'บิ๊กต่อ' ต้องพิสูจน์

ชื่นชมๆ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ยึดหลักการและแนวทางของตัวเองในการพิจารณาหลักเกณฑ์ของกฎหมายในการแต่งตั้ง

"ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" หรือ "ผบ.ตร." คนที่ 14

โดยยกมือโหวตไม่เห็นด้วย ในการเสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับ 4 ขึ้นดำรงตำแหน่ง "ผบ.ตร." คนใหม่

ซึ่งเป็น 1 เสียง จาก 12 เสียงในวงประชุม ก.ตร.ที่ไม่เห็นด้วย มี 9 เสียงเห็นชอบ อีก 2 เสียงงดออกเสียง

พล.ต.อ.เอก โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุชัด....

"ผมได้โหวตไม่เห็นด้วยเป็นเสียงข้างน้อย ด้วยเหตุผลที่ได้ขอบันทึกไว้ในรายงานการประชุมว่า การคัดเลือกแต่งตั้ง ผบ.ตร.ไม่เป็นหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้”

พร้อมอธิบายถึงการอภิปรายแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม ถึงบริบทกฎหมายการแต่งตั้งตำรวจ เริ่มตั้งแต่กฎหมายรัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ปรับปรุงกฎหมายบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจให้เกิดประสิทธิภาพ มีหลักประกันว่าตำรวจจะได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย การแต่งตั้งต้องคำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน เพื่อให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้อิสระ ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด

"พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 (ฉบับปฏิรูปตำรวจ) ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ โดยระบุเหตุผลและความจำเป็นเพื่อให้การบริหารงานบุคคลเป็นไปตามระบบคุณธรรม มีมาตรการป้องกันมิให้ผู้ใดใช้อำนาจหรือกระทำการโดยมิชอบ การแต่งตั้งคำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถ ให้ความสำคัญของอาวุโสในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในทุกระดับ

กฎหมายตำรวจฉบับนี้มีบทบัญญัติในหลายมาตรา (ม.60 ม.87 ม.88 ม.150) ที่ทำให้เห็นเจตนารมณ์ของกฎหมาย มุ่งเน้นในเรื่องระบบคุณธรรม และการคุ้มครองระบบคุณธรรม ตลอดจนกำหนดโทษทั้งทางวินัยและทางอาญา"

นั่นคือหลักการ นั่นคือแนวทางที่ "พล.ต.อ.เอก" ยืนยัน ยืนหยัด จะทำหน้าที่ตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญา “จะปกป้องศักดิ์ศรี ตำรวจดีของประชาชน”

ครับ...อย่าไปมองมุมแตกต่าง อย่าไปมองมุมแตกแยก  1 เสียงค้าน 9 เสียงเห็นด้วย ทำให้ภาพพจน์ ก.ตร.อยู่บนหลักประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ มีเสียง มีความเห็นเป็นของตัวเอง

บ่งบอกให้รู้ว่า "ก.ตร." ไม่ใช่ตรายาง อย่างที่หลายคนครหา อย่างที่หลายคนค่อนแคะ

เมื่อเสียงข้างมากเห็นชอบ "พล.ต.อ.ต่อศักดิ์" ดำรงตำแหน่ง "ผบ.ตร." ขั้นตอนกระบวนการคัดเลือก "ผบ.ตร." คนใหม่ ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ก็ทำหน้าที่ "ผบ.ตร." อย่างเต็มภาคภูมิ

เพียงแต่สิ่งสำคัญนับจากนี้ "บิ๊กต่อ" จะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ตำรวจทั่วประเทศ และประชาชนทุกคน ได้เห็นถึงผลงาน ได้เห็นถึงฝีมือว่าเหมาะสมกับตำแหน่ง "ผู้นำสีกากี" ที่ได้รับแค่ไหน อย่างไร

โดยเฉพาะการกอบกู้ศรัทธา "ตำรวจ" จากสายตาประชาชน ให้กลับคืนมาเป็นที่พึ่งอีกครั้ง หลังจากมีแต่พฤติกรรมเสื่อมเสีย พฤติกรรมเน่าเฟะ มีแต่เรื่องผลประโยชน์ จนสังคมส่ายหน้า

เพรียกหาการ "ปฏิรูปตำรวจ" อีกครั้ง. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รองผบ.ตร.'ไขก๊อก!

ก็ยังคงต้องลุ้น ยังคงต้องรอดูกันไป ข่าวเมาธ์ ข่าวลือ เรื่อง ผบ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล จะทิ้งเก้าอี้ "ผบ.ตร." ก่อนเกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย.2567

อยู่แบบพี่น้อง

ถึงกับต้องอมยิ้ม เมื่อได้ยิน ผบ.ต่อศักดิ์ ให้สัมภาษณ์นักข่าวครั้งแรก หลังกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง ถึงเรื่องที่ บิ๊กโจ๊ก ยื่นคำร้องถึง ผบ.ตร.ให้เซ็นยกเลิกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนจะพิจารณาด้วยตนเองหรือไม่

'ก.พ.ค.ตร.'พึ่งได้?

อย่าเพิ่งใจร้อน ทั้งกองเชียร์ กองแช่ง ปมร้อนๆกรณีคำสั่งให้ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน

เชือดไก่โชว์ลิง

จบกันไปแบบโลกสวย ศึก "นายพลสีกากี" เมื่อผู้มีอำนาจใช้ตำรา ปล่อยเวลาให้เยียวยาความบาดหมาง "สีกากี" ก็วนลูปกันต่อไป

ซุกขยะเหม็นโฉ่

ก็เป็นซะอย่างนี้ จะไม่ให้ชาวบ้านสงสัย จะไม่ให้ชาวบ้านครหา จะไม่ให้ชาวบ้านมองตำรวจมีแต่ภาพลบ มีแต่เรื่องรีดไถ มีแต่เรื่องผลประโยชน์ได้อย่างไรไหว เวลาเกิดเรื่องงามหน้า เกิดเรื่องอื้อฉาวทีไร "ตำรวจ"

สีกากีวุ่นไม่จบ!

ยักแย่ยักยันกันจนน่าปวดหัว คดีเว็บพนันออนไลน์ ที่มี "ตำรวจใหญ่" เข้าไปเกี่ยวข้อง ต่างฝ่ายต่างชิงไหวชิงพริบ จนชาวบ้านที่ติดตาม ที่อยากรู้ข้อเท็จจริง ต่างตั้งคำถาม