วงการสีกากีมีอะไรให้ตื่นเต้นตลอด เป็นดินแดนสนธยาไม่ต่างจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่25ก.ย. จู่ๆก็มีข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจถือหมายค้นไปบุกบ้านตำรวจชั้นผู้ใหญ่บิ๊กเบิ้ม
ชื่อเสียงเป็นที่คุ้นเคยของสังคม “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” รอง ผบ.ตร. บางคนเรียก “บิ๊กโจ๊ก” บางคนว่า “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” เป็นที่กล่าวขานทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ โดยเป็นการขยายผลจากการจับกุมเว็บไซต์พนันออนไลน์ เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่คาดว่าอาจจะพักอยู่บริเวณนี้
หลายส่วนออกมาเคลื่อนไหวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ล่าสุด “เชาว์ มีขวด” ทนายความ อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมากางประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา69 และมาตรา60 ไขข้อสงสัยว่า สามารถค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก ได้หรือไม่???
ทนายเชาว์ โพสต์เฟสบุ๊ค เห็นว่า การขอออกหมายค้นต่อศาล ของตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์)เพื่อค้นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของการออกหมายค้นได้ 1.ค้นเพื่อพบและยึดสิ่งของ 2.ค้นเพื่อจับกุมผู้มีหมายจับ ส่วนรายละเอียดในหมายค้น เพียงระบุสถานที่ที่จะค้น ว่าเป็นบ้านเลขที่ใดก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องระบุว่าบ้านหลังนี้เป็นของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือเป็นของใคร
“เชาว์ มีขวด” ยังบอกอีกว่า การที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รับทราบหมายค้นตามคำสั่งศาลแล้ว พูดจาเชิงข่มขู่ไล่เจ้าพนักงานตำรวจผู้ปฎิบัติตามหมายศาลให้กลับบ้าน ถือเป็นพฤติการณ์ที่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย ถือว่าขัดขวางการค้น และอาจถือเป็นถ้อยคำ สบประมาท หรือทำให้อับอาย เป็นความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน
“พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ย่อมทราบดีอยู่แล้วว่า ผู้มีอำนาจจัดการตามหมายค้น ตามกฎหมายคือ เจ้าพนักงานผู้ที่มีชื่อในหมายค้น หรือผู้รักษาการแทน จะมีอำนาจเป็นหัวหน้าในการจัดการให้เป็นไปตามหมายค้น เพียงแต่ต้องเป็นเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองตั้งแต่ระดับสาม หรือ ตำรวจซึ่งมียศตั้งแต่ชั้นร้อยตำรวจตรีขึ้นไปเท่านั้น ไม่ได้ระบุว่าการค้นบ้านนายตำรวจระดับสูงยศพลตำรวจเอก ต้องให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นผู้นำค้นด้วย”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นการท้าทายฉายา “แมวเก้าชีวิต” ของ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” อีกครั้ง
มินนี่ เม้าธ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยึดคำสอนพี่ตุ๋ย
เข้ามาเสริมทัพแกร่งทีมโฆษกรัฐบาลแล้วร่วม 3 สัปดาห์ สำหรับ “ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์” หรือ “รองฯจิ๊บ” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากค่ายรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หญิงเดียวของทีมโฆษกรัฐบาล
อายุไม่ถึงไปนิดเดียว
ต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือนายก อบจ.ทั่วประเทศ หลายสนามสู้กันดุเดือด มีการเมืองระดับชาติเข้าไปผสมโรง
“ผ้าไทยใส่ให้สนุก”
เมื่อเร็วๆนี้ “มท.หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย (มท.1) ถือโอกาสพานายกฯอิ๊งค์“ “แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชมนิทรรศการและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่เข้าร่วมโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ที่ทำเนียบรัฐบาล
หลอกแล้ว หลอกอีก หลอนต่อ
ควันหลงเวที “ทักษิณ ชินวัตร” เทวดาชั้น14 เดินทางไปจังหวัดอุดรธานี ที่บอกว่าไปช่วย “ศราวุธ เพชรพนมพร”ผู้สมัครนายกอบจ.อุดรฯ ของพรรค หาเสียงดูเหมือนเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง
“ต๋อม เวอร์ชันดุ”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานีของเหล่าผู้ช่วยหาเสียง ดุเดือด แบบที่ไม่มีใครยอมใคร ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน และเมื่อวันที่ 16-17 พ.ย.ที่ผ่านมา พรรคประชาชน นำโดย “ชัยธวัช ตุลาธน” ผู้ช่วยหาเสียง ได้เดินหน้าจัดเต็มขึ้นเวทีปราศรัยกันอย่างดุเดือด
โชว์ลีลารำวง
เมื่อสวมหมวกหลายใบ ภารกิจของ “สส.มุ่ง” อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็จะเยอะหน่อย ไม่ว่าจะในฐานะสส. ที่ขาดไม่ได้ต้องร่วมทุกกิจกรรมในพื้นที่ ทั้งงานกฐิน