือ เป็นกำลังใจและสนับสนุนกันหน่อยล่ะ!

อีกเรื่อง.. “มนต์รักนักพากย์” ของผู้กำกับรุ่นใหญ่ คุณอุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร ไม่ได้ดูต้องลงแดงแน่ ตอนนี้เห็นโปรโมตทุกช่องทาง..

ล่าสุด คุณอุ๋ยโพสต์.. “ขอเชิญพ่อแม่พี่น้องพบกับการเปิดตัวใบปิดภาพยนตร์ 'มนต์รักนักพากย์' อย่างเป็นทางการ ที่วันนี้ได้ อ.บรรณหาร ไทธนบูรณ์ ตำนานมือวาดใบปิดหนังไทย

มาถ่ายทอดเรื่องราวของมิตรภาพ ความฝัน และ การพากย์ ได้อย่างเข้มข้นทุกดีเทล นำแสดงโดยเหล่านักแสดงชั้นนำอย่าง เวียร์-หนูนา-เก้า-สามารถ

ไม่เกินอึดใจที่ทุกท่านจะได้ร่วมเดินทางย้อนยุคสู่ ยุคทองของหนังไทยพร้อมๆ กันบนภาพยนตร์มนต์รักนักพากย์ 11 ตุลาคมนี้ ที่ Netflix เท่านั้น”

ผมดูตัวอย่างมาหลายรอบ ชอบบรรยากาศของหนัง ทำให้ได้รำลึกถึงความหลัง อดีตสมัยที่นั่งดูหนังกลางแปลง รถขายยาอยู่บ้านนอก

แต่ไม่เคยเห็นนะ.. “นักพากย์” สาวหน้าตาดีอย่าง “หนูนา” ส่วนใหญ่จะเห็นก็แต่นักพากย์ผู้ชายที่พากย์อยู่คนเดียว ให้เสียงหมดทุกตัวละคร ถ้าเป็นสมัยนี้ต้องบอกว่า..ดูไปก็ว้าวุ่นไป!

เสียดาย..ที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั้งเครือเมเจอร์-เอสเอฟ ไม่งั้นคงได้รู้-ได้เห็นตัวเลขรายได้..

ซึ่งนั่นหมายถึง “ความสำเร็จ-ความล้มเหลว” ที่ผู้กำกับจะได้รับรู้ แต่การฉายในเน็ตฟลิกซ์วัดอะไรไม่ค่อยได้มากนัก แม้จะมีกระแสก็แค่เฉพาะกลุ่ม ไม่ได้กว้างกระจายเหมือนฉายในโรง!

เอ้า..ส่วนนั่น “กระแส” ยังแรงไม่แผ่ว ซึ่งเท่าที่สดับฟัง หลายๆ ท่านก็ต่างให้กำลังใจกับคุณหมอพรทิพย์หลังจากที่ไปโดนมนุษย์ป่าเถื่อนใช้พฤติกรรรมต่ำตมขับไล่ออกจากร้านในต่างแดน

มีก็แต่ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่มองกรณีนี้ว่า.. “ด้วยระบบที่ไม่ตรงไปตรงมาและระบบทำให้เกิดความขัดแย้ง เสียงประชาชนที่มาจากเลือกตั้ง

และเสียงในสภาที่มาจากการแต่งตั้ง ไม่ตรงไปตรงมา และเกิดความอึดอัดที่ต้องระบายออก ตนก็เข้าใจประชาชนที่อดทนอดกลั้น

และรู้สึกไม่สบายใจกับการเข้าสู่อำนาจของการเมืองไทย และระบบการเมืองไทยที่ผ่านมา ก็อยากให้ระบบมันดี ถ้าระบบมันดี เรื่องลักษณะแบบนี้ก็จะน้อยลง เพราะมีรูระบายในระบบ”

ซึ่งฟัง (อ่าน) แล้วก็ว้าวุ่นอยู่ จะตำหนิก็ไม่เชิง จะสนับสนุนก็ไม่ใช่ ไม่ตรงไป-ตรงมาเหมือนอย่างคุณเอ๋-ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส. ที่โพสต์..#หมอพรทิพย์ #ดันทุรังเอง

“มันเป็นสิทธิของร้านอาหารนะ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดคือไม่ต้อนรับ ไม่ให้บริการ ถ้าครั้งแรกเขาไล่ก็ควรรีบไป ชัดเจนว่า..หมอพรทิพย์ดันทุรังอยู่ต่อ จึงต้องรับสภาพ

เห็นภาพ ไม่ได้รู้สึกเห็นใจท่าน สว.หรือ สส.เลย รู้สึกแต่เสียดายเงินภาษีประชาชน เมื่อช่วงที่บ้านเมืองกำลังมีปัญหาต้องแก้ไขเยอะ

ช่วงที่มีประชุมสภา สส. สว. ยังจะมีอารมณ์มาเล่นดนตรีไทยที่ไอซ์แลนด์ได้อย่างไรคะ....”

อ่านแล้ว..อืมม ไม่ได้รู้สึกเห็นใจเลยที่ศาลสั่งคุณเอ๋ ปารีณา “ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต”!

นี่..ไม่คิดเลยว่า คนที่มีความรู้ หน้าตาดีระดับเคยผ่านเวทีประกวดนางสาวไทย จะมีความคิด-มุมมองแบบนี้

และที่ว่า.. “รู้สึกเสียดายเงินภาษีประชาชน” นั้น คุณเอ๋กำลังจะบอกว่าคุณหมอพรทิพย์กับเพื่อน สส.ใช้งบ-ใช้เงินหลวงอย่างหมออ๋องที่ยกคณะไปเที่ยวสิงคโปร์กระนั้นรึ?

ก็..ไม่ได้จะตำหนิ แต่ในฐานะที่เคยชื่นชอบในบทบาท-หน้าที่ของนักการเมือง ขอพูดเพียง..อย่าปล่อยให้อคติบดบังความถูกต้อง-ความดีงามของผู้อื่นไปเลย

และพยายามหล่อเลี้ยงจิตใจตัวเองให้อยู่อย่างมีความหมาย มีความสุขเถอะนะ..

แสงน่ะ..หิวให้น้อยๆ!.

 

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขึ้นอยู่กับ“กรรม”แต่ละคน!

84 วันฝันร้าย! สุดท้าย คดีดิไอคอนกรุ๊ป อัยการฝ่ายคดีพิเศษมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม” คุณยุรนันทร์ ภมรมนตรี กับ “บอสมิน” คุณพีชญา วัฒนามนตรี ทุกข้อหา..

อหังการ-ขี้โม้เป็นนิสัย

เกิดอะไรขึ้น? เพื่อนคนหนึ่งถามผมหลังเห็นข้อความที่ “เสก โลโซ” โพสต์.. “ประกาศจากพี่เสก โลโซ เรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่นักดนตรีประจำสามารถนำเพลงไปร้องได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์

เก็บเชือกไว้ใช้เองเถอะ

“เส้นกูใหญ่.. ใครก็ทำกูไม่ได้ ใครก็เอากูไม่ลง เพราะกูใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่านายพล ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ใหญ่กว่า... ใหญ่กว่าทั้งหมด กูแบ็กดี

คิดถึงนักรบลุง

กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่.. มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?

เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก

เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน

นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?

ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..