ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net นายกฯ เศรษฐี ที่ชื่อ "เศรษฐา" ประกาศไม่รับเงินเดือนและค่าตอบแทนอื่นๆ ของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แม้ไม่ติดรายชื่อ 50 มหาเศรษฐีชาวไทย ประจำปี 2023 ตามที่ฟอร์บส์จัดอันดับไว้ แต่ในฐานะนักการเมืองก็รวยอันดับต้นๆ ของประเทศ ถึงจะเทียบไม่ได้กับ "ทักษิณ ชินวัตร" ที่รั้งลำดับที่ 13 มีทรัพย์สิน 2.1 พันล้านเหรียญฯ หรือ 7.3 หมื่นล้านบาทก็ตาม อย่าลืมว่าอดีตเจ้าพ่ออสังหาฯ คนนี้ ก่อนเข้าสู่เส้นทางการเมือง เป็นซีอีโอ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีสินทรัพย์มากกว่าแสนล้านบาท และมีรายได้ต่อปีหลักหมื่นล้านบาท ก่อนโอนหุ้นทั้งหมดที่มี 661 ล้านหุ้น ตีเป็นมูลค่ามากกว่า 786 ล้านบาท
ให้กับบุตรสาว นอกจากนี้ยังโอนหุ้นอีก 12 บริษัท ซึ่งบางบริษัทยังมีสถานะเป็นกรรมการด้วย อาทิ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน), บริษัท คิวที ไลฟ์สไตล์, บริษัท สิริพัฒน์ เซเว่น จำกัด, บริษัท สิริพัฒน์ ไฟฟ์ จำกัด, บริษัท สุรช จำกัด ถ้าอยากรู้อู้ฟู่ขนาดไหนอดใจรออีกนิด ช่วงเดือน พ.ย. สำนักงาน ป.ป.ช. น่าจะไขเซฟสมบัตินายกฯ ออกมาตีแผ่ให้ประชาชนได้เห็นกันทุกบาททุกสตางค์ ไม่แน่ใจว่าเสี่ยนิดได้แรงบันดาลใจจากเจ้าพ่ออสังหาฯ ระดับโลกอย่าง "โดนัลด์ ทรัมป์" หรือเปล่า ที่ไม่รับเงินเดือนตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เอาเป็นว่าการยกเงินทั้งหมดบริจาคให้มูลนิธิเด็กถือเป็นเรื่องดี แต่จะดียิ่งกว่านั้น ช่วยทำให้วาทกรรม "รวยแล้วไม่โกง" เป็นจริงเสียที อย่าเดินซ้ำรอย "น.ช.ทักษิณ" สาธุ!
๐ ยังเป็นประเด็นร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ฝั่งบิ๊กโจ๊กเพลาลง หลังลาไปทำสมาธิ เมื่อวันพฤหัสฯ เลยขยับไปอยู่ในสภาแทน โดย สส.ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านรุมแสดงความคิดเห็นในญัตติด่วนเรื่องการแก้ไขความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติและปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กรตำรวจ โดยเฉพาะความกังขาการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ที่ สส.ก้าวไกลประสานงานกันเป็นทอดๆ ถล่มนายกฯ ก่อนบินไปเยือนกัมพูชา นายกฯ นิดปฏิเสธที่จะบอกถึงเหตุผลในการเสนอชื่อ "พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล" นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. ต่อที่ประชุม ก.ตร. แจงแค่ว่า "ผมทำด้วยเจตนารมณ์บริสุทธิ์ ไม่ได้ลุแก่อำนาจ และได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวางในที่ประชุม เปิดโอกาสให้ทุกท่านได้พูด และให้ความเป็นธรรมกับแคนดิเดตทุกคน" พร้อมย้ำได้ดูเรื่องข้อกฎหมายเรียบร้อย แต่ก็มีข่าวเล็ดลอดจากที่ประชุม ก.ตร. ถึงเหตุผลที่นายเศรษฐาแจ้งต่อที่ประชุมว่า "แคนดิเดต ผบ.ตร.ทั้ง 4 ท่าน มีอาวุโสในทางราชการและการขึ้นสู่ตำแหน่งบริหารที่ต่างกันไม่มากนัก ทุกคนมีความรู้ความสามารถเท่าเทียมกัน ผ่านงานมาทุกรูปแบบ แต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ จะต้องทำงานสนองนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน จึงมั่นใจว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์สามารถทำงานส่วนนี้ได้ดี"
๐ หลังมีข่าวคราวการเปลี่ยนชุดรำบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว งานกาชาดจังหวัดขอนแก่น เเละงานขอนแก่นซอฟต์เพาเวอร์ ประจำปี 2566 ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 29 พ.ย.-10 ธ.ค. จากเดิมที่ผ่านมานางรำนับแสนใช้ลายผ้าประจำจังหวัด “แคนแก่นคูน” แต่ปีนี้กลับให้ตัดชุดใหม่ โดยขายในราคาชุดละ 500 บาทนั้น ล่าสุดพ่อเมืองขอนแก่น "ไกรสร กองฉลาด" ออกโรงชี้แจงว่า สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการเเละคณะอนุกรรมการจัดงานฯ เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2566 ในช่วงของการนำเสนอของคณะอนุกรรมการด้านการจัดกิจกรรมรำบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น มีการนำเสนอว่าจะมีกิจกรรมรำบวงสรวงเหมือนเดิมทุกปี และมีการนำเสนอผ้าลายดอกรักราชกัญญา โดยสมาคมส่งเสริมผ้าไทยจังหวัดขอนแก่น เพื่อใช้เป็นทางเลือกชุดสำหรับใส่รำบวงสรวง "ที่ประชุมมีมติในเรื่องดังกล่าวนี้ว่า สำหรับชุดรำบวงสรวง ใครมีชุดสำหรับใช้รำบวงสรวงชุดดอกคูนเสียงแคน หรือลายแคนแก่นคูน เดิมก็สามารถสวมใส่มารำได้ หรืออยากเพิ่มเติมชุดใหม่ หรือชุดหลากสี ชุดผ้าพื้นเมือง ชุดนักเรียน ก็สามารถใส่รำได้ เพื่อให้เกิดความสวยงามและความหลากหลายของผ้าในท้องถิ่น มิได้บังคับให้หาชุดใหม่เพื่อใส่รำแต่อย่างใด เพราะศรัทธาความเชื่อของผู้คน ไม่ควรถูกจำกัดด้วยชุดที่สวมใส่" ในเมื่อผู้ว่าฯ การันตีอย่างนี้ นางรำก็สบายใจ ไม่จำเป็นต้องตัดชุดใหม่ให้เปลืองสตุ้งสตางค์.
ลี้คิมฮวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
” นึกว่าจะอยู่ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง อบจ.เชียงราย แต่ที่ไหนได้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาในฐานะเป็นเจ้าของรัฐบาล โชว์บทบาทกำหนดทิศทางการทำงานของประเทศ การปรับ ครม. แถมยังด่ากราดคนเห็นต่างในหลายประเด็น
บันทึกหน้า 4
เปิดบันทึกด้วยความตะลึงตึงตึงกับตำแหน่ง "ที่สุด" อีกครั้งของนายกฯ หญิงอายุน้อยที่สุด แพทองธาร ชินวัตร เพราะมีทรัพย์สินอยู่ถึง 13,846 ล้านบาท และตัวเลขที่ออกนี้ วิเคราะห์วิจารณ์กันยกใหญ่ว่า อาจจะเป็นนายกฯ ที่มั่งคั่งที่สุดในโลกนะเออ!! ...0
บันทึกหน้า 4
หลังกลับเข้าสู่โหมดการทำงาน-การใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติ ตามปฏิทินประจำปี 2568 กันแล้ว ตลอดปี 2568 ที่เป็นปีมะเส็ง นักวิเคราะห์การเมืองหลายสำนักก็ยังมองว่า การเมืองไทยปีหน้า ก็ยังมีหลายเรื่องให้น่าติดตาม เช่น การเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัดทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ก.พ.2568
บันทึกหน้า 4
" ปีใหม่วันแรก 1 มกราคม 2568 ห้วงเวลา สัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม 2567 เต็มไปด้วยความสูญเสีย ในประเทศไทยเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ช่วงผู้คนสัญจรไปต่างจังหวัด
บันทึกหน้า 4
การเมืองท้ายปี อาจทำให้พรรคส้มใจชื้นขึ้นมาบ้าง สำหรับนิด้าโพลเที่ยวล่าสุด โดยคะแนนขึ้นนำมาเป็นอันดับ 1 ส่วนจะส่งผลนัยทางการเมืองหรือไม่ ต้องไปถาม “เทพไท เสนพงศ์” อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์ฟันธงโดยผลการสำรวจความคิดเห็นของ “นิด้าโพล”
บันทึกหน้า 4
เหนื่อยทั้งปีมีแต่เรื่องเรืองอำนาจ คนทั้งชาติตั้งตารอของขวัญอันปรารถนา ภาวนาเศรษฐกิจให้รุ่งเรืองเฟื่องเงินตรา แต่รัฐบาลไม่นำพาให้ประชาได้อุ่นใจ แพทองทาพาทองโพยโดยไอแพด